การเรียกร้องสินไหมทดแทน ระหว่างรถรอซ่อม

ก่อนอื่นมารู้จักคำว่า สินไหมทดแทน กันก่อน  หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก สินไหมทดแทน หรือรู้บ้างแต่ยังไม่เข้าใจ จริงๆ แล้ว สินไหมทดแทน ก็คือเงินที่ทางบริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายให้กับผู้เอาประกันในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ซึ่ง สินไหมทดแทน ที่ทางบริษัทประกันจะต้องรับผิดชอบนั้นก็คือความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก หรือชีวิตร่างกายบุคคลภายนอกรวมถึงรถของผู้เอาประกัน  โดยสินไหมทดแทน นี้จะจ่ายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงตามราคาประเมิน

แต่ สินไหมทดแทน นั้นก็ไม่ได้เป็นการจ่ายให้แต่เฉพาะผู้เอาประกันเท่านั้น สินไหมทดแทน คู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูกยังสามารถเรียกสินไหมทดแทนได้อีก ซึ่งจะเรียกว่า “สินไหมทดแทน ค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม”  ซึ่งถ้าคู่กรณีเป็นฝ่ายถูกและทำให้รถเกิดความเสียหายมากจนต้องลากเข้าอู่ซ่อมและต้องใช้เวลาซ่อมนานหลายวันหรืออาจจะเป็นเดือน คู่กรณีก็สามารถเรียกสินไหมทดแทน ค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมได้ แต่สินไหมทดแทน ที่ทางคู่กรณีเรียกร้องไปนั้นก็จะต้องทำใจแบบเอา 10 หารกันเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าจะแจ้งค่าขาดประโยชน์ไปมากแค่ไหน สินไหมทดแทน ที่ได้ก็ต้องเป็นไปตามที่บริษัทประกันประเมินไว้แล้วตามมาตรฐาน แต่ถ้าคู่กรณีไม่พอใจในสินไหมทดแทนที่ได้ก็สามารถจะไปยื่นเรื่องเรียกร้องกับทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้  แต่ก็อาจจะต้องรอนานสักนิดกว่าจะได้คำตอบ

หลายคนคงจะเริ่มมีคำถามและเริ่มสงสัยแล้วว่า การเรียกร้อง สินไหมทดแทน ค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม นั้นต้องทำอย่างไรบ้าง เพราะเชื่อได้เลยว่ามีน้อยคนมากที่จะรู้เรื่องนี้ โดยเฉพาะชาวบ้านตามต่างจังหวัด  ที่เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วก็แค่เรียกประกัน ส่งรถซ่อม รอรับรถกลับมาใช้งาน ซึ่งไม่มีใครคิดเลยว่าสามารถเรียกร้อง สินไหมทดแทน ค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมได้ เพราะตัวแทนประกันไม่ว่าจะเป็นของฝ่ายไหนก็คงจะไม่ค่อยแนะนำเพราะถ้าแนะนำไปก็ต้องคอยตามเรื่องให้ ต้องอธิบายว่าในการยื่นขอสินไหมทดแทนนั้นต้องเตรียมเอกสารและต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง 

ซึ่งจากประสบการณ์จริงที่จะนำมาแชร์ในวันนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงที่ประสบกับตัวเอง  โดยเราเป็นฝ่ายถูกรถถูกชนท้ายและเกิดความเสียมากจนรถไม่สามารถขับไปอู่ซ่อมรถได้ต้องใช้รถยกมาลากรถไปอู่  จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องสินไหมทดแทนมาก่อนเลยว่าในกรณีที่เราเป็นฝ่ายถูกนอกจากจะเคลมประกันจากบริษัทประกันของเราได้แล้วยังสามารถเรียกสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันคู่กรณีได้อีกด้วย  แต่กว่าจะได้รับค่าสินไหมทดแทนก็เหมือนที่บอกต้องทำใจ เพราะสินไหมทดแทนที่ได้จะได้ไม่มากและได้ไม่ตรงกับที่ยื่นขอไป อีกทั้งเอกสารที่ต้องเตรียมก็อาจจะยุ่งมากและมีหลายรายการอยู่พอสมควร แต่จะต้องทำอย่างไรและต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างมาดูกันคะ

ก่อนอื่นเมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าเราจะถูกหรือผิดเราก็ต้องเรียกประกันเพื่อมาตรวจสอบความเสียหายและเคลมประกันอยู่แล้ว แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายถูกสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติมก็คือการเรียกร้องสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม ซึ่งก่อนที่จะทำเรื่องเรียกร้องสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมนั้น ก็ให้ทำตามขั้นตอนการเคลมของประกันไปก่อน โดยถ่ายรูปความเสียหายรถเราและรถของคู่กรณี โดยถ่ายให้ชัดเจนรวมถึงป้ายทะเบียนรถของทั้งสองฝ่าย และเมื่อนำรถเข้าอู่ซ่อมรถของประกันเรียบร้อยแล้วก็ให้ทางอู่ออกเอกสารการรับรถเข้าซ่อมและประเมินราคาก่อนซ่อม  เพื่อใช้ในการยื่นขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม  ซึ่งการยื่นขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมนั้นจะต้องยื่นหลังจากที่รถซ่อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ส่วนระหว่างรอก็ให้เตรียมเอกสารและร่างเอกสารขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมรอ  โดยเอกสารที่ต้องเตรียมก็จะมี

1. หนังสือแจ้งรายละเอียดในการขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม พร้อมภาพถ่าย
2. สำเนาทะเบียนรถ
3. สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถ
4. สำเนาหน้าสมุดบัญชีเจ้าของรถ
5. สำเนาเอกสารนัดรับรถจากอู่ซ่อมรถ
6. สำเนาเอกสารประเมินราคาก่อนซ่อมรถ
7. สำเนาตารางกรมธรรม์
8. สำเนาใบเคลมของคู่กรณี
9. สำเนาใบแจ้งความ
10. หนังสือมอบอำนาจ กรณีที่ผู้ประสบเหตุไม่ใช้เจ้าของรถ

โดยหนังสือรายละเอียดในการขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม  ก็คล้ายๆ กับจดหมาย

แจ้งรายละเอียดทั่วไป  ดังตัวอย่าง

วันที่...................................................

เรื่อง  เรียกร้องสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม 

เรียน ................................................................................................

สิ่งที่ส่งมาด้วย

1...............................................................................

2...............................................................................

3...............................................................................

เนื่องด้วยข้าพเจ้า……………………………………………………………………เป็นผู้ขับขี่……………………………….........

ถูกรถ…………………………………………………………………………ณ…………………………......................................

วัน………………………………….เวลา……………………………………มีความเสียหายและไม่สามารถนำรถไปใช้งานได้ ตามรายละเอียดดังนี้

…..แจ้งรายละเอียดที่ต้องซ่อมทั้งหมด

.....แจ้งสถานที่ซ่อม ระยะเวลาในการซ่อม และสาเหตุใดที่ต้องขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม 

.....แจ้งรายละเอียดค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม 

จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาและดำเนินการ

ขอแสดงความนับถือ

(ลงชื่อ..................................)

หลังจากเตรียมเอกสารครบทั้งหมดแล้วให้นำไปยื่นเอกสารขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม  ที่สาขาหรือสำนักงานใหญ่ของบริษัทประกันภัยของคู่กรณี โดยจะต้องนำเอกสารไปยื่นด้วยตัวเองห้ามฝากตัวแทนประกันไปยื่นโดดเด็ดขาดเพราะถ้าฝากไปเอกสารของคุณไม่ถึงแผนกสินไหมทดแทนแน่นอนและที่สำคัญจะต้องถ่ายสำเนาเอกสารทุกฉบับที่ส่งไปเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานและขอชื่อเบอร์โทรเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องเพราะจะได้ตามเรื่องในกรณีที่ไม่มีการตอบกลับ ซึ่งเราก็พลาดเหมือนกันไม่ได้ขอชื่อเบอร์โทรเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องทำให้ต้องเสียเวลาในการตามเรื่องนานถึง 2 ปี กว่าจะได้รับสินไหมทดแทน ซึ่งก็อย่างที่บอกเอกสารในการยื่นขอสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมหลายรายการ  ยื่นเรื่องแล้วก็ดำเนินการช้า แถมสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม ที่ได้รับยังไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจ  เพราะเราเสียประโยชน์เยอะมาก  เราเป็น QC ที่ต้องออกตรวจบ้านตามไซต์งานทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต้องเดินทางทุกวันและระยะทางไปกลับก็ไม่น้อยกว่าวันละ 80-100 กิโลเมตร เมื่อไม่มีรถส่วนตัวก็ต้องใช้บริการ Taxi  ซึ่งก็ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการเดินทางและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น  รถเราใช้เวลาในการซ่อมนานถึง 90 วัน ซึ่งเราก็คิดสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม ไปวันละ 1,000 บาท ค่าเสื่อมสภาพรถจากอุบัติเหตุ 10,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 100,000 บาท แต่รู้ไหมว่า 90 วันที่เราไม่มีรถใช้มีความลำบากในการเดินทางไปทำงานที่เกิดจากสาเหตุที่เราไม่ได้ก่อขึ้น ทางบริษัทคู่กรณีจ่ายสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมเท่าไหร่ ฟังแล้วอย่าตกใจนะคะ สินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมตามที่เรียกร้อง 100,000 บาท จ่ายจริง 30,000 บาท ในเวลาในการรอเงิน 30,000 บาท เป็นเวลา 2 ปี

ซึ่งหลายคนฟังแล้วอาจจะคิดว่ากว่าจะได้เงิน 30,000 นี้มันช่างยุ่งยากซะเหลือเกิน แต่ก็จริงคะยุ่งยากมาก ดูๆ แล้วเหมือนการเรียกร้องสินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อมของเรานั้นเป็นการขอทานหรือไปง้อขอเงินให้เค้าช่วยเหลือเราเลย แต่ถึงแม้จะดูเป็นเช่นนั้นก็คือว่ายังดีที่ได้สินไหมทดแทนค่าขาดประโยชน์ระหว่างรถรอซ่อม ไม่มากก็น้อย 

ดูเพิ่มเติม

• ประกันรถยนต์คุ้มครองแค่ไหน ถ้าโดนชนแล้วหนี ?
• เรื่องควรรู้ ประกันรถยนต์!!