เมื่อฟังก์ชั่นใช้งานไม่ใช่คำตอบเดียว และการออกแบบเป็นเพียงแค่ส่วนประกอบหนึ่งในการตัดสินใจซื้อของผู้ใช้งานรถปิคอัพเมืองไทยเท่านั้น ยังมีอะไรที่แฝงเป็นนัยยะ การจับจ่ายในตลาดรถยอดนิยมอันดับหนึ่งของคนไทยอย่างตลาดรถปิคอัพ
ความนิยมของรถประเภทนี้ไม่เคยจางหายไปจากถนนเมืองไทย อย่าคิดเพียงว่าในเมืองกรุงฯ เห็นรถเก๋ง เยอะๆ จะเหมารวมถึงตลาดรวมทั้งประเทศ ส่วนใหญ่ค่ายรถในไทยจะเฟื่องฟูสุขสันกับยอดขายในตลาดรถกระบะรถปิคอัพเสียมากกว่า ยกเว้น Honda ที่รู้จักพอเพียงกับยอดขายตลาดรถเก๋งจนมีรุ่นต่างๆ ออกมาให้เลือกมากมาย หรือเพราะว่าเข็ดแล้วที่จะลองมาลุยกับตลาดรถปิคอัพนี้อีกครั้งหลังจากเคยร่วมมือกับ Isuzu ผลิตรถปิคอัพแต่ยอดขายกลับ แป๊ก!! ไม่เป็นท่าทิ้งให้โปรเจ็คครั้งนั้นเป็นเพียงแค่ตำนานที่ Honda ไม่อยากนึกถึง
ปิคอัพจาก Honda ‘Tourmaster’ อีกรุ่นตำนานที่ Honda ไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไร
อย่าเพิ่งทำหน้าหยีหรือส่ายหัวส่ายหน้ากันเลยครับ เชื่อเถอะว่ายังมีหลายคนติดภาพของรถปิคอัพว่าเป็นอะไรที่น่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ เน้นใช้งาน ไม่มีสไตล์ เชย มากมายคำปรามาส แต่ไม่ใช่อีกแล้วสำหรับรถปิคอัพในยุคนี้ ที่การออกแบบทั้งฟังก์ชั่นภายนอก ภายใน ทำออกมาได้ไม่ต่างกับรถเก๋งหรูๆ หลายรุ่นแถมนับอรรถประโยชน์ เปรียบข้อดีข้อเสียแล้วรับรองว่ารถปิคอัพยังไงก็ชนะแบบขาดลอย เวลาผ่านขนาดตัวรถถูกปรับให้ใหญ่ขึ้นจากแต่ก่อน รวมถึงหน้าตาที่ปรับแต่งให้ตรงกับคอนเซ็ปต์การออกแบบในแต่ละค่ายที่หล่อเหลาไม่แพ้รถเก๋ง เมื่อผู้ซื้อชั่งใจเรื่องการใช้งานที่ครอบคุมกว่าทำให้รถปิคอัพชนะยอดขายได้หทดเมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์ทุก Segment ในไทย
ภายในของรถปิคอัพสมัยนี้ สวยใช่ย่อยซะเมื่อไร
ล่าสุด Toyota เปิดตัวปิคอัพในสังกัด Revo โฉมปรับปรุง หลายคนว่าหน้าตาคล้ายกับคู่แข่งม้ามืดอย่าง Ford Ranger ที่ยอดขายเรื่มจะชัดเจนมากขึ้นที่ตำแหน่งอันดับ 3 ของตลาด แต่ที่จริงแล้วพี่ต้านำดีไซน์มาจากกระบะรุ่นพี่ที่จำหน่ายในตลาดอเมริกาอย่างรุ่น Tacoma ตั้งใจแก้ไขเรื่องหน้าตาที่ถูกครหาจากแฟนๆ ช่วงเปิดตัวใหม่โมเดลเชนจ์เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ว่าออกแบบมาไม่ลงตัวสมศักดิ์ศรีระดับรถปิคอัพยอดขายอันดับ 1 ของไทยสักเท่าไร แต่อย่างไรก็ตามยอดขายยอดจองในแต่ละเดือนก็ยังคงแข็งแกร่งอยู่ในอันดับ 1-2 ตบตีกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง Isuzu ที่เหมือนจะมาถูกทางกับการออกแบบในโมเดลล่าสุด และเปิดตัวรุ่นใหม่ที่แทบจะไม่ต่างกับรุ่นเดิมสักเท่าไรนัก ซึ่งดูเหมือนว่า Toyota จะนำโมเดลที่ประสบความสำเร็จของ Ford Ranger มาใช้เหมือนกันที่อิงรูปแบบของปิคอัพ Big Size เมืองนอกมาย่อให้เล็กลงให้ตัวรถเล็กลงแต่ดีไซน์ตัวรถยังคล้ายรถรุ่นที่เอามาเป็นแบบอยู่ ทำให้ผู้ซื้อเหมือนได้ขับรถหน้าตาเหมือนกระบะ Big Size เมืองนอกที่ขนาดและเครื่องยนต์เหมาะกับการใช้งานบนถนนเมืองไทย
Toyota Revo (บน) และ Ford Ranger (ล่าง)
จากยอดขายแสดงให้เห็นว่าเรื่องการออกแบบ เหมือนจะสำคัญแต่ไม่ใช่ประเด็นหลักที่ดันยอดขายรถปิคอัพเมืองไทยทั้ง 2 รุ่นขายดีทั้ง Toyota และ Isuzu แต่มีเรื่องของความไว้เนื้อเชื่อใจในแบรนด์เข้ามาเกี่ยวข้องที่ผู้ซื้อต่าง ‘วางใจ’ ที่จะยอมเสี่ยงกับทรัพย์สินที่เรียกว่า ‘รถ‘ และราคาทรัพย์สินนั้นจะลดลงในทุกวินาที แต่ผลตอบแทนที่ให้กลับมาจากรถคันนั้นคือความสุข ไม่ว่าจะเป็นด้วยเม็ดเงินหรือความสะดวกสบายในการใช้งานก็ตาม
คุณภาพของตัวรถคือปัจจัยหลักที่มากกว่าหน้าตา ถ้ารถจากค่ายดังทั้งสอง ผลิตออกมาพร้อมกับปัญหาร้อยแปด แจกให้ทุกคัน ก็คงไม่มีวันนี้ในจุดยืนตระหง่านสูงกว่ารถค่ายอื่นๆ ที่พยายามเอาชนะทำยอดขายด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีความแปลกใหม่ต่างๆ ปัญหาที่เกิดจากการใช้งานรถต้องมีน้อยที่สุดจากกำลังการผลิตในแต่ละวัน และเมื่อรถคันไหนมีปัญหาต้องได้รับการแก้ไขให้จบได้ ไม่เรื้อรังจนผู้ใช้ทั่วประเทศยอมรับ กำลังการบอกต่อมีอานุภาพมากกว่าสังคมโซเชียล สามารถชักจูงให้คนที่กำลังจะซื้อรถปิคอัพใหม่สักคัน ตกลงปลงใจซื้อรุ่นนั้นๆ ตามเพราะเห็นคนแนะนำใช้งานแล้วดีมีความสุข ไม่ปวดหัวปัญหาจุกจิกที่เกิดขึ้นกับตัวรถ
ศูนย์บริการที่มีมาตรฐาน จะทำให้ผู้ใช้อุ่นใจว่าหลังจากซื้อรถไปแล้ว จะยังไม่คนช่วยดูแลรถให้ยามที่รถมีปัญหา
อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมักจะใช้เข้ามาช่วยในการตัดสินซื้อรถคือเรื่อง ‘ราคาขายต่อ’ แม้เวลาผ่านไปนานๆ จะด้วยความผูกพันธ์กับตัวรถหรือคุณภาพของรถ ใช้งานไม่มีปัญหา จนทำให้เงื่อนไขนี้ที่ใช้ซื้อรถในตอนแรกหมดความสำคัญไปได้ก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องค่านิยมของรถติดตลาด ทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่าอะไรใหม่ๆ ผู้ซื้อประเภทอยากลองของมีน้อยกว่าคนที่ซื้อรถเพราะคิดว่ามันคือส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่ต่างกับเนื้อคู่ ต้องเลือกดีๆ เชื่อที่ใครๆ บอกว่าดี จะสบายใจกว่า ทำให้ความพยายามของแบรนด์เกิดใหม่จะต้องแลกมาด้วยราคาที่ดึงดูด ถูกกว่า ให้มากกว่าอย่างกรณีของ MG ZS ที่เป็นรถ Crossover SUV ที่ราคาถูกกว่าเจ้าตลาดกว่า 2 แสน จะให้ยกตัวอย่างรถปิคตอนนี้ก็ยังไม่มีหน้าใหม่เพราะใช่ว่าทุกคนจะกล้าเข้ามาในตลาดที่แสนหฤโหด การแข่งขันสูงอย่างเช่นตลาดรถปิคอัพเมืองไทย
บริการหลังการขายหรือศูนย์บริการต้องใจถึง พึ่งได้ แก้ปัญหาจบเมื่อรถมีปัญหา สั่งอะไหล่ไม่ต้องรอเป็นปี หัวข้อนี้คืออีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจซื้อรถป้ายแดงสักคันโดยเฉพาะรถปิคอัพของคุณหรือไม่ ? ถ้าตอบว่าใช่ ทั้งสองค่ายหัวหลักของวงการทั้ง Toyota และ Isuzu สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดีจึงทำคะแนนในปัจจัยเรื่องบริการหลังการขายสูสี เราจะไม่ค่อยเห็นการร้องเรียนปัญหาจากการเข้ารับบริการของสองค่ายนี้สักเท่าไร หรือแม้ตัวรถจะมีปัญหาทางศูนย์หรือค่ายรถนั้นก็จะรับผิดชอบแก้ปัญหาให้จนจบ ‘รถจบ เรื่องเงียบ’ ไม่ต้องมาเป็นดราม่าอย่างรถค่ายอื่นๆ ที่ผู้ใช้รถต้องออกมาร้องเรียน สคบ. ให้จัดการรับผิดชอบกับปัญหาของตัวรถที่แก้ไม่หาย ซ่อมไม่จบ ล่าสุดก็เป็นค่าย Mazda ที่โดนร้องเรียน Mazda2 ดีเซลไปอีกเจ้า และยังไม่รู้ว่าบทสรุปจะจบอย่างไร
รถมีปัญหาแล้วทางค่าย ไม่สามารถรับผิดชอบได้ตามที่ลูกค้าต้องการ จะยิ่งลดความน่าเชื่อถือต่อแบรนด์ ซึ่งมีผลต่อยอดขายรถรุ่นนั้นๆ
ลองถามใจของคุณว่าสิ่งไหน คือปัจจัยที่จะทำคุณเลือกรถปิคอัพรุ่นนั้นๆ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทุกจังหวะชีวิตของคุณและครอบครัว ไม่จำเป็นจะต้องเลือกรถของ 2 ค่ายที่กล่าวถึง เป็นเพียงแค่เหตุผลว่าอะไรทำให้ทั้ง Toyota และ Isuzu อยู่ทนอยู่รอดในยอดขายตลาดรถปิคอัพนี้ ซื้อรถทุกคันอยู่ที่คุณตัดสินใจ อยู่ที่คุณว่าให้น้ำหนักกับข้อไหนมากกว่าและรถรุ่นไหนได้คะแนนะสูงสุด ผู้เขียนไม่สามารถชี้นำได้ ทุกคนผ่านชีวิตมาไม่เหมือนกันย่อมมีผลของการตัดสินใจที่แตกต่าง คันหนึ่งดีไซน์เท่มาก แต่ศูนย์บริการยังไม่ดีเท่าอีกรุ่นซึ่งสวยโดนใจน้อยกว่าแต่อยู่ในระดับที่รับได้ ก็อาจซื้อคันที่สวยน้อยกว่า เป็นต้น
>> Isuzu ประกาศราคาจำหน่าย New Isuzu D-Max 1.9 และ 3.0 Ddi Bluepower "ขีดสุดแห่งนวัตกรรมเปลี่ยนโลก"
>> Toyota Hilux Revo Rocco เวอร์ชั่นตกแต่งพิเศษ ราคารุ่นท็อป 1,189,000 บาท