ท่านเคยสงสัยไหมว่า
ที่เราเห็นกันที่ติดอยู่กับรถยนต์ทุกคันทำไมสีป้ายทะเบียนรถหรือว่ามันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร เชื่อหลายท่านอาจจะไม่เคยรู้แต่ก็สงสัยแต่ก็ไม่เคยได้ไปหาคำตอบสักที่งันวันนี้เรามาดูกันว่ามันทำไมถึงไม่เหมือนหรือว่างกันอย่างไร
ท่านเคยสงสัยไหมว่าทะเบียนรถที่เราเห็นกันที่ติดอยู่กับรถยนต์ทุกคันทำไมสีป้ายทะเบียนรถหรือว่ามันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร เชื่อหลายท่านอาจจะไม่เคยรู้แต่ก็สงสัยแต่ก็ไม่เคยได้ไปหาคำตอบสักที่งันวันนี้เรามาดูกันว่ามันทำไมถึงไม่เหมือนหรือว่างกันอย่างไร
จากที่ได้ข้อมูลและได้ไปศึกษามาก็สรุปได้ว่าป้ายแต่ละป้ายแต่ละสีแต่ละขนาดมันมีหน้าที่แตกต่างกันออกไปตามที่กรมการขนส่งได้ระบุไว้ดั้งต่อไปนี้ มีทั้งหมดเจ็ดประเภทใหญ่
ทะเบียนรถหลากสี1.รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คนรถยนต์รับจ้างสามล้อ รถยนต์รับจ้างสี่ล้อ ละรถจักยานยนต์รับจ้างรถยนต์รับจ้างต่างจังหวัดได้แก่รถยนต์รับจ้างบรรทุกโดยสารไม่เกิน 7 คนที่ใช้รับจ้างระหว่างจังหวัดโดยส่งคนโดยสารได้เฉพาะที่นายทะเบียนกำหนดเท่านั้น ป้ายทะเบียนจะเป็นแบบพื้นแผ่นป้ายเป็นสีเหลืองสะท้อนแสงและตัวอักษรหมายเลขทะเบียนและขอบแผ่นป้ายทะเบียนเป็นสีแดงสำหรับรถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด,สีดำสำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกโดยสารไม่เกินเจ็ดคนและรถจักยานยนต์,สีเขียวสำหรับรถรับจ้างสามล้อ,สีน้ำเงินสำหรับรถเล็กสี่ล้อรับจ้าง
2.รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร รถยนต์บริการให้เช่า คือรถที่ใช้สำหรับให้บริการลูกค้า เช่นรถที่ใช้ขนส่งคนในสนามบิน ท่าเรือ สถานีขนส่ง หรือว่าจะเป็นสถานีรถไฟ และรถโรงแรมเป็นต้นและรถยนต์ทัศนาจรเช่นรถนำเที่ยวของบริษัททัวร์โดยรถพวกนี้พื้นแผ่นป้ายเป็นสีเขียวสะท้อนแสงตัวอักษร หมายเลขทะเบียน และขอบแผ่นป้ายเป็นสีขาว
3.รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน7คนรถยนต์ส่วนบุคลคลเกิน7คนรถยนต์ทุกส่วนบุคคล รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ พวกรถส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเก๋ง รถตู้ รถกระบะ รถ MPV หรือรถ SUV โดยพื้นแผ่นป้ายเป็นสีขาวสะท้อนแสง ตัวอักษรหมายเลขทะเบียนและขอบแผ่นป้ายเป็นสีดำคือสำหรับรถยนต์นั่งส่วนตัวบุคคลไม่เกิน7คนและรถจักรยานยนต์ส่วนสีน้ำเงิน สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลนั่งเกิน7คน สีเขียวสำหรับรถบรรทุกส่วนบุคคลและสีสุดท้ายสำหรับประเภทนี้คือสีแดงคือสำหรับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
หมายเหตุ จะมีแผ่นป้ายทะเบียนชนิดพิเศษ พวกทะเบียนเลขสวย เป็นป้ายที่จัดออกประมูลซึ่งจะมีสีของแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขและตัวอักษรต่างไปจากแผ่นป้ายปกติ และแต่ละจังหวัด สีของแผ่นป้ายก็จะไม่เหมือนกันทั้งนี้ตามกรมประการของขนส่งทางบก (ยกเว้นรถสามล้อส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ จะไม่มีป้ายพิเศษนี้)
4.รถพ่วง รถบด รถแทรกเตอร์ และรถใช้งานการเกษตรกรรมจะมีพื้นป้ายเป็นสีส้มสะท้อนแสงตัวอักษรหมายเลขทะเบียนและขอบเป็นสีดำ
5.รถยนต์ของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต และรถจักรยานยนต์ของคณะผู้แทนทางการทูตเพราะว่าพวกทูต ลักษณะป้ายจะเป็นตัวอักษรตัว ท และก็ตามด้วยรหัสประทศ ขีด แล้วก็เลขทะเบียน เช่น รถทูตญี่ปุ่นก็จะเป็น ท44-9999 พื้นแผ่นป้ายเป็นสีขาว(จะสังเกตได้ว่าไม่มีคำว่าสะท้อนแสง ตัวเลข หมายเลขทะเบียนและขีดเป็นสีดำ
6.รถยนต์ของบุคคลในหน่วยงานพิเศษของสถานทูตในคณะผู้แทนทางกงสุล ในองค์การระหว่างประเทศหรือทบวงการชำนาญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประจำอยู่ในประเทศไทยและรถจักรยานยนต์ของบุคคลข้างต้นลักษณะจะเป็นป้ายเหมือนรถทูตแต่มันจะต่างตรงกันที่รถในหน่วยงานพิเศษของสถานทูตจะใช้ตัวอักษร พ ส่วนรถกงสุลจะใช้ตัวอักษร ก และส่วนรถของสหประชาชาติ หรือองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ในประเทศไทยจะใช้ตัวอักษร อ และพื้นแผ่นป้ายเป็นสีฟ้า(สังเกตว่าจะไม่มีคำว่าสะท้อนแสงเหมือนข้อที่5)ตัวอักษรและตัวเลขและขีดเป็นสีขาว ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ ขนาด และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถ พ.ศ.2547
7.ส่วนแผ่นป้ายสีแดง พ.ร.บ.รถยนต์ 2522 กำหนดให้ขับขี่ได้ระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นยันพระอาทิตย์ตก เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน จะนำมาขับในถนนหลวงไม่ได้เว้นได้รับอนุญาต จุดประการใช้งานของรถป้ายแดงมีอยู่สองกรณีคือรถที่มีไว้รอซ่อมและรถคันนั้นเป็นรถใหม่
เป็นไงบ้างค่ะกับบทความนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะรู้ข้อมูลที่เกี่ยวกับทะเบียนเบื้องต้นอยู่แล้วและก็หลายคนที่อาจจะยังไม่รู้หรือว่ารู้แล้วอาจยังไม่ชัดเจนถ้าได้อาจบทความนี้แล้วคงหายสงสัยเป็นแน่แล้วว่าทะเบียนรถที่เราเห็นติดหน้ารถท้ายรถทุกคันแต่ละคันไม่เหมือนกันมันใช้งานกันอย่างไรทำไมถึงต่างเชื่อว่าคงหายงงกันแล้วแน่นอน