“ซูบารุ”รุกหนัก เปิดโรงงานผลิต “Forester”ในไทย

อาจเพราะยอดขายรถยนต์ของค่ายซูบารุในบ้านเรามีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับรุ่นยอดฮิตที่วิ่งกันให้เต็มท้องถนนบ้านเราไปหมดอย่าง Subaru XV และรวมไปถึง Subaru Forester รถเอสยูวีครอสโอเวอร์ยอดฮิต มันจึงทำให้ในที่สุด ซูบารุ ก็ตัดสินใจเปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในบ้านเรา เพื่อให้ประกอบรถยนต์ของค่ายออกสู่ตลาดรถ

เกลน ตัน รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ กลุ่มตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล (TCIL) ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุในเมืองไทย สะท้อนถึงประเด็นการตั้งโรงงานประกอบรถยนต์ของค่ายว่า กลุ่มตันจงได้เปิดโรงงานประกอบรถยนต์อย่างเป็นทางการแห่งแรกในไทย ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง พื้นที่รวมกว่า 100,000 ตารางเมตร ด้วยวงเงินลงทุนเบื้องต้นกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งโรงงานจะผลิต "ซูบารุ ฟอเรสเตอร์" ได้มากกว่า 6,000 คันภายในปีแรก จากนั้นจะลงทุนอีกเกือบ 1,000 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตให้เต็มศักยภาพปีละ 1 แสนคันภายใน 5 ปีถัดจากนี้

เปิดตัวกันไปแล้วกับโรงงานของซูบารุในบ้านเรา กับพื้นที่กว่า 1 แสนตารางกิโลเมตร

เป้าหมายสำคัญของซูบารุในการรุกคืบตลาดรถยนต์ในบ้านเรา ก็เพื่อต้องการที่จะ "ลดการช่วยเหลือ" จากบริษัทแม่คือประเทศญี่ปุ่นให้น้อยลง และเพิ่งพาการผลิต และซับพลายเออร์ภายในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับความนิยมในรถยนต์ของค่ายซูบารุสำหรับตลาดรถในประเทศไทยก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน มันจึงไม่อาจปฏิเสธว่าซูบารุจะต้องรุกคืบด้วยการตั้งโรงงานประกอบรถของตัวเองขึ้นมา

ที่น่าสนใจคือ โรงงานของซูบารุในประเทศไทย จะเลือกใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 43% คาดว่า ต่อไปจะสามารถขยายสายการผลิตได้มากขึ้น และที่สำคัญคือเป้าหมายการส่งออกรถยนต์ของค่ายจากฐานการประกอบและผลิตในประเทศไทยออกสู่ตลาดรถอื่นๆ ในภูมิภาคต่างๆ

ดูเพิ่มเติม
>> Subaru ประกาศเรียกคืนรถหลังเกิดปัญหาสปริงวาล์วและจอแสดงผล!!!
>> เดินหน้าสร้างแบรนดิ้ง !! ซูบารุ รุกโชว์รูม 45 แห่ง เผยเปิดโรงงานใหม่แน่ปี 62

เป้าหมายของโรงงานคือการผลิต-ประกอบ Subaru Forester เป็นหลัก 

เกลน ตัน สะท้อนถึงสาเหตุที่เลือกตั้งโรงงานในประเทศไทยไว้อีกว่า เป็นเพราะตลาดรถในประเทศไทยถือว่าเป็นตลาดรถที่ใหญ่มาก และความนิยมของผู้บริโภคชาวไทยยังไว้วางใจรถยนต์จากญี่ปุ่นเป็นหลัก รวมถึงยังมีซัพพลายเออร์พร้อมกว่าประเทศอื่นๆ มันจึงส่งผลให้คุณภาพการผลิตมีมาตรฐานที่สูงกว่าที่อื่นอีกด้วย การเลือกปักหมุดให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของซูบารุจึงถือว่ามีความเหมาะสมทุกอย่าง

“โรงงานในไทยมีศักยภาพประกอบรถยนต์แบบน็อคดาวน์หรือ CKD.  ได้ถึง 4 รุ่น โดยซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ประกอบและขายในไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งรถ 100 คันแรกได้ส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้ามีฟีดแบ็คที่ดี ส่วนอีก 3 รุ่นที่จะผลิตนั้น จะต้องรอให้ผู้ถือหุ้นทั้งซูบารุและกลุ่มตันจงร่วมกันตัดสินใจก่อนจะเปิดเผยต่อไป ซึ่งจากตัวเลขยอดขายในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา ทำให้ซูบารุมั่นใจว่าปีนี้จะมียอดขายรถซูบารุทุกรุ่นแตะ 5,000 คัน ก้าวกระโดดจากปีก่อนหน้า ส่วนยอดขายปีก่อนทั้งหมดทั่วโลก ยกเว้นจีน ซูบารุมียอดขายรวม 23,000 คัน” เกลน ตัน ย้ำข้อมูล

สนใจรถ Subaru Forester มือสอง เชิญที่นี่

นับเป็นสัญญาณว่าซูบารุจะเอาจริงแล้วกับตลาดรถยนต์ในบ้านเรา กับการยกระดับเป็นผู้ประกอบไม่ใช่แค่เพียงจำหน่าย 

ยอดขายรถยนต์ของซูบารุในปี 2561 ถือว่าทำการตลาดไปดีอยู่ไม่น้อย เพราะมียอดขายได้มากถึง 1,899 คัน และแน่นอนว่าเกือบทั้งหมดมาจากเรือธงของค่ายอย่าง Subaru XV และรวมไปถึง Subaru Forester

กระนั้นก็ตาม การเปิดตัวโรงงานครั้งนี้ของซูบารุถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีทีเดียวที่ค่ายรถแห่งนี้ตัดสินใจลงทุนเปิดโรงงานในประเทศไทยอีกครั้ง

ซึ่งกลุ่มตันจง ที่เป็นกลุ่มทุนจากสิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งถือสิทธิ์การจัดจำหน่ายรถยนต์ของซูบารุในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ลงทุนเปิดโรงงานในครั้งนี้ ก็ได้ตั้งชื่อโรงงานเอาไว้แล้วด้วยภายใต้ชื่อว่า “บริษัท ตันจง ซูบารุ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย จำกัด” หรือเรียกย่อว่า TCSAT

และจุดสำคัญคือโรงงานแห่งนี้ ถูกนับเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ของค่ายซูบารุที่ถูกตั้งนอกประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของค่าย โดยก่อนหน้านี้ มีโรงงานที่มลรัฐ Indiana สหรัฐอเมริกา และที่มาเลเซียก็มีโรงงาน Segambut ซึ่งทำหน้าที่ผลิต Subaru XV และ Subaru Forester ส่งมาขายในตลาดรถบ้านเรา

สนใจรถ Subaru XV มือสอง เชิญที่นี่

ถือเป็นโรงงานแห่งที่ 3 ของซูบารุที่ตั้งขึ้นนอกแผ่นดินแม่อย่างญี่ปุ่น 

อย่างไรก็ตาม สื่อมวลชนด้านรถยนต์หลายสำนัก มีการระบุว่า สำหรับโรงงานประกอบรถยนต์ซูบารุในบ้านเรานั้น จะมีการผลิต Subaru Forester เพื่อส่งไปขายยังประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนาม และทางมาเลเซียจะผลิต Subaru XV ส่งกลับมาขายในตลาดรถบ้านเรา ซึ่งศักยภาพของโรงงานในประเทศไทยทำให้สามารถผลิตรถยนต์ของค่ายซูบารุได้ทั้งแบบพวงมาลัยซ้ายและขวา

พร้อมกันนี้ ยังมีรายงานอีกว่า อัตราส่วนการแบ่งจำหน่าย จะส่งให้ขายในประเทศไทย 45% และส่งไปอีกสองประเทศที่เหลือ 55%

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้