รวมคอมเม้นท์เกี่ยวกับ Honda Civic Minor Change จากผู้ใช้งานจริง
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปตั้งแต่ช่วงปลายปีแล้วนะคะ สำหรับ Honda Civic Minor Change ที่เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนตั้งตารอคอย แต่การกลับมาในครั้งนี้จะคุ้มค่ากับการรอคอยหรือไม่ และจะมีคอมเม้นท์จากผู้ใช้งานจริงอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
Honda Civic Minor Change 2019
Honda Civic 2019 Minor Change โฉมใหม่ที่กลับมาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่คล้ายเดิม แต่เพิ่มเติมในเรื่องระบบ Infotainment
การกลับมาในครั้งนี้ของ Honda Civic Minor Change 2019 นี้มีการปรับโฉมใหม่ พร้อมปรับเปลี่ยนในเรื่องของระบบ Infotainment และเพิ่มเติมความปลอดภัยให้มากขึ้นยิ่งกว่าที่เคย การปรับโฉมจะเน้นไปที่การปรับโฉมส่วนหน้าของตัวรถ โดยในส่วนของกันชนหน้า ซึ่งมีการปรับรายละเอียดของลวดลายของช่องดักอากาศ เชื่อมกรอบไฟตัดหมอกกับช่องดักลมรวมกัน ในขณะที่กระจังหน้า และไฟหน้าเป็นลายเดิมแต่เปลี่ยนการพรีเซ็นต์ใหม่ จากเดิมที่เป็นแบบชุบโครเมียม มีการปรับให้เป็นแบบรมดำ ช่วยเพิ่มความดุดันขึ้น ส่วนด้านหลังถอดรูปแบบมาจากรุ่นเดิมอย่างไม่ผิดเพี้ยน แต่เพิ่มแถบโครเมียมที่กันชนหลัง เพิ่มสีน้ำเงินใหม่ Brilliant Sporty Blue คู่กับภายในสีดำเท่านั้น (ส่วนเบาะสีเบจไม่มีสีใหม่นี้)
ภายนอกภาพลักษณ์ยังคงเดิม คล้ายกับรุ่นก่อนหน้า
ภายในปรับเปลี่ยนวัสดุแถบตกแต่งลายใหม่ และแต่ละรุ่นก็ได้อุปกรณ์ต่างกัน
ภายในมีการปรับเปลี่ยนวัสดุแถบตกแต่งลายใหม่ เปลี่ยนแผงควบคุมเครื่องเสียงตรงกลาง เปลี่ยนการปรับเสียงจากระบบสัมผัส เป็นแบบมือหมุน นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นย่อยอีกดังนี้
- Honda Civic Minorchange 1.8 E ภายนอกได้ล้อแม็กซ์ 16 นิ้ว ลายใหม่ เพิ่มคิ้วโครเมียมที่กรอบไฟตัดหมอก ภายในเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ใบ เพิ่มระบบ Cruise Control เพิ่มกล้องมองภาพขณะถอยจอด
- Honda Civic Minorchange 1.8 EL ภายนอกได้ล้อแม็กซ์ 16 นิ้ว ลายใหม่ 10 ก้านสีดำ เพิ่มคิ้วโครเมียมที่กรอบไฟตัดหมอก ส่วนภายในเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 ใบ เพิ่มม่านถุงลม 2 ด้าน เพิ่มกล้องมองข้าง Honda LaneWatch เพิ่มระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ เพิ่มกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
- Honda Civic Minorchange 1.5 Turbo แตกต่างจากรุ่นเทอร์โบเดิมด้วยการเพิ่มถุงลมนิรภัยด้านข้าง 2 จุด เปลี่ยนสีล้อขนาด 17 นิ้ว ลายใบพัดเดิม จากปัดเงาสีเงินเป็นสีเทาดำ เพิ่มแป้น Paddle Shift เพิ่มกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ
- Honda Civic Minorchange 1.5 Turbo RS รุ่นท็อปสุด มีความต่างจากเดิมที่ เปลี่ยนสีล้อแม็กซ์ขนาด 17 นิ้ว จากปัดเงาทูโทนเป็นสีดำ เปลี่ยนเสาอากาศวิทยุ เป็นแบบครีบฉลาม ภายในเพิ่มตะเข็บด้ายสีแดงแต่งเบาะหนัง เพิ่มกระจกมองข้างพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ และเพิ่มสัญลักษณ์ RS ที่กระจังหน้า
ระบบความปลอดภัยให้มาอย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้นด้วย Honda SENSING
ในส่วนของระบบความปลอดภัยให้มาอย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้นด้วย Honda SENSING ซึ่งนอกจากระบบความปลอดภัยพื้นฐาน ABS EBD BA และ VSA ที่ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานทุกรุ่นแล้ว ยังได้ติดตั้งระบบรักษาตัวรถยนต์ให้แล่นอยู่ในช่องทาง และมีการแจ้งเตือนเมื่อรถยนต์แล่นออกนอกช่องทาง ระบบ Adaptive Cruise Control ที่จะมีการปรับระดับความเร็วอัตโนมัติตามสภาพการจราจร ระบบไฟสูงอัตโนมัติ และระบบ Forward Warning Collision จะมีติดตั้งมาให้เลยจากโรงงานตั้งแต่รุ่นล่างสุด ยกเว้น Honda Lane Watch ซึ่งยังให้เฉพาะรุ่นสูงๆ เท่านั้น สำหรับเครื่องยนต์ยังคงความแรงด้วยเครื่องยนต์รุ่น 1.5 ลิตร VTEC TURBO และ 1.8 VTEC เช่นเคย
คอมเม้นท์เกี่ยวกับ Honda Civic 2019 Minor Change
สำหรับคอมเม้นท์จากผู้ใช้จริงของ Honda Civic จะมีคอมเม้นท์เกี่ยวกับ Honda Civic Minor Change ว่าอย่างไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกถือว่าออกแบบได้แบบสปอร์ตเต็มตัว ซึ่งการออกแบบนี้ดูหรูหราเพิ่มทำให้ดูเท่ดุดันมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ถึงกับหวือหวาหรือโดดเด่นมากนัก ส่วนภายในก็ออกแบบได้เรียบง่าย กว้างขวาง ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด เบาะใหญ่นั่งสบาย ถือว่าเป็นรถที่นั่งสบายพอสมควร แต่ว่าวัสดุปรับปรุงใหม่แล้วถือว่าโอเคกว่ารุ่นก่อนพอสมควร ส่วนการติดตั้งและการออกแบบของแผงควบคุมต่างๆ ถือว่าทำได้ดีทีเดียว เป็นการออกแบบเพื่อให้คนขับเข้าใจง่าย สมรรถนะการขับขี่นั้นก็ยังทำได้ดี อัตราเร่งเครื่องค่อนข้างดี ไม่อืด การออกตัวไม่กระชาก การขับขี่ค่อนข้างนุ่ม ไม่กระตุกเช่นเคย ที่สำคัญคือให้ระบบความปลอดภัยมาเยอะมาก รวมถึงให้มาตั้งแต่รุ่นล่างสุดเลยด้วย แม้ว่า Honda Lane Watch จะอยู่ในรุ่นท็อปสุดก็ไม่ใช่ปัญหา รู้สึกว่าคุ้มราคากับเงินที่เสียไป
รวมคอมเม้นท์เกี่ยวกับการใช้งาน Honda Civic รุ่นก่อน
ของแถมสำหรับคนที่ยังลังเลว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อ Honda Civic Minor Change 2019 ดี Chobrod เลยรวบรวมคอมเม้นท์ของผู้ใช้งานจริง Honda Civic 2018 มาเพื่อเพิ่มการตัดสินใจให้ค่ะ
1. ค่อนข้างประหยัดน้ำมันอย่างเกินคาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรุ่น 1.5 Turbo ที่ทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 17 กิโลเมตรต่อลิตรหากขับทางไกล และขับขี่ในเมืองมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 16.02 กิโลเมตรต่อลิตร
2. ผิดหวังในเรื่องงานประกอบ เพราะงานประกอบไม่ดีโดยเฉพาะช่องไฟซ้ายขวาไม่เท่ากัน QC ไม่มีความละเอียดแต่ก็แน่นดี เสียแค่ช่องไฟไม่เท่ากัน
3. ตัวยาง ER33 ของรุ่น RSค่อนข้างนุ่มดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นสายขับแรง เร็ว เน้นเข้าโค้งสนุก ควรเปลี่ยนยางเพราะเข้าโค้งแล้วค่อนข้างลื่น
4.สำหรับไฟหน้าในรุ่น EL สว่าง และใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องใช้สมาธิมากเหมือนกับไฟ RS เพราะไฟหน้ารุ่น EL ที่เป็น Projector เลยทำให้ลำแสงพุ่งตรงไปได้มากกว่า ทำให้เวลาใช้งานจริง มองทางได้ชัดกว่า RS แต่เรื่องความหล่อต้องยกให้ไฟหน้าของรุ่น RS เป็นพระเอก
5. มีดีเฟคต์บ้างในเรื่องของคอมเพรสเซอร์แอร์ โช๊คหลังเสียงดัง และเสียงดัง “ครืด” ขณะสตาร์ทเครื่อง หลังจากจอดพัก 1-2 ชั่วโมง แต่หากจอดข้ามคืนจะไม่มีเสียงดัง ซึ่งถ้าเจอดีเฟคต์เหล่านี้อย่าลืมแจ้งศูนย์อย่างเร็วที่สุด เพื่อแก้ไขให้ตรงจุดนะคะ
ดูเพิ่มเติม
Honda Civic 2018 ปะทะ Ford Focus 2018 เลือกคันไหนดีกว่ากัน ??? ต้องดู !!!
Honda Civic มือสองน่าซื้อหรือไม่ ต้องดู !!!
สำหรับวันนี้ Chobrod ขอฝากเอาไว้เพียงเท่านี้ แล้วบทความดีๆ เกี่ยวกับรถ เรื่องต่อไปจะเป็นอะไร อย่าลืมติดตามกันนะคะ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถกระบะมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้
