รวมปัญหาของรถ Honda HR-V พร้อมแนวทางการแก้ไข

รวมปัญหาของรถ Honda HR-V และวิธีการแก้ไข

Honda HR-V และปัญหาพบเจอ

มาทำความรู้จัก Honda HR-V แบบคร่าวๆ กันก่อน

Honda HR-V รถยนต์นั่งกลุ่ม Compact SUV รถเอนกประสงค์ยอดนิยมของคนไทย

จากการรีวิว Honda HR-V รถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปี 2557 และนับเป็นการจุดกระแสของรถ Compact SUV ในประเทศไทยจนมียอดขายสะสมกว่า 66,000 คัน โดยรุ่นล่าสุด คือ Honda HR-V Miner Changed ที่มีการเปิดตัวไปในวันที่ 15 มิถุนายน 2018 โดยปรับลงเหลือ 3 รุ่นเหมือนช่วงเปิดตัวในปีแรกๆ ได้มีการนำรุ่น S มาเพิ่มเติมอุปกรณ์พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น E ในขณะที่รุ่น E เดิมได้เพิ่มลูกเล่นเข้าไป และปรับเป็นรุ่น EL ส่วนรุ่น EL เดิมได้ปรับฟังก์ชั่นที่มีหลังคาพาโนรามิก เพิ่มเติมอุปกรณ์ความปลอดภัย และของแต่งลุคสปอร์ตแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นรุ่น RS แทน แม้ว่าจะมีการปรับโฉมแล้ว ในเรื่องของการขับขี่ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง โดยปัญหาของ Honda HR-V จะมีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

ดูเพิ่มเติม
>> เจาะคำถามล้วงคำตอบเกี่ยวกับ Honda HR-V !!
>> Honda HR-V มือสองดีไหม ? เลือกรุ่นไหนคุ้มที่สุด

ปัญหาที่พบของ Honda HR-V

• เมื่อเหยียบเบรกแล้วมีเสียงดัง​

​​

ปัญหาแรกที่พบคือ เมื่อเหยียบเบรกแล้วจะมีเสียงดัง​

การที่เกิดเสียงดังขณะเหยียบเบรก อาจมีสาเหตุจากแรงฝืดภายในจานเบรก ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ขับขี่ขับรถไปในสถานที่ต่างๆ ส่งผลให้จานเบรกหมุนทำงานตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการจราจรแออัดจึงทำให้มีเสียงดังออกมาเสมอ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่จานเบรกขึ้นสนิม หรือมีฝุ่นเกาะ เนื่องจากการขับรถลุยแอ่งน้ำอีกด้วย

• ตัวถังรถไม่เก็บเสียง

ตัวถังรถ Honda HR-V เก็บเสียงได้ไม่ดี ทำให้มีเสียงลมเข้ามาขณะขับขี่

ตัวถังรถที่ไม่เก็บเสียงอาจเกิดจากเสียงลมที่เข้ามาภายในห้องโดยสาร ซึ่งจะส่งเสียงรบกวนขณะขับขี่ได้ โดยปัญหาเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารสามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ทุกยี่ห้อไม่ใช่แค่เพียง Honda HR-V เท่านั้น และในรถแต่ละคันจะมีสามเหตุของการเกิดเสียงรบกวนแตกต่างกัน ซึ่งต้องค้นหา และแก้ไขให้ถูกจุดตามความเหมาะสม

• เมื่อใช้ความเร็วสูงแล้วรถส่าย

เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงพบว่ารถเริ่มส่าย

อาการรถส่ายเมื่อใช้ความเร็วสูง และส่งผลให้ควบคุมได้ยาก อาจเกิดขึ้นได้หากช่วงล่างของรถมีความแข็งค่อนข้างมาก โดยใน Honda HR-V ใช้ช่วงล่างในส่วนหลังแบบ HRVoyho ซึ่งเป็นทอร์ชั่นบีม ให้ความรู้สึกเสมือนเป็นคานแข็ง แต่ก็ยังให้ความรู้สึกว่าขับขี่ได้นุ่มนวลกว่า Honda Jazz หรือ Honda City โดยจะต้องผสานกับการหมุนพวงมาลัย การเดินคันเร่ง และการปล่อยคันเร่ง ซึ่งต้องอาศัยความคุ้นชินในการขับขี่เพิ่มเติมด้วย

• เข้าโค้งแล้วมีอาการเหมือนจะหลุดโค้งได้

​​

เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วมากกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป มีโอกาสหลุดโค้งได้

ด้วยช่วงล่างของรถที่มีแข็งค่อนข้างมากช่วงล่างในส่วนหลังแบบ HRVoyho ซึ่งเป็นทอร์ชั่นบีม ส่งผลให้เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วระดับหนึ่งตั้งแต่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป ก็อาจส่งผลให้เมื่อเข้าโค้งรถมีอาการเหมือนจะหลุดโค้งได้

• เสียงดังก๊อกแก๊กภายในรถ

กรณีเสียงดังก๊อกแก๊กภายในรถอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ สาเหตุแรกอาจเป็นเสียงจากล้อ หรือซุ้มล้อ ซึ่งเกิดจากการเสียดสีของชิ้นส่วนประกอบ สาเหตุต่อมาอาจเป็นเสียงที่เกิดจากเบาะนั่ง เนื่องจากอาจมีชิ้นส่วนของเบาะไปเสียดสีกับอุปกรณ์อื่นอยู่จนทำให้เกิดเสียงขึ้นได้

วิธีการแก้ไข

วิธีการแก้ไขปัญหารถ Honda HR -V แบบง่ายๆ

• สาเหตุแรกที่มีเสียงดังจากระบบเบรก สามารถแก้ไขได้ด้วยการนำรถเข้าไปตรวจเช็คระบบเบรกกับศูนย์บริการเพื่อความปลอดภัย และขจัดเสียงรบกวน ซึ่งวิธีการแก้ไขอาจจะต้องมีการเจียรจานเบรก เพื่อให้มีความหนาที่พอดี และเพื่อขจัดสนิมบนจานเบรกที่ก่อให้เกิดเสียงดังรบกวนอีกด้วย นอกจากนี้แล้วการเปลี่ยนยางก็นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้รับผลดีหากต้องการลดเสียงรบกวน เพียงเลือกใช้ยางที่มีคุณสมบัติลดแรงกระแทกและมีความนุ่มนวลสูงก็สามารถที่จะช่วยลดเสียงดังลงได้ระดับหนึ่ง
• สาเหตุตัวถังไม่เก็บเสียงสามารถที่จะแก้ไขได้ด้วยการนำรถของท่านเข้าไปยังศูนย์บริการแล้วบอกช่างให้ทำการติดตั้งแผ่นแดมป์ (แผ่นกันเสียง) บริเวณประตู เพดานห้องโดยสาร และพื้น ก็สามารถช่วยป้องกันเสียงรบกวนที่เกิดขึ้นภายในห้องโดยสารได้อีกทางหนึ่ง ในปัจจุบันมีให้เลือกอยู่หลายเกรดแล้วแต่ความพอใจของเจ้าของรถเอง
• สำหรับอาการรถส่าย และเข้าโค้งที่เหมือนจะหลุดนั้น วิธีการแก้ไขก็คือการขับ Honda HR-V ให้คุ้นชิน เพื่อการจับจังหวะการหมุนพวงมาลัย การเดินคันเร่ง และการปล่อยคันเร่งที่สอดคล้องกับช่วงล่างของรถได้มากยิ่งขึ้น

โดยปกติรถยนต์ Honda มักมีเสียงก๊อกแก๊กภายในรถอยู่แล้ว โดย Honda HR-V ก็เป็นเช่นกัน แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง

• เสียงก๊อกแก๊กภายในรถสามารถแก้ไขได้ตามสาเหตุที่เกิดขึ้น โดยกรณีที่มีเสียงดังออกมาจากล้อ หรือ ซุ้มล้อ ผู้ขับขี่สามารถทำการแก้ไขได้ด้วยตนเองเพียงใช้สเปรย์สำหรับพ่นกันเสียงใต้ซุ้มล้อที่มีจำหน่ายอยู่ในห้างสรรพสินค้าทั่วไปในปัจจุบัน นำมาพ่นลงไปยังบริเวณซุ้มล้อทั้ง 4 ข้าง แล้วปล่อยให้แห้งประมาณ 30 นาที โดยลักษณะของสเปรย์จะเป็นเหมือนยางเคลือบสีดำมีคุณสมบัติป้องกันเสียงจากล้อเข้ามาภายในห้องโดยสาร สำหรับราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1 กระป๋องเพียง 200-300 บาทเท่านั้น อีกทั้งเพื่อการเก็บเสียงให้เงียบสนิทควรพ่นข้อต่อต่างๆบริเวณใต้ท้องรถเพิ่มเติมด้วย
• ส่วนเสียงลมรบกวนภายในห้องโดยสารสามารถแก้ไขได้โดยเปลี่ยนยางขอบประตูซึ่งอาจมีการเสื่อมสภาพจนทำให้มีเสียงลมเข้ามาภายในห้องโดยสาร นอกจากนี้แล้วหากยังแก้ไขเสียงดังจากลมไม่ได้ให้ผู้ขับขี่ติดตั้งยางกันเสียงรบกวนเพิ่มเติมได้โดยทำการติดตั้งในตำแหน่งใกล้เคียงกับยางขอบประตูก็สามารถลดปัญหาเสียงลมเข้ามาภายในห้องโดยสารได้เช่นกัน ในกรณีที่เกิดเสียงดังขึ้นที่เบาะนั่งแก้ไขได้ไม่ยากเพียงปรับตั้งตำแหน่งเบาะนั่งใหม่ เนื่องจากในบางครั้งการปรับตั้งโดยตัวผู้โดยสารเองอาจทำให้มีชิ้นส่วนของเบาะไปเสียดสีกับอุปกรณ์อื่นอยู่จนทำให้เกิดเสียงขึ้น ทั้งนี้ผู้ขับขี่ควรปรับตั้งพร้อมทั้งทดลองนั่งบนเบาะดูว่าจะมีเสียงผิดปกติอีกหรือไม่หากยังไม่บรรเทาลงควรนำรถของท่านเข้าไปตรวจเช็คที่ศูนย์บริการต่อไป และสุดท้ายหากมีเสียงที่ดังไม่มากนักอาจลองเปิดเพลงให้มีเสียงดังดูบ้าง หรือติดตั้งชุดเครื่องเสียงใหม่ที่ให้เสียงถูกใจแล้วเปิดขับกล่อมในขณะที่ทำการขับขี่ก็อาจช่วยกลบเสียงรบกวนดังกล่าวลงได้บ้าง

ดูเพิ่มเติม
>> Honda HR-V Sport 1.5 Turbo วางจำหน่ายแล้วที่อังกฤษ !
>> เช็คความพร้อมก่อนเข้าไทย Honda HR-V ราคา 1 ล้าน+ คุ้มค่าหรือไม่

หากปัญหาดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง ควรให้ช่างที่มีฝีมือชำนาญเป็นผู้ดูแล ซ่อมแทนนะคะ

หวังว่าบทความนี้จะช่วยแก้ไขปัญหารถยนต์ที่ข้องใจของผู้ที่ตัดสินใจซื้อรถ หรือผู้ที่ใช้รถ Honda HR-V รุ่นนี้อยู่ได้บ้าง หากหาสาเหตุด้วยตนเองไม่เจอ หรือมีอาการที่ส่งผลกระทบต่อการขับขี่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ควรติดต่อเข้าใช้บริการศูนย์บำรุง และรักษาของ Honda เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาของ Honda HR-V ได้อย่างทันท่วงทีนะคะ สำหรับบทความเรื่องรถดีๆ เรื่องอื่นสามารถติดตามได้ที่ Chobrod.com เช่นเคยนะคะ

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้