เปรียบเทียบรุ่นย่อย ระหว่าง 2WD GT กับ 4WD GT-Premium ของรถใหม่สุดฮอต New Mitsubishi Pajero Sport 2019

สำหรับรถครอบครัวสุดฮอตอย่าง New Mitsubishi Pajero Sport 2019 นั้น นับว่าเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ที่ถูกพัฒนาและปรับโฉมมาเป็นอย่างดี ผสานกับยนตรกรรมระดับพรีเมียมตามแนวคิด “ความสำเร็จที่เป็นคุณ” เอาใจคนรักครอบครัวโดยเฉพาะ ซึ่งจากการเปิดตัวไปนั้น คงทำให้หลายคนเห็นแล้วว่า New Mitsubishi Pajero Sport 2019 ยกขบวนมาให้เลือกสรรทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน คือ 2WD GT, 2WD GT-Premium และ 4WD GT-Premium ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย แน่นอนว่า เราจะนำรุ่นย่อยมาเปรียบเทียบกันระหว่าง 2WD GT กับ 4WD GT-Premium มาเทียบกันให้เห็น ว่ารุ่นไหนเหมาะกับใคร และแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน

เปรียบเทียบรุ่นย่อยของ New Mitsubishi Pajero Sport 2019 ระหว่าง 2WD GT กับ 4WD GT-Premium

เปรียบเทียบดีไซน์ภายนอก

สำหรับการออกแบบภายนอกของ New Mitsubishi Pajero Sport 2019 ของทั้งสองรุ่นย่อยนั้น เรียกว่าแทบไม่ได้ต่างกันเลยด้วยซ้ำ เพราะมีอุปกรณ์และการออกแบบที่เหมือนกันในแต่ละรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็น กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า มือเปิดประตูด้านนอกแบบโครเมียม ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ ไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ Spectrum LED ไฟท้ายแบบ LED ที่มีขนาดเล็กลงจากรุ่นก่อน ไฟเบรกดวงที่สาม ระบบการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้าสีเงิน บันไดข้าง ราวหลังคาสีเงิน เสาอากาศแบบ Shark Fin ฯลฯ ซึ่งนับว่าเป็นการออกแบบที่มีการเพิ่มรายละเอียดและดีเทลเข้าไปเยอะพอสมควร แน่นอนว่า การออกแบบภายนอกนั้น จะมีองค์ประกอบเดียวที่แตกต่างกันก็คือ ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีประตูท้ายที่สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมกับระบบแฮนด์ฟรี และปุ่มปิดฝาท้ายพร้อมล็อกรถ ในขณะที่รุ่น 2WD GT จะไม่มีระบบดังกล่าว

อ่านเพิ่มเติม

>> เปิดรีวิว New Mitsubishi Pajero Sport 2019 รุ่นปรับโฉมใหม่ ไฉไลกว่าเดิม
>> ปรากฏการณ์แห่งความสำเร็จกับการเปิดตัว New Mitsubishi Pajero Sport 2019 พร้อมชุดแต่ง 2 สไตล์

การออกแบบภายนอกที่เหมือนกันของทั้งสองรุ่น

ประตูท้ายสามารถเปิด-ปิดได้ด้วยไฟฟ้า พร้อมกับระบบแฮนด์ฟรี ที่มีให้เฉพาะรุ่น 4WD GT-Premium

เปรียบเทียบดีไซน์ภายในห้องโดยสารและฟังก์ชั่นภายใน

แน่นอนว่า การดีไซน์ภายในห้องโดยสารของ New Mitsubishi Pajero Sport 2019 ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ก็มีอุปกรณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่เหมือนกัน อาทิ เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังและวัสดุสังเคราะห์สีดำ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่พร้อมเมนูภาษาไทย ระบบปรับอากาศแบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี nanoeTM จอ พอร์ทการเชื่อมต่อภายในห้องโดยสาร USB 2 ตำแหน่ง บวกกับ HDMI บริเวณคอนโซลหน้า ฯลฯ รวมไปถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกแบบจัดหนักจัดเต็ม

การออกแบบห้องโดยสารที่เน้นความกว้างขวางและสะดวกสบายของ New Mitsubishi Pajero Sport 2019

โดยในส่วนของความแตกต่างของการดีไซน์ภายในห้องโดยสารนั้น จะมีความแตกต่างกันในส่วนของระบบและอุปกรณ์บางส่วน รวมแล้วมีทั้งหมด 8 จุดด้วยกัน คือ

1. หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่พร้อมเมนูภาษาไทย ที่มีขนาดแตกต่างกัน โดยรุ่น 2WD GT มีขนาด 4.2 นิ้วจอธรรมดา แต่ในรุ่น 4WD GT-Premium มีขนาด 8 นิ้ว แบบ LCD
2. ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสารนาโนอิที่จะมีเฉพาะในรุ่น 4WD GT-Premium
3. ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย ที่ทั้งสองรุ่นจะมีเหมือนกัน แต่ในรุ่น 4WD GT-Premium จะทำงานแบบแปรผันอัตโนมัติ
4. กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อน ที่ทั้งสองรุ่นจะมีเหมือนกัน แต่ในรุ่น 4WD GT-Premium จะทำงานแบบอัตโนมัติ
5. เบาะคู่หน้าสามารถปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งในรุ่น 2WD GT จะปรับได้เฉพาะเบาะคนขับ แต่ในรุ่น 4WD GT-Premium จะปรับได้ทั้งคนขับและเบาะข้างคนขับ
6. หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน SDA ที่ในรุ่น 4WD GT-Premium จะถูกเพิ่มระบบนำทางในรถยนต์เข้ามาในหน้าจอระบบสัมผัส
7. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีจอภาพแบบ Wide Screen ขนาด 12.1 นิ้ว บริเวณหลังคาโซนหลัง พร้อมรีโมทที่ใช้เชื่อมต่อ HDMI, USB และหูฟังอินฟราเรด 2 ชุด ในขณะที่รุ่น 2WD GT จะไม่มีอุปกรณ์ดังกล่าว
8. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบสั่งการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนในระยะสัญญาณ Bluetooth ซึ่งในรุ่น 2WD GT จะไม่มีระบบดังกล่าวภายในรถ
9. ระบบการล็อกเฟืองท้ายที่สั่งการบริเวณคอนโซลหน้า เฉพาะในรุ่น 4WD GT-Premium

การออกแบบห้องโดยสารในรุ่น 2WD GT และ 4WD GT-Premium

การออกแบบห้องโดยสารในรุ่น 2WD GT และ 4WD GT-Premium ที่มีรายละเอียดต่างกันในบางจุด

จอภาพแบบ Wide Screen ขนาด 12.1 นิ้ว บริเวณหลังคาโซนหลัง เฉพาะรุ่น 4WD GT-Premium

ระบบการล็อกเฟืองท้ายที่ทำงานร่วมกับระบบล็อกภายในที่มีเฉพาะในรุ่น 4WD GT-Premium

เปรียบเทียบสมรรถนะและการใช้งาน

แน่นอนว่า ทั้งในรุ่น 2WD GT กับ 4WD GT-Premium จะมีการใช้เครื่องยนต์ที่ส่งพลังที่เหมือนกัน นั่นก็คือ การใช้เครื่องยนต์ MIVEC 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว พร้อมวาล์วไอดีแปรผัน, เทอร์โบแปรผัน และอินเตอร์คูลเลอร์ ที่มีขนาด 2.4 ลิตร ผสานกำลังกับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่งกำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที ซึ่งทั้งสองรุ่นจะแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แยกย่อยได้ดังนี้

1. ในรุ่น 2WD GT ใช้ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ แต่ในรุ่น 4WD GT-Premium ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบ SS4 II พร้อม Diff Lock ที่เฟืองท้าย
2. ในการส่งกำลัง รุ่น 4WD GT-Premium จะเพิ่ม Transfer Ratio สูงสุดที่ 1.000 และต่ำสุดที่ 2.566

สมรรถนะการขับขี่ที่ใช้เครื่องยนต์เดียกัน แต่มีระบบการขับเคลื่อนต่างกัน

เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย

หากพูดถึงเรื่องของระบบความปลอดภัยของทั้งสองรุ่นย่อย 2WD GT กับ 4WD GT-Premium นั้น เรียกว่าค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หากใครที่อยากเพิ่มความปลอดภัยแบบจัดหนักจัดเต็ม บอกก่อนว่าต้องเลือกรุ่น 4WD GT-Premium เท่านั้น เพราะมีการเพิ่มและเสริมเข้ามามากกว่ารุ่น 2WD GT หลายจุดเลยทีเดียว ซึ่งในส่วนของระบบความปลอดภัยพื้นฐานของทั้งสองรุ่นก็จะยังคงมีเหมือนกัน เช่น ระบบเบรกมือควบคุมด้วยไฟฟ้าอัตโนมัติ ระบบลดกำลังเครื่องยนต์เพื่อช่วยเบรก ระบบล็อกป้องกันการเปิดประตูหลังจากภายใน ไฟห้องโดยสารเปิดอัตโนมัติ ระบบสัญญาณกันขโมย ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ฯลฯ ซึ่งในส่วนของระบบที่แตกต่างกันนั้น หากเปรียบเทียบโดยละเอียดแล้วต่างกันมากถึง 9 ระบบเลยทีเดียว ดังนี้

1. ถุงลมนิรภัยด้านข้าง บริเวณหัวเข่าด้านคนขับ และม่านถุงลมนิรภัย ที่ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีมาให้เพิ่มจากเดิม
2. เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง พร้อมระบบผ่อนแรงที่จะมีให้ทั้ง 2 รุ่นย่อย แต่ที่แตกต่างกันคือ ในรุ่น 2WD GT จะมีเฉพาะในตำแหน่งคนขับเท่านั้น ในขณะที่รุ่น 4WD GT-Premium จะมีทั้งตำแหน่งคนขับและที่นั่งข้างคนขับ
3. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (รุ่น 2WD GT จะไม่มี)
4. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบเตือนการชนหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (รุ่น 2WD GT จะไม่มี)
5. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว (รุ่น 2WD GT จะไม่มี)
6. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา (รุ่น 2WD GT จะไม่มี)
7. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบเตือนขณะที่เปลี่ยนเลน (รุ่น 2WD GT จะไม่มี)
8. ในรุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (รุ่น 2WD GT จะไม่มี)
9. สัญญาณเตือนการกะระยะจอด ในรุ่น 2WD GT จะมีเฉพาะด้านหลัง ในขณะที่รุ่น 4WD GT-Premium จะมีระบบดังกล่าวทั้งด้านหน้าและหลัง

จุดแสดงถุงลมนิรภัยภายในตัวรถ ที่ในรุ่น 4WD GT-Premium จะถูกเพิ่มในบางตำแหน่งขึ้นมา

สัญญาณเตือนการกะระยะจอดของทั้งรุ่น 2WD GT และ 4WD GT-Premium

ระบบการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟนในรุ่น 4WD GT-Premium

ระบบเตือนขณะที่เปลี่ยนเลนในรุ่น 4WD GT-Premium

ระบบเตือนการชนหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วในรุ่น 4WD GT-Premium

กล้องมองภาพรอบคันที่มีให้ทั้งในรุ่น 2WD GT และ 4WD GT-Premium

ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วในรุ่น 4WD GT-Premium

สรุป

สำหรับการเปรียบเทียบรุ่นย่อยของ New Mitsubishi Pajero Sport 2019 ระหว่างรุ่น 2WD GT กับ 4WD GT-Premium นั้น เรียกว่าค่อนข้างแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยในแต่ละส่วน เช่น ระบบความปลอดภัยที่ถูกเพิ่มเข้ามา หรือแม้กระทั่งสมรรถนะที่ใช้ระบบการขับเคลื่อนที่แตกต่างกัน และอีกอย่างหนึ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดก็คือราคาจำหน่าย โดยในรุ่น 2WD GT มีราคาจำหน่ายที่ 1,299,000 บาท แต่ในรุ่นท็อปอย่าง 4WD GT-Premium มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 1,599,000 บาท ห่างกันถึง 3 แสนบาทเลยทีเดียว

อ่านเพิ่มเติม

>> สายกระบะเช็กด่วนกับลิสต์รถกระบะที่จะเปิดตัวในปี 63 นี้
>> เปรียบเทียบ Mitsubishi Attrage กับ Suzuki Ciaz ใครกันแน่จะเจ๋งจริง
 

 ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ช่องทางตลาดรถ Unseencar.com