อากาศช่วงนี้ของประเทศไทยดูเหมือนว่าแอบแปรปรวนเล็กน้อย บางวันก็ร้อน บางวันก็เย็น วันดีคืนดีฝนก็ตกลงมา แล้วถ้าวันไหนเจอฝนตกหนัก บางทีถึงขั้นต้องจอดข้างทางเลยทีเดียว
ช่วงนี้อาจไม่ใช่ฤดูฝนเต็มตัวแต่ก็มีด้วยอากาศแปรปรวนแบบนี้ อยู่ๆก็หนาว อยู่ๆ ก็ร้อน และอยู่ๆก็ฝนตก และการขับรถในวันฝนตกอาจเป็นฝันร้ายสำหรับคนขับกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะถนนเปียกแฉะ ถนนลื่น หรือแม้กระทั่งรถติด อีกทั้งยังทำให้อารมณ์เสียไปอีก ซึ่งล้วนแล้วแต่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย วันนี้ทาง chobrod.com ก็มีคำแนะนำสำหรับขับรถในวันฝนตก
สติต้องมี
อย่างแรกเลยคือต้องมีสติในการขับรถ อย่าให้อารมณ์ขุ่นมัว เพราะช่วงเวลาฝนตกจะเป็นช่วงที่เสียสมาธิง่าย อาจต้องใช้สมาธิเยอะกว่าปกติ ที่สำคัญอย่าปล่อยให้อารมณ์เสีย เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
ที่ปัดน้ำฝนต้องพร้อมใช้
ที่ปัดน้ำฝนต้องพร้อมใช้
ถึงรถจะพร้อมใช้แต่หากที่ปัดน้ำฝนใช้ไม่ได้ก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะการที่ฝนตกลงมาอาจทำให้ทัศนวิสัยแย่ มองทางลำบาก ดังนั้้นควรเช็คสภาพที่ปัดน้ำฝนว่าพร้อมใช้งาน และการใช้งานก็ควรเปิดที่ปัดน้ำฝนให้เรามองเห็นท้ายรถหรือทางข้างหน้าได้ชัดเจน ห้ามปล่อยให้กระจกพร่ามัว
เปิดไฟให้รถคนอื่นเห็น
เปิดไฟให้คนอื่นเห็น
หากแค่ฝนตกปรอยๆไม่หนักมาก ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ แต่ถ้าฝนตกหนักมากจนแทบมองไม่เห็น ก็ควรเปิดไฟ เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุ
ควบคุมความเร็ว
เวลาฝนตกแน่นอนว่าถนนต้องเปียกลื่นอยู่แล้ว ดังนั้นการขับรถเร็วก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่ว่าจะใช้ยางที่รีดน้ำได้ดีแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นจึงควรลดความเร็ว ควบคุมความเร็วให้เหมาะสม และที่สำคัญควรทำตามกฎจราจร
เว้นระยะห่าง
การเว้นระยะห่างก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ลดอุบัติเหตุ ซึ่งการเว้นระยะห่างจากรถคันหน้านี้ก็ควรอยู่ในระยะที่เหมาะสม ไม่ควรใกล้จนชิด หรือห่างกันเกินไป อย่างน้อยการเว้นระยะห่างนี้ก็ช่วยให้ปลอดภัย
ประเมินสถานการณ์
ประเมินสถานการณ์
บางทีก็ต้องตรวจสอบสถาการณ์แต่ละที่ก่อน แต่นอนว่าต้องมีบางเส้นทางที่น้ำท่วมขังรอการระบาย ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีแอปพลิเคชั่นมากมายที่ให้เราตรวจสอบเส้นทาง ถ้าเป็นถนนที่คุ้นเคยอาจไม่ยาก แต่ถ้าเป็นเส้นทางที่ไม่คุ้น แนะนำว่าให้ดูรถคันหน้า เมื่อตรวจสอบสภาพถนนแล้วก็ควรดูให้ดีว่าเส้นทางนั้นควรเลี่ยงหรือไปได้