เลือกถนนแบบไหน ช่วยหัดขับรถให้เป็นเร็ว
ความต่างในเรื่องประสบการณ์การใช้รถ ตั้งแต่ใช้รถเป็นมาจนขับรถยนต์มา 10-20 ปี แต่ละคนก็จะมีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งต่างกันออกไปเมื่ออยู่หลังพวงมาลัย ตามปัจจัยด้วยเรื่องลักษณะรูปแบบของถนนที่ใช้เป็นประจำ ถ้าว่าด้วยเรื่องรูปแบบถนนที่ใช้สำหรับการหัดขับรถให้เป็น ไม่ใช่ขับรถได้แต่เพียงอย่างเดียวแล้วถนนแบบไหนจะดีที่สุด ควรจะฝึกขับในเมืองที่มีรถหนาแน่น หรือบนถนนโล่งๆ รถน้อยๆ น่าจะดีกว่า
เลือกถนนแบบไหน ช่วยหัดขับรถให้เป็นเร็ว
การหัดรถเพื่อเพิ่มความชำนาญในการใช้รถ ถ้าใครอยู่ในตัวเมืองเป็นประจำ จำนวนรถมากมายหนาแน่นจะช่วยให้คุณได้ใช้ไหวพริบปฎิพานในการขับขี่ ตระหนักและระวังยานพาหนะรอบตัวที่อาจทำให้มีการเฉี่ยวชนขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นทั้งรถยนต์หรือจักรยานยนต์ การใช้เบรคและเปลี่ยนเกียร์เกิดขึ้นมากกว่าจะช่วยให้ผู้ขับได้พัฒนาทักษะในส่วนนี้ รวมไปถึงเรื่องสัญญาณไฟ และเครื่องหมายจราจรนับร้อยบนถนนเส้นเดียว ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความจดจำให้แก่ผู้เริ่มหัดขับรถมือใหม่ได้อีกทาง
แต่ถ้าเป็นถนนโล่งๆ ยาวๆ เช่นบนทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ใช้ความเร็วตัวรถระดับปานกลางถึงสูง จะช่วยเพิ่มทักษะให้ผู้ขับขี่มือใหม่ได้ในเรื่องการจัดการเลนให้มีประสิทธิภาพเพื่อความปลอดภัย เพื่อระวังรถทั้งหลายที่อยู่บนถนนเส้นเดียวกันกำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูงกว่าและอย่าลืมว่า ความเสียหายเมื่อเกิดอุบัติเหตุบนถนนแบบนี้รุนแรงกว่าถนนที่รถหนาแน่น ติดหนักๆ ถ้าเป็นถนนบนเส้นชนบทมากขึ้นก็จะช่วยฝึกทักษะในเรื่องการเข้าโค้งให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย แต่สิ่งที่มือใหม่ต้องไม่ลืมคือเรื่องความเร็วที่ใช้ในแต่ละโค้งด้วย
การขับขี่ในเมืองรถติดหนาแน่นสำหรับมือใหม่
เรียนรู้ เพิ่มทักษะให้เกิดความชำนาญด้วยการขับรถไปในเมืองที่มีทั้งคนและรถจำนวนหนาแน่น เปรียบเหมือนสมรภูมิการทดสอบทักษะขั้นเข้มข้น เทคนิค, วิธีต่างๆ ที่เคยเรียนมาเมื่อตอนหัดขับอาจมีไม่เท่าเมื่อขับรถจริงในเมือง ไม่ว่าจะเป็นการจอดในช่องแคบ, การเปลี่ยนเลนเมื่อรถเยอะๆ รวมไปถึงการระมัดระวังรถประเภทอื่นที่วิ่งมาเมื่อคุณไม่รู้ตัว รู้อีกทีก็เสียกระจกข้างไปเสียแล้ว เรื่องแบบนี้มีให้เห็นกันอยู่เป็นประจำบนท้องถนนในเมืองใหญ่ ต้องพึ่งความตระหนักถึงอันตรายรอบตัวทุกเสี้ยววินาที นอกจากควบคุมรถไม่ให้ไปชนเขาก็ต้องระวังเขามาชนเราอีก ทั้งจักรยาน จักรยานยนต์ คนเดินถนน รถจอด รถบัสขนาดใหญ่ รถบรรทุก มีโอกาสมากที่การขับขี่ในเมืองของคุณจะได้เจอกับสิ่งเหล่านี้
สภาพการจราจรบนถนนในเมือง ต้องใช้เบรคมากและต้องระวังรถรอบข้างตลอดเวลา
ข้อเสียของถนนประเภทนี้ ถ้าคุณคิดจะเรียนรู้เพิ่มทักษะในการใช้รถให้มากขึ้น ด้วยการขับขี่ในเมือง สิ่งที่มือใหม่ต้องเจอคือเรื่องการจราจรอันแออัดและสัญลักษณ์จราจรมากมายที่บางคนอาจยังไม่คุ้นชิน เมื่อไปในเส้นทางใหม่ๆ ความอัปยศที่สุดของบทเรียนประเภทนี้คือการต้องจอดนิ่งเมื่อรถติดหนักๆ ในช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่นทั้งเช้าและเย็น
การขับขี่บนถนนชานเมือง โล่งๆ สำหรับมือใหม่
ลงถนนจริงที่รถน้อยกว่า มือใหม่หัดขับส่วนใหญ่จะมองเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงสนามจริง ถนนเส้นชนบทที่จำนวนรถน้อยกว่าในเมืองเพื่อเลี่ยงการจราจรที่หนาแน่น การเพิ่มทักษะด้วยช่วยให้ได้ผลที่ดีกับผู้กับในเรื่องความคุ้นเคยกับตัวรถ เว้นแต่ถนนบางเส้นที่มักจะมีรถมอเตอร์ไซค์ขับย้อนศร ทำผิดกฎจราจรซึ่งอาจเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และมีไม่น้อยเลยบนถนนเมืองไทย
อีกทั้งการเลือกเส้นทางถนนตามชานเมืองหรือชนบท พื้นผิวถนนบางเส้นอาจไม่ค่อยน่าอภิรมย์ชวนขับขี่สักเท่าไร เลือกเส้นทางไม่ดีชีวิตเปลี่ยน นอกจากจะทำให้การฝึกทักษะการขับขี่ได้ไม่เต็มที่แล้วอาจทำให้ช่วงล่างของรถ “พัง” เร็วกว่าที่ควรจะเป็นอีกด้วย นอกเสียจากคุณอยากจะฝึกทักษะการขับหลบหลีกหลุมบ่อ เพิ่มความชำนาญในการใช้พวงมาลัยให้มากขึ้น
อีกทั้งด้วยรูปแบบของเส้นทางชนบทหรือชานเมืองมักจะเป็นโค้งมหาโหดในรูปแบบที่ไม่มีอยู่ในเมือง หรือเส้นทางทางด่วน-มอเตอร์เวย์ ที่สามารถทำความเร็วสูงได้มากกว่าไปจนถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่างก็ช่วยเพิ่มทักษะในการควบคุมรถได้มากขึ้นทั้งสิ้น
ถนนชานเมืองรถน้อยกว่า แต่มีโค้งได้ฝึกการควบคุมรถ
แล้วมือใหม่หัดขับ ควรเลือกถนนแบบไหน
คำแนะนำว่าคุณควรเลือกเส้นทางประเภทไหนนั้น ไม่มีคำตอบที่เฉพาะเจาะจง การขับขี่เพื่อการเรียนรู้เพิ่มความชำนาญให้มากขึ้น ให้ผู้ขับขี่ได้รับประโยชน์ประสบการณ์ในวงกว้างมากที่สุดจำเป็นจะต้องผสมผสานจากถนนทั้งสองรูปแบบ เช่น คนที่อาศัยอยู่เมือง ขับรถไปทำงานตอนเช้าก็ได้ฝึกฝนทักษะ ในการใช้เบรกหรือการเปลี่ยนเลนแม้รถติดๆ ได้ไม่น้อยบนเส้นทางแออัดจากถนนในเมืองหลวง และมาเพิ่มความชำนาญในการใช้ความเร็วหรือการเข้าโค้งจากช่วงสุดสัปดาห์ขับรถเที่ยวออกชานเมืองก็ได้ เป็นต้น เพราะสุดท้ายแล้วทั้งมือใหม่เริ่มหัดขับหรือมืออาชีพที่ขับรถมากว่าสิบปี ก็ต้องขับรถให้ได้กับทุกสภาวะไม่ว่าถนนจะเป็นเช่นไร ความปลอดภัยและไม่ประมาท ขับให้ถึงที่หมายคือหลักสำคัญในการใช้รถของทุกคนที่อยู่หลังพวงมาลัย
ดูเพิ่มเติม
