บุคคลแห่งปีที่โลกต้องจดจำ “ลุงสุรทิน ฮีโร่ถ้ำหลวง”

บุคคลแห่งปีที่โลกต้องจดจำ “ลุงสุรทิน  ฮีโร่ถ้ำหลวง”

หลังจากที่เรามีข่าวสะเทือนขวัญและบั่นทอนหัวจิตหัวใจคนไทยกันเป็นอย่างมากนั่นก็คือข่าวน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ที่เข้าไปติดอยู่ในถ้ำกันเป็นเวลานานกว่า 7 วัน ซึ่งข่าวนี้ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้รู้สึกสะเทือนขวัญกันเป็นอย่างมาก แต่ในความมืดมิดของถ้ำนั้นก็ยังคงมีแสงสว่างของ น้ำใจจากคนไทยกันอยู่ เพราะว่ามีฮีโร่ที่โลกต้องจดจำอยู่หนึ่งคนนั่นก็คือ “ลุงบาดาล” หรือ “สุรทิน ชัยชมภู” นายกสมาคมน้ำบาดาลไทย นอกจากนี้ยังเป็นเจ้าของวลีเด็ดที่ชาวเน็ตแห่กันชื่นชมอีกด้วยนั่นก็คือ “ค่าแรงผมขอเป็น 13 ชีวิตที่อยู่ในนั้นปลอดภัย”,  “อย่าไปกลัวว่าถ้ำจะพัง ถ้าถ้ำพังผมรับผิดชอบเอง” และวลีสุดท้าย “เมียผมบอกว่า ถ้าช่วยเด็กไม่ได้ ไม่ต้องกลับบ้าน” ต้องยอมรับว่าใจลุงแกจิตอาสาจริงๆ วันนี้ทาง Chobrod.com ก็มีประวัติคร่าวๆ ของคุณลุงฮีโร่ขวัญใจคนไทยคนนี้มาฝากกันด้วยค่ะ

ดูเพิ่มเติม
>> 10 ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ วันที่ 14 ก.ค.- 20 ก.ค. 2018
​>> 4 รุ่นรถมือสอง Toyota คุ้มค่าราคาดี ที่คุณต้องเลือก!

สุรทิน ชัยชมพู หรือ ช่างขวัญ 

สุรทิน ชัยชมพู หรือ ช่างขวัญ นายกสมาคมน้ำบาดาลไทย หนึ่งในเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยลดปริมาณน้ำภายในถ้ำหลวง.... เป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว มีน้องชายหนึ่งคน คุณพ่อทำงานรับราชการที่กรมทาง (ปัจจุบันคือกรมทางหลวง) ส่วนการศึกษาจบระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง หรือ ปวส. สาขาบัญชี เนื่องจากเปิดโอกาสให้น้องชายที่สอบติดคณะวิศวกรรมศาสตร์  มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ได้ศึกษาต่อ จึงทำให้เขาตัดสินใจหยุดเรียนเพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว และออกมาทำงานตั้งแต่นั้น จนเมื่ออายุประมาณ 20 ปี ได้สมัครเข้ารับราชการทหาร แต่ทำได้ไม่นานเพราะรู้สึกว่าเงินเดือนไม่พอเลี้ยงดูครอบครัว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลาออกไปทำงานบัญชีของบริษัทเหมืองแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ จนมีอยู่วันหนึ่งมีผู้ว่ารับเหมามาเบิกเงินค่าจ้างบ่อน้ำของเหมือง ซึ่งทำให้เขาสนใจและคิดว่าอาชีพนี้สามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก เพราะว่าทำงานไม่กี่วันแต่ได้ตอบแทนมากกว่างานประจำทั้งปีเสียอีก ตั้งแต่นั้นมา นายสุรทินจึงไปปรึกษากับเพื่อนที่ทำอาชีพรับจ้างเจาะบ่อบาดาลอยู่แล้ว หลังจากนั้นเขาก็ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่เขาทำอยู่ แล้วหันมาเริ่มงานนี้อย่างเต็มตัว โดยธุรกิจเล็กๆ ของเขานี้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2531 ถ้านับดูก็ผ่านมาราวๆ 30 ปี และตอนนี้เขาก็มีรถเจาะขนาดใหญ่มากถึง 5 ชุด มูลค่าหลายสิบล้านบาท ถือว่านายสุรทิน เป็นผู้รับเหมาเจาะน้ำบาดาลรายใหญ่อันดับต้นๆ ของทางภาคเหนือเลยก็ว่าได้ และยังได้รับสมญานามว่า “สยองบาดาล” เพราะเขารับงานทุกรูปแบบไม่ว่าจะยากลำบากสักแค่ไหนนั่นเอง

ภารกิจเริ่มต้นช่วยทีมหมูป่า

ดูเพิ่มเติม
>> รีวิว All-New Toyota Fortuner โฉมใหม่
>> 4 ตัวพ่อ! ยนตรกรรมราคาสูงที่สุดจากค่าย Toyota

ภารกิจเริ่มต้นช่วยทีมหมูป่า

นายกสมาคมน้ำบาดาลไทย เล่าว่า จุดเริ่มการร่วมภารกิจช่วยทีมหมูป่า ขณะนั้นทำงานอยู่จังหวัดนครราชสีมา เห็นข่าวว่ามีเด็กกลุ่มหนึ่งหายตัวไปในถ้ำตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2561 แต่ไม่ได้คิดอะไรเพราะนึกว่าเดี๋ยวคงช่วยเหลือได้ แต่พอเช้าวันที่ 24 มิถุนายน ก็ยังหาเด็กไม่พบประกอบกับในน้ำกำลังท่วมสูงขึ้น จึงตัดสินใจโทรประสานเพื่อนเพื่อระดมอุปกรณ์ไปช่วยดูดน้ำ สุรทิน พร้อมทีมงานเดินทางถึงถ้ำหลวงวันที่ 26 มิถุนายน เมื่อไปถึงก็ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ทันที แต่ทว่าผ่านไป 3 วันประเมิณว่า ระดับน้ำก็ยังไม่ลด “ตอนนั้นปริมาณน้ำที่ไหลเข้าถ้ำประมาณ 700-800 ร้อยคิวต่อชั่วโมง (ปริมาณน้ำ 1,000 ลิตร เท่ากับ 1 คิว) และเมื่อเทียบกับอีกฝั่งของถ้ำที่ห่างไป 300-400 เมตรกลับไม่มีน้ำ “ผมคิดว่าหากดูดน้ำอย่างเดียวคงไม่พอแล้ว จึงคิดว่าต้องเจาะถ้ำเพื่อเพิ่มทางระบายน้ำ” จากนั้นเขาเริ่มเดินสำรวจบริเวณโดยรอบ แต่ตอนนั้นมีอุปสรรคหลายอย่าง ทั้งเจาะไม่ตรงจุด รวมถึงถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทำงาน แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ย่อท้อจนสามารถเจาะเพิ่มได้ 5 จุด ทำให้เจ้าหน้าที่เห็นว่า วิธีนี้สามารถช่วยทำให้น้ำในถ้ำลดลงได้เพิ่มกว่า 10 เซนติเมตร จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการต่อ สุดท้ายจบภารกิจเจาะถ้ำไปทั้งหมด 17 รู ขนาดความกว้างจุดละ 3 นิ้ว ลึก 30-70 เมตร ซึ่งคุณลุงใจกล้าของเราก็ได้ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถและถึงแม้ว่าจะลึก จะลำบากแค่ไหน ลุงสุรทินคนนี้ก็ทำตามหน้าที่อย่างสุดแรงกำลัง ซึ่งนาย สุรทิน มองว่า สาเหตุที่ทำให้งานประสบความสำเร็จมาจากความตั้งใจและไม่ลดละความพยายาม “นิสัยผมเป็นคนมุทะลุ อันไหนที่ใครบอกว่าทำไม่ได้ ถ้าผมมั่นใจว่าต้องทำได้ ผมจะไม่สนใจ โดยเฉพาะเหตุการณ์วิกฤตแบบนี้ที่ต้องช่วยเด็กผมจะไม่ฟังคนอื่น ถ้าหากมั่นใจว่าทำได้ก็จะทำ และกล้ารับผิดชอบหากมีปัญหาเกิดขึ้น” สมกับเป็นบุคคลดีเด่นประจำปีจริงๆ เพราะคุณลุงสุรทินคนนี้ เขาทำไปโดยที่ไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย หวังเพียงแต่ ชีวิตเด็กๆ 13 คนที่รอดกลับมา เพราะเอ่ยวาจาออกมาเลยว่า “สำหรับเขารางวัลสูงที่สุดคือ ชีวิตของ 13 คนในถ้ำหลวง "

รถใหม่ป้ายเเดงของ ลุงสุรทิน

งานนี้ต้องบอกเลยว่าชาวเน็ตเเห่ส่องเลขทะเบียนรถ“ลุงสุรทิน” หลังได้รถป้ายเเดงหนักมาก เดี๋ยวดูต่อไปจะได้คำตอบนะคะ (ฮาๆ)

Toyota Inthanon (โตโยต้าอินทนนท์) ก็ได้ออกมาเฟสต์รูปภาพพร้อมเเคปชั่นเเสดงความยินดีกับ “ลุงสุรทิน”

TOYOTA มอบของขวัญด้วยการ “ลดราคา-ฟรีดาวน์-ไม่มีดอก”

หลังจากเหตุการณ์ได้คลี่คลายลงและเด็กๆ พร้อมโค้ชทีมหมูป่านั้น ออกมาจากถ้ำอย่างปลอดภัย คุณลุงสุรทิน ชัยชมพู เขาก็ได้ถูกยกย่องให้เป็นบุคคลที่น่ายกย่องแห่งปี นอกจากนี้ทางค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง TOYOTA ยังมอบของขวัญด้วยการ “ลดราคา-ฟรีดาวน์-ไม่มีดอก” และมอบรถยนต์รุ่นยอดฮิตอย่างโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีดำให้กับคุณลุงอีกด้วย ซึ่งทั้งนี้ทางโตโยต้าก็ลดราคาให้คุณลุงฮีโร่ถ้ำหลวง จาก 1,650,000 เหลืองเพียง 1,450,000 ในราคาผ่อนอีกด้วย ซึ่งก็มีชาวเน็ตแห่มาให้ความคิดเห็นกันมากมายเลยทีเดียว

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต

ความคิดเห็นจากชาวเน็ต

นอกจากจะทำคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ แล้ว ทาง Chobrod.com ก็ต้องขอแสดงความดีใจอย่างที่สุดกับการอุทิศตัวของลุงสุรทิน เพื่อหาเด็กๆ ทีมหมูป่าในถ้ำหลวง เราก็อยากให้คุณลุงมีแต่ความสุขความเจริญและให้บุคคลรุ่นหลังเป็นเยี่ยงอย่างต่อไปในการทำความดีในครั้งนี้ค่ะ