สถิติอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคมแต่ละปีมีสาเหตุมาจากอาการหลับในถึงร้อยละ 4.6 ของทั้งหมด เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียวหากคำนวณจากอุบัติเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศ
อาการหลับใน คือ การหลับในขณะที่ตายังเปิดอยู่ เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆไม่เกิน 10 วินาที สภาพหลับๆตื่นๆ สามารถปลุกได้ง่าย การขับรถที่ใช้เวลานานเกินไปนั่งนานๆด้วยท่าที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดความเมื่อยล้าสะสม หรือขับในช่วงเวลาบ่ายๆอาจทำให้เกิดความอ่อนเพลีย ดังนั้น หากท่านพักผ่อนมาน้อยก่อนขับรถอาจเกิดอาการหลับในได้
สถิติอุบัติเหตุของกระทรวงคมนาคมแต่ละปีมีสาเหตุมาจากอาการหลับในถึงร้อยละ 4.6 ของทั้งหมด เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียวหากคำนวณจากอุบัติเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นในประเทศ และต้องนับกันทุกๆวัน ทุกๆเดือน ตัวเลขในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 650 – 700 ครั้ง นอกจากจะทำให้ทรัพย์สินของเราเสียหาย เสียโอกาสและเวลา บางท่านอาจหมายถึงชีวิตของท่านและครอบครัวของท่านเอง
สาเหตุอาการหลับในมักเกิดจาก
1. อดนอน นอนไม่พอ เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
2. รับประทานยาที่ทำให้ง่วง เช่น ยาแก้หวัด ยาแก้ภูมิแพ
3. ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
4. โรคประจำตัว เช่น ชอบนอนกรน หยุดหายใจในขณะหลับ ร่างกายจะไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
สังเกตอาการหลับในเบื้องต้น
ไม่ว่าท่านจะสังเกตตัวท่านเองหรือให้ผู้โดยสารคอยสังเกตอาการผิดปกติระหว่างขับรถเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ อาการผิดสังเกตมีดังนี้
1. หาวบ่อยๆ และแสดงอาการอย่างต่อเนื่อง
2. ใจลอยเริ่มไม่ค่อยมีสมาธิขณะขับรถ
3. จำไม่ค่อยได้ว่าขับผ่านอะไรมา
4. หนังตาปรือ ขับรถส่ายไปส่ายมา
หยุดรถยืดเส้นยืดสาย ผ่อนคลายความเมื่อยล้าทุกๆ 4 ชั่วโมง
วิธีแก้ง่วง
1. เคี้ยวหมากฝรั่ง ลองพกติดรถเอาไว้บ้างหากท่านรู้ตัวว่าทำงานหนักพักผ่อนน้อย การมีอวัยวะส่วนอื่นขยับอยู่บ่อยๆช่วยให้ไม่เกิดอาการง่วงซึม
2. ผลไม้รสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัว ทำให้ท่านสดชื่น
3. น้ำเย็นๆในขวดหรือน้ำแข็ง ใช้ลูบหน้าและประคบไว้ที่คอ
4. ชวนคนข้างๆคุย หากมีคนช่างจ้อนั่งมาด้วยกันในรถจะทำให้ท่านไม่ง่วงโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน การมีบทสนทนาที่สนุกสนานอยู่ตลอดช่วยให้ไม่ใจลอยแล้วตาปรือ
5. เปิดเพลงจังหวะเร็วๆ หลีกเลี่ยงเพลงช้าจะทำให้ท่านง่วงขึ้นไปอีก
6. แวะปั๊ม ล้างหน้าล้างตา ดื่มกาแฟ หรือถ้าไม่ไหวจริงๆท่านจะงีบไปเลยก็ได้
พักผ่อนให้เพียงพอก่อนขับรถนะครับ!
ดูเพิ่มเติม :
>>วิธีนอนหลับในรถอย่างปลอดภัย