ปัญหาหลักๆของผู้ใช้รถยนต์ ที่ไม่อยากเจอมากที่สุดอันดับต้นๆ นั่นก็คือ ขี้นก ซึ่งเป็นปัญหากวนใจต่อใครหลายๆคน เพราะนอกจากขี้นกจะทำลายสีของรถยนต์แล้ว ยังทำความสะอาดยากอีกด้วย แถมกลิ่นยังเหม็นอีกต่างหาก วันนี้ทีมงาน มีเทคนิค 5 ข้อ จัดการกับ ขี้นก เพื่อป้องกันไม่ให้สีรถเสียหายมาฝากกันครับ
ปัญหาหลักๆของผู้ใช้รถยนต์ ที่ไม่อยากเจอมากที่สุดอันดับต้นๆ นั่นก็คือ “ขี้นก” ซึ่งเป็นปัญหากวนใจต่อใครหลายๆคน เพราะนอกจากขี้นกจะทำลายสีของรถยนต์แล้ว ยังทำความสะอาดยากอีกด้วย แถมกลิ่นยังเหม็นอีกต่างหาก วันนี้ทีมงาน Unseencar มี เทคนิค 5 ข้อ จัดการกับ ‘ขี้นก’ เพื่อป้องกันไม่ให้สีรถเสียหายมาฝากกันครับ
1.ล้างออกทันที
หากขี้นกหยดแหมะให้เห็นต่อหน้าต่อตาแล้วล่ะก็ ทางที่ดีควรรีบล้างออกเสียแต่เนิ่นๆ (แต่ถ้าขับรถอยู่ก็ปล่อยไว้ก่อนดีกว่า) ควรล้างด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่เปรอะเปื้อนไปด้วยมูลนก ไหลไปทำร้ายสีส่วนอื่นอีก แต่หากไม่มีน้ำ ก็ควรใช้กระดาษทิชชู่เช็ดออกทันที
2.จัดการมูลนกแห้ง
บางครั้งจอดรถทิ้งไว้กลางแจ้ง กลับมาอีกทีก็เพิ่งรู้ตัวว่าโดนทิ้งบอมม์ไว้แล้ว ให้รีบนำน้ำสะอาดราดใส่มูลนกเพื่อให้อ่อนตัวลง ก่อนที่จะเช็ดออกอีกครั้ง ไม่ควรแคะมูลนกขณะที่แห้งอยู่ เพราะจะเป็นการทำให้ชั้นเคลือบสีหลุดออกมาด้วย
3.ล้างรถซะเลย
ทางออกที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา ก็คือการล้างรถทั้งคันควบคู่ไปกับการใช้น้ำยาล้างรถ และจะดีขึ้นไปอีกถ้าเคลือบสีหลังล้างเสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้มูลนกสามารถทำร้ายชั้นสีได้โดยตรง
4.เปลี่ยนที่จอดใหม่
หากที่จอดรถประจำของคุณมักโดนขี้นกตกใส่อยู่บ่อยๆ เช่น ใต้ต้นไม้ ใต้อาคารที่มีขื่อหลังคา ฯลฯ ถ้าสามารถเลี่ยงไปจอดที่อื่นในจุดที่ไม่มีขี้นกตกใส่ได้ก็ควรเลี่ยง แต่หากเลี่ยงไม่ได้ จะลองหาผ้าคลุมรถมาคลุมไว้ก็ดีเหมือนกัน
5.ล้างมือทุกครั้งที่สัมผัสขี้นก
มูลนกเต็มไปด้วยเชื้อโรคที่มาจากนก ดังนั้น ทุกครั้งที่สัมผัสกับมูลนก ควรรีบล้างมือตามทันที โดยเฉพาะซอกเล็บที่อาจเข้าไปติดได้
เป็นยังไงกันบ้างครับกับการป้องกัน เทคนิค 5 ข้อ !! ป้องกัน “ขี้นก” ศัตรูตัวฉกาจที่ทำร้ายสีรถคุณ! นำมาฝากกันไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ ซึ่งๆจริงๆแล้วเราควรป้องกันไว้ก่อนที่สีรถของเราจะถูกทำลายโดยไม่รู้ตัว
อ่านข่าวสารยานยนต์เพิ่มเติมคลิกที่นี่!