รวม 5 รถยนต์ราคาน่ารัก ขับสบาย สไตล์สาวออฟฟิศ

รถยนต์ราคาน่ารัก สำหรับสาวออฟฟิศ

เพราะการเดินทางเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้หลายคนมองหารถยนต์คันเล็กๆ สำหรับขับขี่ในเมือง แต่ก็พร้อมออกต่างจังหวัดบ้างบางครั้งคราว โดยเฉพาะสาวออฟฟิศที่หากไม่ได้ใช้รถก็ต้องลุ้นว่าจะเจอสถานการณ์ไม่สะดวกใจในการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ วันนี้ Chobrod จึงได้นำ 5 รถยนต์ราคาน่ารัก ขับสบายมาเป็นตัวเลือกให้สาวออฟฟิศที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อรถสักคันอยู่ จะมีรุ่นอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

รุ่นแรกของแนะนำ Toyota Vios  ให้กับสาวๆ ช่วยให้เดินทางในเมืองได้อย่างสะดวก ขับง่ายด้วยรูปทรงที่ไม่ใหญ่โตเกินไป

1. Toyota Vios

รถยนต์รุ่นเล็กทีมีความคล่องตัวสูง มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกที่ออกแบบมาอย่างลงตัว พร้อมใช้งานได้ในทุกไลฟ์สไตล์ โดยเฉพาะ Toyota Vios รุ่นปี 2018 ที่ได้ปรับรูปลักษณ์ให้มีความปราดเปรียว และสปอร์ตเร้าใจมากยิ่งขึ้น ผ่านมิติของเส้นสายที่ลงตัวกับกระจังหน้าสีเทาดำเมทัลลิก ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาดกว้าง 195/50 R16 เเบบสปอร์ตสวยงาม และคิ้วกระโปรงท้ายรถที่มีการตกแต่งด้วยแถบโครเมียม สำหรับภายในห้องโดยสาร Toyota Vios 2018 ได้รับการออกแบบมาให้ความรู้สึกที่โปร่ง โล่ง นั่งสบาย  ตกเเต่งภายในด้วยสีดำ และสีเบจ โดยมีวัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้า และแผงประตูทั้งสีแดง สีโรสโกลด์ สีดำ เเละสีเมทัลลิก วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าเป็นเปียโนแบล็ค  เบาะถูกออกแบบมาให้มีเส้นสายจากพื้นหนังสีดำมีการเพิ่มเลเยอร์ให้ดูสปอร์ต ตัดกับแถบและด้ายสีแดง สามารถปรับความสูงต่ำได้ด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความหรูด้วยพวงมาลัยหุ้มด้วยหนังตกแต่งด้วยแทบเปียโนแบล็ค พร้อมกับมีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงที่คอนโทรลได้ง่าย

Toyota Vios 2018 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1,496 ซีซี ในเเบบ 2NR-FBE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i ควบคู่กับการใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีด พร้อม Sequential Shift มาตรวัดที่แผงควบคุมด้านหน้าออกแบบในดีไซน์สปอร์ต มีสัญลักษณ์ ECO ที่แสดงผลออกมาเมื่อมีการขับขี่ในแบบประหยัดอีกด้วย ในส่วนของหน้าจอแสดงข้อมูลจะเป็นแบบ MID ที่แสดงข้อมูลในการขับขี่ทั้งระยะทางรวม, Trip A, Trip B, ระยะที่ขับได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่, ระยะที่ขับได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่, อัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ย, อัตราการใช้น้ำมันในขณะนั้น รวมถึงความเร็วเฉลี่ยด้วย เครื่องเล่นวิทยุ DVD/CD/MP3/WMA  เป็นแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth, ช่องต่อ USB และ AUX และสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกับจอแสดงผลในแบบ LCD ที่สามารถเลือกปรับอุณหภูมิได้อย่างเหมาะสมตามความต้องการ 

สำหรับราคารถยนต์ Toyota Vios 2018 ในปัจจุบันอยู่ที่ 609,000 – 789,000 บาท โดยรุ่นที่มีราคาสูงสุดคือรุ่น Toyota Vios 1.5 S AT สำหรับราคาผ่อนเบาๆ จะอยู่ในช่วง 7,486 ไปจนถึง 15,600 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และการเลือกผ่อนของแต่ละคนนะคะ)

ดูเพิ่มเติม
คำแนะนำสำหรับคุณผู้หญิง..ที่ต้องการจะซื้อรถด้วยตนเอง 
7 รถมือสองน่าซื้อสำหรับมนุษย์เงินเดือน

Toyota Yaris มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ปราดเปรียวเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการความคล่องตัวสูง

2. Toyota Yaris

รถยนต์สไตล์ Hatchback ที่ได้รับการออกแบบตัวถังให้ความรู้สึกสปอร์ตเร้าใจด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียวเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่ต้องการความคล่องตัวสูง ในส่วนของไฟหน้าก็ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่เป็นแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ที่ให้แสงสว่างได้อย่างคมชัด ภายนอกมาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ตกแต่งด้วยสีดำเงาอีกทั้งยังได้รับการติดตั้งแผ่นกันความร้อนที่ฝากระโปรงหน้า และ เสาอากาศแบบ Shark Fin  ด้านหลังได้รับการติดตั้งไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เพิ่มความปลอดภัยในทุกเส้นทางขับขี่ด้วยไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED เสริมด้วยสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ตสีเดียวกับตัวรถ ส่วนช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว พร้อมยาง 185/60 R15

ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำเข้ม พร้อมวัสดุตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงินเมทัลลิก วัสดุตกแต่งแผงควบคุมกระจกไฟฟ้าสีเปียโนแบล็ค วัสดุตกแต่งแผงประตูหุ้มด้วยผ้าบริเวณแขน เพิ่มความโดดเด่นด้วยเบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าสีดำ โดยเบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับระดับสูงต่ำได้พร้อมกระเป๋าหลังเบาะนั่งด้านหน้า ส่วนเบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 บริเวณคอนโซลกลางติดตั้งกล่องเก็บของหุ้มด้วยผ้า และ มือเปิดประตูด้านในแบบโครเมี่ยม ติดตั้งระบบเปิดประตูอัจฉริยะ Smart Entry โดย Toyota Yaris 2018 มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ 3 NR-FE DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-I ขนาด 1.2 ลิตร ให้การประหยัดน้ำมันอย่างเต็มขั้นในทุกเส้นทางการขับขี่

Toyota Yaris ประกอบด้วย 5 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ Toyota Yaris 1.2 J Eco, 1.2 J, 1.2 E, 1.2 G และ 1.2 G+ มีราคาตั้งแต่ 489,000 – 639,000 บาท ราคาผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ 6,011 – 12,674 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และการเลือกผ่อนของแต่ละคนนะคะ)

Toyota Yaris Ativ กับภาพลักษณ์ของสาวยุคใหม่ ทันสมัย

3. Toyota Yaris Ativ

Toyota Yaris Ativ รถยนต์ Eco Car 4 ประตู คันแรกของ Toyota หลังจากที่ในหมวด Eco Car ก่อนหน้านี้จะเป็นแบบรถยนต์นั่ง 5 ประตู การออกแบบน่ามองทั้งภายนอกที่กลับมาพร้อมกับการปรับโฉมกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้า LED รูปแบบใหม่พร้อมไฟเดย์ไทม์รันนิ่ง ปรับดีไซน์ตัวถังช่วงบน ไฟท้าย LED และกันชนแบบใหม่ พร้อมล้ออัลลอยด์แบบใหม่สีทูโทน ส่วนภายในเพิ่มความหรูหราภายในห้องโดยสารด้วยโทนสีดำ แผงคอนโซลตกแต่งด้วยวัสดุเคลือบเงา Piano Black ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีขนาด 4.2 นิ้ว พร้อมปุ่มควบที่เรืองแสงสีฟ้า ช่องแอร์แบบใหม่พวงมาลัยสามก้านดีไซน์ใหม่

สำหรับห้องโดยสารมาการออกแบบภายในที่เน้นความกว้างขวางของห้องโดยสาร และระบบอำนวยความสะดวกที่พร้อมจะสร้างความสุนทรียภาพในการเดินทางได้อย่างไม่น่าเบื่อ ผสมผสานเอาความหรูหรากับการออกแบบในดีไซน์สปอร์ต เบาะนั่งด้านหน้าทรง Sport ตรงกลางมีที่เก็บของอเนกประสงค์ข้างคนขับ พร้อมหุ้มหนัง บริเวณฝาปิดเพิ่มพื้นที่เก็บของพร้อมที่พักแขน เพื่อความผ่อนคลายทุกการขับขี่ ส่วนพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังแบบเรียบ เพื่อการเข้า-ออกที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น เพิ่มความสนุกด้วยลำโพง 6 ตำแหน่งรอบทิศทาง เต็มอิ่มทุกความสุข เต็มอารมณ์ทุกความบันเทิง ,เครื่องเล่นวิทยุ/DVD/CD/MP3/MP4/WMA หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมช่องต่อ USB/HDMI/Micro SD Card/ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth รองรับบริการพิเศษจาก T-connect ,และสุดท้ายคือระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมจอ LCD สะดวกสบาย เลือกปรับอุณหภูมิได้ เครื่องยนต์ Toyota Yaris Ativ รหัสเครื่องยนต์ 3NR-FE พร้อมเทคโนโลยี Dual VVT-i 4 สูบ DOHC พร้อมระบบส่งกำลังอัตโนมัติ Super CVT-i และ Shift Lock

Toyota Yaris Ativ ประกอบด้วย 5 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ Toyota Yaris Ativ 1.2 J Eco, 1.2 J, 1.2 E, 1.2 G และ 1.2 S+ โดยมีราคาอยู่ที่ 479,000 – 639,000 บาท ผ่อนต่อเดือนตั้งแต่ 6,808 – 12,674 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น และการเลือกผ่อนของแต่ละคนค่ะ)

Honda Jazz รถยนต์นั่งสำหรับขับขี่ในเมือง และเดินทางไกลที่มีประสิทธิภาพ

3. Honda Jazz

Honda Jazz มาพร้อมกับแนวคิด The Power of Dream ที่ให้ Jazz โดดเด่นด้วยการเป็นรถยนต์นั่งสำหรับขับขี่ในเมือง และเดินทางไกลที่มีประสิทธิภาพ ภายนอกออกแบบในดีไซน์สปอร์ตทุกมุมมอง โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่  ไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED กันชนหน้าพร้อมไฟตัดหมอกและกันชนหลังแบบสปอร์ต ในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของรุ่น RS กระจกมองข้างสีดำ และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว ภายในห้องโดยสารสะท้อนความสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยเบาะนั่งดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยด้ายสีส้ม และสีภายนอกใหม่ สีส้มฟีนิกซ์ เฉพาะรุ่น RS

Honda Jazz รุ่นใหม่ มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ผสานเกียร์ CVT ใหม่ ที่พัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earthdreams พร้อมระบบช่วยขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist และรองรับพลังงานทางเลือก E85 พร้อมกับมัลติฟังก์ชั่นที่ล้ำสมัย ครบครันด้วยเทคโนโลยีและมาตรฐานความปลอดภัยครบครันด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างและม่านถุงลม

Honda Jazz มาพร้อมกับ 6 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ Honda Jazz S MT, รุ่น S เกียร์ CVT, รุ่น V, รุ่น V+, รุ่น RS และรุ่น RS+ โดยราคาจะอยู่ในช่วง 555,000 – 754,000 บาท ราคาผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ 6,700 – 14,821 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและการเลือกผ่อนของแต่ละคน)

Nissan March อีโคคาร์คันกะทัดรัดที่ทำให้การขับรถในเมืองไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป

4. Nissan March

Nissan March รถยนต์นั่งแบบ Hatchback ขนาดเล็กที่ถือว่าเป็นรถรุ่นแรกที่ทำตลาด Eco Car ในประเทศไทย ภายนอกได้รับการปรับกระจังหน้าทรง V-Shape นอกจากจะเป็นการบ่งบอกลักษณะเฉพาะของรถยนต์จากค่าย Nissan แล้วยังช่วยให้รถดูใหม่ไม่ตกยุคอีกด้วย มีการเพิ่มไฟหน้าใหม่แบบ “ทูโทน” บวกโครเมียมภายในโคมและเพิ่มไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running แบบไดมอนด์บริเวณด้านล่างที่จุดบริเวณไฟตัดหมอกเป็นทรงโค้งรับกับช่องลมกันชนช่วยทำให้รถดูดียิ่งขึ้น ไฟหลังให้มาเป็นแบบ LED สวยทันยุค กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่สื่ออารมณ์ถึงความ Minimal ลดเส้นตัดเส้นโค้งที่ด้านหน้าเรียบแต่ดูดี ด้านหลังกันชนถูกเพิ่มลูกเล่นนิดหน่อยเพิ่มความปราดเปรียว  โดยล้อที่ให้มาจะเป็นล้อเหล็กทุกรุ่นย่อยขนาด 14 นิ้วรัดด้วยยางขนาด 165/70/14

ดีไซน์ภายในของ Nissan March 2018 ไม่ต่างจากรุ่นก่อนหน้า ที่ใช้สีดำตกแต่งเป็นหลักตัดด้วยสีเงินเล็กน้อยที่แผงแดชบอร์ดหน้าพวงมาลัยยูรีเทนปรับสูง-ต่ำได้ ระบบเครื่องเสียงให้มารองรับทั้ง CD, MP3 แต่ไม่ใช่แบบหน้าจอสัมผัส แต่ยังเชื่อมต่อ Smart Phone ได้ทั้ง USB, AUX เติมเต็มทุกการบันเทิงตลอดเส้นทางการเดินทาง เบาะที่ให้มาเป็นเบาะผ้าสีดำพร้อมลวดลายกราฟิกตรงกลาง เบาะแถวหลังเป็นแบบแยกปรับพับได้เพื่อเอื้อในเรื่องการเก็บสัมภาระที่ใหญ่ไม่แพ้รุ่นอื่นเลยทีเดียว Nissan March มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2L รหัส HR12DE เบนซิน 3 สูบแถวเรียง DOHC 12 วาล์ว พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ ECCS แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 79 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 106 Nm ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC แบบ CVT พร้อมระบบเกียร์ Sub-Planetary และยังมีแบบเกียร์ธรรมดา 5 Speed ให้เลือกด้วยสำหรับรุ่นย่อยรองลงมา

Nissan March 2018 มาพร้อมกับ 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Nissan March 1.2 S MT, 1.2 E MT, 1.2 E CVT และ 1.2 EL CVT โดยราคาอยู่ที่ 420,000 – 526,500 บาท ผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ 5,017 – 10,349 บาทต่อเดือน

โฉบเฉี่ยว โดดเด่นไปกับ Mazda 2 

5. Mazda 2

New Mazda 2 2018 มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอก และภายในที่เหมือนเดิมในสไตล์สปอร์ตสุดเร้าใจ ห้องโดยสารสปอร์ตพรีเมียมสไตล์รถยุโรป พิถีพิถันทุกรายละเอียดด้วยวัสดุเกรดพรีเมียม โดดเด่นไม่ซ้ำใครด้วยการตกแต่งแบบทูโทน พร้อมเบาะหนังดีไซน์ใหม่ ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย อุปกรณ์ภายในจัดวางในตำแหน่งที่สะดวกใช้งาน พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังแบบพับได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่กว้างให้กับสัมภาระขนาดใหญ่ และสามารถแยกพับซ้าย-ขวา 60:40 ได้อิสระตามความต้องการรวมถึงมีการเพิ่มเทคโนโลยี SKYACTIV – VECHICLE DYNAMICS และเทคโนโลยี i-ACTIVSENE เข้ามา เพื่อให้ความนุ่มนวล และเกาะถนนมากยิ่งขึ้น ควบคุมการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ทำให้ Mazda 2 เป็นรถยนต์ที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนานในสไตล์ของ Mazda

สำหรับเทคโนโลยีที่เพิ่มเข้ามามีมากมาย ได้แก่ ระบบ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กำลังแซงขึ้นมา และอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่เห็น, ระบบ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง ซึ่งจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้างในขณะขับรถถอยหลัง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกับรถที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาด้านหลัง, ระบบ Sports Paddle Shift ระบบการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย,,  ระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่ และ ระบบ Steering Wheel พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ กระชับมือ ตกแต่งด้วยโครเมียม พร้อมปุ่มควบคุมการทำงานที่พวงมาลัย

New Mazda 2 มาพร้อมกับ 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Mazda 2 Standard AT, High AT, High Connect และ High Plus โดยมีราคาตั้งแต่ 530,000 – 670,000 บาท ราคาผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 6,399 – 13,170 บาท (ขึ้นอยู่กับผ่อน และโปรโมชั่นของแต่ละคนนะคะ)

รถยนต์ 5 รุ่นราคาเบาๆ ดีไซน์โดดเด่นเหมาะกับสาวออฟฟิศ​

เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับ 5 รุ่นที่ได้ยกมาให้เพื่อนๆ ทุกคนเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจซื้อรถยนต์สำหรับสาวออฟฟิศที่กำลังมองหารถยนต์ไซส์กำลังดี เหมาะกับการขับขี่ไปทำงานได้สบายๆ สำหรับใครที่เคยใช้แล้ว สามารถมาแบ่งปันประสบการณ์กันได้นะคะ และสามารถหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องรถเพิ่มเติมได้ที่ Chobrod.com

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้