กรมการขนส่งทางบกทางบกออกมาตรการเพื่อยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนขับรถ ด้วยการเสนอให้นำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้ พร้อมพัฒนาเกี่ยวกับอุปกรณ์การเรียนการสอน เน้นย้ำทั้งคนสอนคนเรียนต้องแสกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตน
ปัจจุบันโรงเรียนสอนขับรถยังเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างไม่มีตก ด้วยอัตราการใช้รถบนท้องถนนที่เพิ่มขึ้นมากทุกวัน ดังนั้นการเรียนขับรถก็ยังเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับนักขับมือใหม่ทั้งหลายเช่นเดิม ล่าสุดกรมขนส่งทางบกออกมานำเสนอแนวทางการยกระดับมาตรฐานโรงเรียนสอนขับรถ โดยมีหลักที่จะพัฒนาและควบคุมคุณภาพของโรงเรียนสอนขับรถในไทย ด้วยการแนะแนวทางให้นำเอาระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาปรับใช้เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีรายละเอียดและวิธีการอย่างไร Chobrod จะมาแจกแจงข้อมูลให้ทุกท่านได้ทราบโดยทั่วกัน
นายพีรพล ถาสรสุถเจริญ อธิบดีกรมขนส่งทางบกออกมาชี้แจ้ง ว่าทางกรมขนส่งมีมาตรการส่งเสริมให้ภาคเอกชนที่มีความพร้อมเปิดโรงเรียนสอนขับรถเอกชนที่มีมาตรฐาน พัฒนาทั้งฝั่งโรงเรียนและฝั่งผู้เรียนให้มีคุณภาพในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านอาคารสถานที่ที่ใช้ในการฝึกอบรมและทดสอบ ตลอดจนการยกระดับคุณภาพผู้ฝึกสอนที่จะต้องมีคุณสมบัติโดยผ่านการอบรมและทดสอบจากกรมการขนส่งทางบกก่อน จึงจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนสอนขับรถได้เป็นการควบคุมมาตรการการเรียนการสอนของโรงเรียนสอนขับรถให้มีประสิทธิภาพ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีแก่ตัวผู้เรียนและสร้างมาตรฐานที่ดีแก่โรงเรียนสอนขับรถด้วย
ดูเพิ่มเติม
>> ปรับเพิ่มความเร็วรถ 120 กม./ชม. แก้ปัญหารถติดได้จริงหรือ?
>> ไม่ต้องลางาน! ชี้เป้าสถานที่ ต่อทะเบียนรถวันเสาร์-อาทิตย์ อัปเดตล่าสุด 2562
ทั้งผู้เรียนและผู้สอนต้องทำการยืนยันตัวตนก่อนการเข้าเรียนด้วยการสแกนลายนิ้วมือ
นับว่าเป็นแนวคิดที่ดีและตอบโจทย์ความเป็นยุคใหม่ได้อย่างมีระดับ กับการแนะแนวทางนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาปรับใช้ในโรงเรียนสอนขับรถ โดยกำหนดให้ทั้งผู้ฝึกสอนและผู้เรียน จะต้องมีการสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตัวตนก่อนทำการเรียนการสอน ซึ่งทางกรมการขนส่งทางบกสามารถตรวจสอบความถูกต้องความครบถ้วนของข้อมูลการเรียนการสอน วันเวลา รายวิชาที่เรียน และรายชื่อผู้ฝึกสอนจับรถได้ผ่านทางระบบ E-Classroom อีกทั้งยังได้กำหนดให้โรงเรียนสอนขับรถต้องติดตั้งกล้อง CCTV ในห้องสอบข้อเขียน เพื่อทำการบันทึกข้อมูลภาพของผู้เรียนในขณะทำการทดสอบ เพื่อป้องกันการทุจริตและเป็นการจัดเก็บข้อมูลเอาไว้อีกทาง
อธิบดีกรมการขนส่งทางบกยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ข้อมูลล่าสุดรายงานเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2562 มีโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบกจำนวนทั้งสิ้น 275 แห่งใน 66 จังหวัดทั่วประเทศซึ่ง 11 จังหวัดที่ยังไม่มีโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจำนวน 11 จังหวัดดังนี้
มีอีก 11 จังหวัดที่ยังไม่มีโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองจากกรมการขนส่งทางบก
โดยกรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาออกประกาศเปิดรับคำขอคัดเลือกเพื่อให้การรับรองโรงเรียนสอนขับรถเอกชนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีผู้ผ่านการอบรมและทดสอบจากโรงเรียนสอนขับรถที่ได้รับการรับรองประจำปี 2562 (ข้อมูลนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลมคม 2561 - 30 มิถุนายน 2562) จำนวนทั้งสิ้น 454,691 รายโดยแบ่งออกมาเป็น 3 หลักสูตรหลักดังนี้
ทั้งนี้การพัฒนาและยกระดับคุณภาพมาตรฐานของโรงเรียนสอนขับรถเอกชนจะส่งผลให้ผู้ขับรถมีคุณภาพ ด้วยการมีทักษะในการขับขี่รถที่ดี เพิ่มความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยป้องกันและป้องกันและลดปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่มีสาเหตุมาจากผู้ขับรถได้อย่างยั่งยืน
เมื่อโรงเรียนที่สอนมีคุณภาพ จะได้ผู้เรียนที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน
สำหรับผู้สนใจเรียนขับรถกับโรงเรียนสอนขับรถเอกชนที่ทางกรมการขนส่งทางบกรับรอง สามารถตรวจรายยชื่อหรือศึกษารายละเอียดการจัดตั้งและการดำเนินกิจการของโรงเรียนได้ที่ dlt.go.th/site/ltsb หรือหากมีเรื่องที่ต้องการร้องเรียนเมื่อพบพฤติกรรมที่ไม่สมควรของโรงเรียนสอนขับรถ เช่นไม่มีการเรียนการสอนจริง, มีพฤติกรรมใด ๆ ที่ปฏิบัติผิดต่อข้อกำหนดของกฎหมาย สามารถแจ้งเรื่องได้กับทางกลุ่มมาตรฐานใบอนุญาตและโรงเรียนสอนขับรถสำนักสวัสดิภาพการขนส่งทางบก
ดูเพิ่มเติม
>> สมอ.เตรียมปรับมาตรฐานยางรถยนต์สูงขึ้น เริ่มใช้กันยายนนี้
>> นับวันรอ! พร้อมเจอกันเดือนหน้า ในงานมหกรรมยานยนต์ Big Motor Sale 2019 ใหญ่ที่สุดในอาเซียน!
ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้