ขั้นตอนการทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

ประสบการณ์ใช้รถ | 16 ก.ค 2566
แชร์ 72

หากใครกำลังจะไปทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ แต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง ที่นี่รวมขั้นตอนการทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ตลอดจนการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์มาให้แล้ว !

ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ถือว่าเป็นเอกสารสำคัญที่ไว้ยืนยันว่าเราได้ผ่านหลักสูตรการอบรมและทดสอบจากสำนักงานขนส่งทางบก เรื่องการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ให้ถูกต้องตามกฎหมายจราจรเรียบร้อยแล้ว ดังนั้น การทำใบขับขี่จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ทุกคนต้องทำ เพื่อให้สามารถใช้รถได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่มีใบขับขี่ ไม่พกใบขับขี่ หรือใบขับขี่หมดอายุ จะมีโทษและต้องเสียค่าปรับ ตามที่พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ได้ให้ข้อมูลเอาไว้

  • กรณีขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 64
  • กรณีใบขับขี่หมดอายุ หรือถูกยึดใบขับขี่ จะมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท ตามมาตรา 65 
  • กรณีมีใบขับขี่แต่ไม่แสดงให้เจ้าหน้าที่เห็น ไม่ได้พกใบขับขี่ จะต้องเสียโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท ตามมาตรา 66

เมื่อถึงเวลาต้องทำใบขับขี่ หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่ามีขั้นตอนอย่างไร ควรเตรียมเอกสารอะไรบ้าง หรือเมื่อใบขับขี่หมดอายุ ควรทำอย่างไร มาดูคำแนะนำในการทำใบขับขี่ รวมถึงวิธีการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้ในบทความนี้ 

ใบขับขี่มอไซ
รวมครบจบที่เดียว ขั้นตอนการทำใบขับขี่มอไซค์

#1. วิธีทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2566

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมีใบขับขี่มอเตอร์ไซค์มาก่อนนั้น เหนือสิ่งอื่นใดจำเป็นต้องมีอายุมากกว่า 15 ปี ขึ้นไปเสียก่อน จึงจะสามารถทำใบขับขี่ได้ ซึ่งวิธีต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ไม่มีความยุ่งยากแต่อย่างใด เริ่มจากขั้นตอนต่อไปนี้

1. จองคิวเพื่อทำใบขับขี่

  • จองคิวอบรมด้วยตัวเองที่กรมขนส่ง (สำนักงานขนส่งทางบกใกล้บ้านหรือตามสะดวก)
  • โทรจองคิวผ่านทางโทรศัพท์ เบอร์ 02-2718888 หรือเบอร์ 1584
  • ยื่นจองคิวสอบใบขับขี่รถยนต์ออนไลน์ได้ด้วย
  • จองคิวสอบใบขับขี่กับเอกชน (ที่ผ่านการรับรองจากกรมขนส่งทางบก)
  • จองคิวผ่านแอพฯ DLT Smart Queue

2. เตรียมเอกสารสำหรับทำใบขับขี่ 2566

  • บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
  • ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน
  • ใบรับรองการอบรม (กรณีอบรมนอกกรมขนส่ง)

ใบขับขี่ มอไซค์
ต่อใบขับขี่มอไซค์ ออนไลน์

3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

  • ทดสอบสายตาบอดสี
  • ทดสอบสายตาทางลึก – ทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า

4. เข้ารับการอบรม 5 ชั่วโมง

  • กฎหมายว่าด้วยรถยนต์ 
  • กฎหมายว่าด้วยทางหลวง
  • กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก 
  • การขับรถอย่างปลอดภัยและมารยาทในการขับรถ

5. ทดสอบภาคทฤษฎี 50 ข้อ

  • เข้ารับการทดสอบด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) โดยต้องผ่านเกณฑ์ 90 % (45 ข้อ)
  • แนวข้อสอบใบขับขี่
    • สัญลักษณ์ป้ายจราจรและเครื่องหมายที่สำคัญ เช่น ป้ายจราจรบังคับ ป้ายจราจรเตือน ป้ายจราจรแนะนำ และเครื่องหมายบนพื้นทาง
    • วิธีการขับรถให้ปลอดภัย เช่น หากรถเสียหลักจะต้องทำยังไง? หรือวิธีการเปลี่ยนช่องจราจรบนท้องถนน
    • กฎหมายทั่วไป เช่น อายุของใบขับขี่ชั่วคราว การเสียค่าปรับ การเปลี่ยนสีรถ ใบขับขี่หมดอายุ และการบรรทุกสิ่งของ เป็นต้น

6. ทดสอบภาคปฏิบัติ

  • เข้ารับการทดสอบขับรถจักรยานยนต์ 5 ท่า
  • กรณีไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะบันทึกผลและออกใบนัดทดสอบครั้งต่อไป ผู้ขับขี่ต้องนำใบนัดไปจองคิวเพื่อทดสอบขับรถใหม่

7. รับใบอนุญาตขับรถที่มีอายุ 2 ปี

  • ชำระเงินค่าธรรมเนียม
    • ค่าคำขอ 5 บาท
    • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท
  • เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จรับเงิน พิมพ์ใบอนุญาตขับรถ และจ่ายใบอนุญาตขับรถให้คุณ

ขั้นตอนสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์
ค่าต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 2566

ใบขับขี่จักรยานยนต์ (สำหรับผู้ที่ไม่เคยทำ) มีอายุเพียง 2 ปีเท่านั้น ผู้ที่มีใบขับขี่ในครอบครองจึงต้องเช็กวัน-เวลาให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ เมื่อใดที่ใบขับขี่หมดอายุก็สามารถไปต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ โดยสามารถทำตามขั้นตอนในการต่อใบขับขี่มอไซค์ ได้ดังนี้

#2. การต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ 2566

การต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นแบ่งออกเป็น 3 กรณี ได้แก่ การเปลี่ยนใบขับขี่รถส่วนบุคคล ชั่วคราว (อายุ 2 ปี) เป็น ใบขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี, การต่ออายุใบขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี และการขอรับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (5 ปี) กรณีขาดเกิน 1 ปี ซึ่งจะมีขั้นตอนแตกต่างกันไม่มากนัก ดังนี้

การเปลี่ยนใบขับขี่รถส่วนบุคคล ชั่วคราว (อายุ 2 ปี) เป็น ใบขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

1. เตรียมเอกสาร

  • บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
  • ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวฉบับเดิม
  • ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน

2. ยื่นคำขอ ตรวจสอบหลักฐาน ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน

3. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

  • ทดสอบสายตาบอดสี
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า

4. รับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล อายุ 5 ปี และชำระเงินค่าธรรมเนียม

  • ค่าคำขอ 5 บาท
  • รถยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี) 500 บาท
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล  (5 ปี) 250 บาท
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี) 250 บาท

5. เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จรับเงิน และพิมพ์ใบอนุญาตขับรถ แล้วจ่ายใบอนุญาตขับรถให้คุณ


ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หมดอายุ

การต่ออายุใบขับขี่รถส่วนบุคคล 5 ปี

1. เตรียมเอกสารประกอบคำขอ

  • บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
  • ใบอนุญาตขับรถฉบับเดิม (ก่อนสิ้นอายุไม่เกิน 6 เดือน หรือ สิ้นอายุไม่เกิน 1 ปี)
  • ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน

2. ยื่นคำขอ ตรวจสอบหลักฐาน ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน 

3.ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

  • ทดสอบสายตาบอดสี
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า

4. เข้ารับการอบรม 1 ชั่วโมง เกี่ยวกับการขับรถอย่างปลอดภัยและมารยาทในการขับรถ

5. รับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล อายุ 5 ปี และชำระเงิน

  • ค่าคำขอ 5 บาท
  • รถยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี) 500 บาท
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล  (5 ปี) 250 บาท
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี) 250 บาท

6. เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จรับเงิน และพิมพ์ใบอนุญาตขับรถ แล้วจ่ายใบอนุญาตขับรถให้คุณ

การขอรับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล (5 ปี) กรณีขาดเกิน 1 ปี

1. เตรียมเอกสารประกอบคำขอ

  • บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง
  • ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล ฉบับเดิม
  • ใบรับรองแพทย์ มีอายุไม่เกิน 1 เดือน

2. ยื่นคำขอ ตรวจสอบหลักฐาน ที่สำนักงานขนส่งใกล้บ้าน 

3.ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

  • ทดสอบสายตาบอดสี
  • ทดสอบสายตาทางลึก
  • ทดสอบสายตาทางกว้าง
  • ทดสอบปฏิกิริยาทางเท้า

4. เข้ารับการอบรม 2 ชั่วโมง เกี่ยวกับการขับรถอย่างปลอดภัยและมารยาทในการขับรถ

5. ทดสอบข้อเขียน จำนวน 50 ข้อ โดยต้องผ่านเกณฑ์ 90 % หรือ 45 ข้อขึ้นไป 

6. รับใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล อายุ 5 ปี และชำระเงิน

  • ค่าคำขอ 5 บาท
  • รถยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี) 500 บาท
  • รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล  (5 ปี) 250 บาท
  • รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล (5 ปี) 250 บาท

7. เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จรับเงิน และพิมพ์ใบอนุญาตขับรถ แล้วจ่ายใบอนุญาตขับรถให้คุณ ซึ่งถือว่าเป็นการจบขั้นตอนโดยสมบูรณ์ในการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2566


วิธีต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์

กรณีขาดการต่ออายุใบขับขี่เกิน 3 ปี

ขั้นตอนการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ขาดการต่ออายุเกิน 3 ปี มีวิธีเหมือนกับการต่อใบขับขี่จักรยานยนต์ที่ขาดเกิน 1 ปี แต่จะมีการทดสอบภาคปฏิบัติ (ทดสอบขับรถ) เพิ่มเติมเข้ามา โดยจะต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 

  • กรณีผ่าน – เจ้าหน้าที่จะทำการบันทึกผล และดำเนินการขั้นต่อไป
  • กรณีไม่ผ่าน – เจ้าหน้าที่จะบันทึกผล และออกใบนัดทดสอบครั้งต่อไป ผู้ขับขี่ต้องนำใบนัดไปจองคิวเพื่อทดสอบขับรถใหม่

การต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ขาดการต่ออายุเกิน 3 ปีมีขั้นตอนดังนี้:

  1. ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: เริ่มต้นด้วยการติดต่อหน่วยงานการขนส่งหรือสำนักงานใบขับขี่ในประเทศของคุณเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนและเอกสารที่จำเป็นสำหรับการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์

  2. ทบทวนกฎหมาย: ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับการขับขี่และการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ในประเทศของคุณ อ่านเอกสารที่เกี่ยวข้องและตรวจสอบข้อมูลที่เป็นทางการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายเจ้าของรถยนต์และการบริหารระบบขนส่ง

  3. สมัครเข้ารับการฝึกอบรมใหม่: หากในประเทศของคุณมีกฎหมายที่กำหนดให้ผู้ขับขี่ที่ขาดการต่ออายุใบขับขี่มอเตอร์ไซค์เกินไปต้องเข้ารับการฝึกอบรมกับสถาบันการขนส่งหรือสำนักงานใบขับขี่ คุณอาจต้องลงทะเบียนและเข้ารับการอบรมเพื่อทำให้การขับขี่ของคุณถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้ง

  4. ทดสอบภาคปฏิบัติ: การต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ขาดการต่ออายุเกิน 3 ปีจะมีการทดสอบภาคปฏิบัติ (ทดสอบขับรถ) เพิ่มเติมเข้ามา ผู้ขับขี่ต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนด หากผ่านการทดสอบ จะมีเจ้าหน้าที่ทำการบันทึกผลและดำเนินการขั้นตอนถัดไป

  5. ผ่านการตรวจสอบ - เมื่อผู้ขับขี่ผ่านการทดสอบภาคปฏิบัติ จะได้รับการบันทึกผลและสามารถดำเนินการขั้นตอนถัดไปต่อไปได้

  6. ไม่ผ่านการตรวจสอบ - หากผู้ขับขี่ไม่ผ่านการทดสอบภาคปฏิบัติ จะได้รับการบันทึกผลและออกใบนัดทดสอบครั้งต่อไป ผู้ขับขี่ต้องนำใบนัดไปจองคิวเพื่อทดสอบขับรถใหม่

วิธีการทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นไม่ยาก เริ่มจากการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน เข้าอบรมการขับขี่ สอบข้อเขียน และสอบปฏิบัติให้ผ่าน ก็จะได้ใบขับขี่มาครอบครองแล้ว ส่วนการต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ เพียงแค่ทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย และเข้าอบรมการขับขี่เพิ่มเติม ก็สามารถต่อใบขับขี่รถจักรยานยนต์ และได้ใบขับขี่ใบใหม่มาใช้แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ หมดอายุ ควรไปต่อใบขับขี่มอไซค์ให้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถใช้รถจักรยานยนต์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ต้องเสี่ยงเสียค่าปรับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยสามารถต่อใบขับขี่จักรยานยนต์ล่วงหน้าก่อนหมดอายุได้ถึง 6 เดือน หรือ 180 วัน 

ขอบคุณข้อมูลจาก safedrivedlt

อ่านเพิ่มเติม:

sunsababe