สมาคมผู้ประกอบการก๊าซ NGV เผยหลายแห่งขาดทุนหนัก เหตุภาคขนส่ง - ประชาชนหันไปเติมน้ำมันแทนก๊าซธรรมชาติ ชี้รัฐปล่อยราคาลอยตัว วอนตรึงราคา 50% ของดีเซล ดึงดูดคนหันมาใช้มากขึ้น
เป็นเรื่องที่อาจไม่เกี่ยวข้องกับตัวของรถยนต์โดยตรง แต่ก็เกี่ยวในฐานะที่เป็นพลังงานอีกอย่างที่ใช้ขับเคลื่อนรถยนต์ ซึ่งเรากำลังพูดถึง "ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์" หรือที่คอรถยนต์คุ้นกันดีว่าก๊าซ NGV แน่นอนว่าประเทศไทยถูกใช้อย่างแพร่หลายทีเดียว โดยเฉพาะกับรถแท็กซี่มิเตอร์ และรถบ้านทั่วไป รวมถึงรถที่ใช้เพื่อการขนส่งพานิชย์ต่างๆ เพราะก๊าซ NGV เป็นที่รู้กันดีว่ามันมีราคาถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมๆ กัน
แต่ปัจจุบัน สถานการณ์ของก๊าซ NGV ในบ้านเรากำลังสั่นคลอนอย่างหนัก ด้วยเพราะการลอยตัวราคาก๊าซธรรมชาติจากรัฐบาล มันจึงส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายแห่งต่างต้องกุมขมับและมีไม่น้อยที่ต้องปิดกิจการลงไป เพราะคนขับรถแทบจะไม่หันมาใช้งานกันแล้วเนื่องจากราคามันใกล้เคียงกับราคาน้ำมัน เมื่อเป็นเช่นนั้น คนจึงหันไปเติมน้ำมันแทนการใช้ก๊าซ NGV กับรถยนต์ของตัวเอง
ผู้ประกอบการ NGV กำลังวิกฤต เพราะคนหันไปเลือกใช้น้ำมันแทน
ล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายศักดิ์ชัย ลีสวรรค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ออกมาพูดถึงสถานการณ์ในขณะนี้ว่า กำลังจะส่งเรื่องไปยังรัฐบาล เพื่อขอให้ช่วยควบคุมราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เพราะปัจจุบันราคาก๊าซ NGV อยู่ที่ 15.94 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งทางสมาคมฯ ต้องการให้ราคาอยู่ในระดับราว 50% ของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ที่ราคาปัจจุบันราว 25 บาทต่อลิตร เพราะทุกวันนี้ ผลพวงจากราคาก๊าซ NGV ที่ปรับตัวขึ้นไปกว่า 70-80% ของราคาน้ำมันดีเซล ทำให้ไม่เกิดการจูงใจให้ประชาชนและภาคขนส่งต่างๆ หันมาใช้ก๊าซ NGV และมีแนวโน้มการใช้ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องเจอปัญหาขาดทุนอย่างหนัก และบางรายต้องปิดสถานีบริการก๊าซ NGV ซึ่งทั้งนี้ มีรายงานว่ามีการปิดสถานีบริการไปแล้ว 60 แห่งจาก 500 แห่ง และคาดว่าจะมีการปิดเพิ่มอีกด้วย
นายศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ขณะนี้ต้องรอรัฐมนตรีพลังงานคนใหม่ในรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงาน และทางสมาคมฯจะเข้าไปหารือถึงความเหมาะสมในการคุมราคาก๊าซ NGV ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง และเบื้องต้นวางเป้าหมายข้อเรียกร้องเอาไว้ว่าขอเริ่มต้นชดเชยที่ 2 บาทต่อกิโลกรัมก่อน แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลตรึงราคาก๊าซ NGV เอาไว้ในระดับปัจจุบัน คือ 15.94 บาทต่อกิโลกรัม และไม่ให้ปรับขึ้นอีก
ดูเพิ่มเติม
>> รถเครื่องดีเซลก่อมลพิษ “มากกว่า” รถเครื่องเบนซิน จริงหรือ ?
>> ฝุ่นพิษปกคลุม ปอดคนกรุงเทพฯ พังทลาย? ฤาคนร้ายคือ “ดีเซล”
การเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยตรึงราคาอาจเป็นทางรอดสำหรับผู้ประกอบการในเรื่องนี้
"สมาคมฯยังอยากเสนอให้ภาครัฐมีมาตรการสนับสนุนด้านอื่นๆ เข้ามาเพิ่มเติมด้วย เช่น การลดภาษีนำเข้าของรถบรรทุกก๊าซธรรมชาติ ให้ราคาถูกลงเทียบเท่ากับรถบรรทุกดีเซล เป็นต้น เพื่อสนับสนุนการใช้ NGV เพิ่มมากขึ้น" นายกสมาคมผู้ประกอบการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) กล่าวย้ำ
ด้านนายจักรพงส์ สุมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สากล เอนเนอยี (SKE) กล่าวว่า ทางสมาคมฯ มีเป้าหมายที่จะทำหนังสือไปยังสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ให้กลับมาดูในเรื่องของ NGV และหามาตรการสนับสนุน โดยเสนอให้ใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นกลไกในการดูแลโดยต้องระยะแรกอยากให้อุดหนุน 2 บาทต่อ กก.ก่อนแล้วจึงทยอยปรับการอุดหนุนเพิ่มขึ้นเพื่อให้ราคาต่ำกว่าดีเซลครึ่งหนึ่งซึ่งอาจต้องมีกลไกอื่นๆ เข้ามาเสริม เช่น เรื่องภาษีฯ
แน่นอนว่าอีกมุมหนึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้บริโภค หรือผู้ใช้รถที่จะเลือกเชื้อเพลิงที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ของตัวเอง
ขณะที่นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมกับพันธมิตรจัดตั้งสมาคมฯ ขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในการประกอบการธุรกิจก๊าซธรรมชาติให้แข็งแกร่งและมีจุดยืนที่สำคัญในประเทศไทย เพราะก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่ถือเป็นทรัพยากรที่สำคัญของประเทศที่จะสามารถสนับสนุนให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านคมนาคม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ เช่น PM 2.5 และจะช่วยกันผลักดันให้ NGV เป็นเชื้อเพลิงแห่งชาติ มีบทบาทมากขึ้นในทุกๆ ภาคส่วน
ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจและเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์อยู่บ้าง เพราะแม้ปัจจุบันหลายค่ายจะไม่ผลิตรถยนต์ที่ติดตั้งถังก๊าซ NGV มาแล้ว แต่บนท้องถนนเมืองไทยก็ยังคงมีผู้ใช้บริการก๊าซธรรมชาติหรือ NGV อยู่ไม่น้อยเช่นกัน ทั้งจากที่ติดมาจากโรงงานการผลิต หรือมาติดเองข้างนอก แต่เมื่อราคาก๊าซธรรมชาติมันปรับตัวขึ้น ก็แน่นอนว่าเมื่อจ่ายราคาค่าเชื้อเพลิงไม่ต่างจากน้ำมัน คนก็ต้องหันไปเติมน้ำมันแทนอยู่แล้ว เพราะระบบเผาไหม้ที่ดีกว่า และทำให้เครื่องยนต์แรงกว่าด้วย
แต่อีกมุมก็น่าเห็นใจผู้ประกอบการเหมือนกันที่ต้องประสบปัญหาขาดทุนและหนักถึงต้องปิดกิจการจากที่ผู้ใช้หันไปหาพลังงานน้ำมันแทน ก็ต้องรอดูว่าท่าทีของรัฐบาลใหม่จะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไรต่อไป
ดูเพิ่มเติม
>> "น้ำมันเครื่อง"ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ 4 วิธีเช็คให้เหมาะกับรถยนต์
>> ขึ้นได้ก็ขึ้นไป “ค่ารถเมล์” คนไทยไม่สน แต่อยากได้บริการที่ดีขึ้น
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้