เหยื่อเมาแล้วขับยื่นหนังสือถึงรมว.คมนาคม วอนหยุดขยายเวลาอายุรถตู้ เหตุหวั่นเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ง่าย หนุนใช้มินิบัสตามกฎหมายดีที่สุด
อย่างที่มักจะบอกเอาไว้อยู่บ่อครั้งว่าความปลอดภัยบนท้องถนน นับเป็นเรื่องสำคัญสำหรับทุกชีวิตที่เดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารสาธารณะประเภทต่างๆ การเดินทางไม่ว่าใกล้ไกลจะต้องสมควรที่จะอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัยเป็นสำคัญ
และสำหรับท้องถนนเมืองไทยก่อนหน้านี้มีประเด็นที่ต้องให้ขบคิดกันตั้งแต่ระดับล่างคนหาเช้ากินค่ำที่เดินทางสัญจรด้วย "รถตู้โดยสาร" ไปจนถึงคนระดับบนในการบริหารประเทศในฐานะรัฐบาล เพราะข้อเรียกร้องของคนขับรถตู้ที่พุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอย่าง "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" โดยเฉพาะประเด็นการขอขยายเวลาการใช้งาน "รถตู้" ออกไปอีก จากเดิมกฎหมายกำหนดเอาไว้ที่ 10 ปีเป็น 15 ปี
ข้อเรียกร้องนี้ของกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้มันนำไปสู่ความกังวลของหลายหน่วยงานเกี่ยวกับความปลอดภัย เพราะหวั่นเกรงว่ารถตู้ที่เก่าและไม่ได้มาตรฐาน เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วก็ยากจะเอาชีวิตรอดสำหรับผู้โดยสาร และทางออกควรจะยกเลิกรถตู้ไปเสีย และหันมาใช้มินิบัสำหรับการบริการโดยสารสาธารณะแทน
>> สำรวจเพิ่มเติม รถตู้มือสอง ที่นี่
ล่าสุดข้อกังวลยังแผ่กว้างออกไปอีก เพราะนายเจษฎา แย้มสบาย ประธานเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ มูลนิธิเมาไม่ขับ กรุงเทพฯ พร้อมด้วยนางสาวเครือมาศ ศรีจันทร์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต และภาคีเครือข่ายลดอุบัติเหตุ กว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ผ่านทาง นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องให้มีมาตรการด้านความปลอดภัยรถตู้โดยสารสาธารณะ ภายหลังเกิดเหตุสลด รถตู้พุ่งชนรถพ่วงที่จังหวัดสระแก้ว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 11 คน บาดเจ็บ 4 คน
นายเจษฎา กล่าวว่า หลังเหตุการณ์โศกนาฎกรรมบ้านบึง ที่รถตู้ข้ามไปชนปิกอัพช่วงปีใหม่ 2560 จนมีผู้เสียชีวิต 25 ศพ ทำให้มีมาตรการต่างๆออกมาต่อเนื่อง ทั้งการใช้ GPS เข้มงวดกับความเร็วไม่เกิน 90 กม/ชม.และควบคุมพนักงานขับรถห้ามขับต่อเนื่องเกิน 8-10 ชม./วัน รวมถึงมาตรการจำกัดอายุรถตู้ห้ามเกิน 10 ปี และจะทยอยเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสแทน ถือเป็นมาตรการที่ดีๆทั้งสิ้น แต่ล่าสุดมีข่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ยอมถอย เลื่อนอายุใช้งานรถตู้ไปอีก 2 ปี และเปลี่ยนมาเป็นมินิบัสแบบสมัครใจ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง ในฐานะของผู้เป็นเหยื่ออุบัติเหตุทางถนนถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย
ดูเพิ่มเติม
>> ดีเดย์ 1 ต.ค.ขนส่งสั่งเปลี่ยน “รถตู้” เป็น “รถโดยสารขนาดเล็ก”ชี้เพื่อความปลอดภัย
>> งานเข้ารัฐบาล! รถตู้วินดังโพสต์ตัดพ้อ ปิดกิจการเพราะมาตรการของคสช.
“ข้อมูลจากศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ระบุว่า สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารมาจากการใช้ความเร็วของผู้ขับขี่ เพราะต้องวิ่งทำรอบ หรือเป็นพฤติกรรมส่วนตัวในการขับรถเร็ว แตกต่างกับมินิบัสที่สามารถทำความเร็วหรือการแซงได้ช้ากว่ารถตู้ ดังนั้นอุบัติเหตุรถตู้จึงเกี่ยวข้องกับยานพาหนะโดยตรง เมื่อเกิดการชนเกิดขึ้น ถังน้ำมันและท่อน้ำมัน ซึ่งอยู่ข้างหน้าจะแตกทำให้เกิดประกายไฟลุกไหม้ ผู้โดยสารที่กำลังอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บอยู่แล้วจึงไม่สามารถหลบหนีออกจากเปลวเพลิงได้ ขณะที่มินิบัสเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้โดยสารมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ภายในมากกว่า จึงอยากให้กระทรวงคมนาคมทบทวนเรื่องรถตู้สาธารณะให้ดีๆ ไม่ควรมีมาตรการที่ถอยหลังลงคลอง” นายเจษฎา กล่าว
ด้านนางสาวเครือมาศ กล่าวว่า จากเหตุรถตู้รับจ้างเอกชน เสียหลักพุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อ ทำให้ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถตู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว เครือข่ายขอแสดงจุดยืนและมีข้อเสนอดังต่อไปนี้
1.มาตรการที่มุ่งเน้นลดอุบัติเหตุ ถือเป็นสิ่งที่ดีและควรดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการติด GPS เพื่อกำกับความเร็ว ชั่วโมงทำงานเกินกำหนด การตรวจวัดแอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่มาตรการสำคัญควบคู่กันคือ เกิดเหตุแล้วทำอย่างไรไม่เสียชีวิต ซึ่งการนำรถที่โครงสร้างแข็งแรง ไม่เกิดเพลิงลุกไหม้ง่าย สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้รวดเร็ว ฯลฯ จึงเป็นคำตอบที่ไม่ควรจะมองข้าม
2.ในเส้นทางระยะไกลเช่น กทม.-ต่างจังหวัด จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีรถประจำทางและระบบกำกับที่ปลอดภัย จึงไม่ควรเลื่อนอายุใช้งานรถตู้จาก 10 ปี เป็น 12 ปี และไม่ควรเปลี่ยนเป็นมินิบัสแบบสมัครใจ มาตรการด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้โดยสารไม่ควรถูกทำให้ถอยหลัง หรือย่ำอยู่กับที่ ควรมุ่งเน้นมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการตามความเหมาะสมเป็นกรณีๆไปเท่านั้น
3.ควรเร่งพัฒนาระบบตรวจสอบประวัติการดูแลรักษา การเปลี่ยนอะไหล่ตามกำหนดมีมากน้อยเพียงใด มีการตรวจสภาพเข้มงวดก่อนอนุญาตอย่างเข้มงวด มีการตรวจทุก 6 เดือน รวมทั้งการสุ่มตรวจบนถนนด้วย
และ 4.กำกับพฤติกรรมขับขี่ของคนขับรถสาธารณะ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ขับเร็วเร่งทำรอบ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ การพักผ่อนน้อยต้องไม่มี และเจ้าหน้าที่รัฐต้องตรวจสอบรถและคนขับรถทุกคน อย่างเข้มงวด ไม่มีการละเว้น บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทุกคน
ท้ายสุดถือเป็นอีกข้อเรียกร้องที่สวนทางกับกลุ่มผู้ประกอบการรถตู้ ที่ต้องการขยายเวลาการใช้งาน แต่อีกฝ่ายก็เอาเรื่องความเป็นความตาย ที่สำคัญอย่างยิ่งมาเป็นเรื่องต่อรองเช่นกัน อยู่ที่รัฐบาลจะเห็นความสำคัญของสิ่งใดมากกว่ากัน
ดูเพิ่มเติม
>> ถึงคิวอ้อนบ้าง "รถตู้" ขอคมนาคม "ปลดจีพีเอส-ยืดอายุรถเก่าเป็น 15 ปี"
>> ขนส่งติดเบรกรถตู้ หลังเจอประชาชนร้องเรียน "แอบขึ้นราคา"
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้