คำว่า “น้ำมันแบรนด์ไหนก็ไม่ต่างกัน” จริงหรือไม่

ประสบการณ์ใช้รถ | 15 ก.พ 2560
แชร์ 6

แม้จะมีพื้นฐานมาจากน้ำมันดิบเหมือนกัน แต่น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละแบรนด์ก็มีวิธีการปรับปรุงคุณภาพทีแตกต่างกันออกไป ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน ถึงแม้จะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเดียวกันก็ตาม

Description: เติมนำ้มันรถ

การขับขี่บนท้องถนนนั้น จะราบรื่นมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ ความแรง และสภาพของเครื่องยนต์หรือชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถเป็นหลัก แต่เชื่อหรือไม่ว่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมก็มีความสำคัญในการมอบสมรรถนะที่เหนือชั้นให้กับยานพาหนะของคุณได้เช่นกัน แม้ว่าหลายท่านจะคิดว่าน้ำมันเชื้อเพลิงมีหน้าที่เพียงแค่ให้พลังงานกับเครื่องยนต์ เพื่อสามารถขับเคลื่อนไปได้เท่านั้น แต่ที่จริงแล้วหากเปรียบเครื่องยนต์เหมือนร่างกาย น้ำมันเชื้อเพลิงก็เป็นเหมือนอาหารที่เรารับประทานเข้าไป หากทานอาหารดีกับสุขภาพ ร่างกายก็แข็งแรง ในทางตรงข้าม หากรับประทานอาหารที่ไม่ปลอดภัย ก็อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอ เสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ ที่ทำให้สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์เต็มร้อยได้

แม้จะมีพื้นฐานมาจากน้ำมันดิบเหมือนกัน แต่น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละแบรนด์ก็มีวิธีการปรับปรุงคุณภาพทีแตกต่างกันออกไป เช่น การเติมสารต่างๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติพิเศษของน้ำมันแต่ละชนิด นี่เองคือเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละแบรนด์มีความแตกต่างกัน ถึงแม้จะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเดียวกันก็ตาม

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว คำถามต่อมาคือ จะเลือกน้ำมันที่เหมาะสมกับยานพาหนะคู่ใจได้อย่างไร แน่นอนว่าก่อนอื่นต้องเริ่มจากการทำความรู้จักยานพาหนะของคุณให้ดีเสียก่อน ว่าเครื่องยนต์รถของคุณต้องการเชื้อเพลิงแบบไหน ต้องเติมเบนซินหรือดีเซล จากนั้นจึงเลือกน้ำมันเชื้อเพลิงตามความต้องการของผู้ขับขี่ ว่าต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีสเป็คแบบไหน ให้ผลลัพธ์กับเครื่องยนต์อย่างไรบ้าง

น้ำมันเชื้อเพลิงบางชนิด ทำหน้าที่เพียงแค่เผาไหม้และให้พลังงานกับเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว แต่มีน้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพสูงที่สามารถเพิ่มสมรรถนะของยานพาหนะของคุณได้ในเวลาเดียวกัน เช่นน้ำมัน เชลล์ วี-เพาวเวอร์ ไนโตร+ ดีเซล และเชลล์ วี-เพาวเวอร์ ไนโตร+ แก๊สโซฮอล์ 95 ที่คิดค้นโดยทีมนักวิทยาศาสตร์เชลล์และพันธมิตรทางเทคนิคอย่างเฟอร์รารี่ ที่สามารถช่วยกำจัดคราบตะกรันที่เข้าสู่เครื่องยนต์ ด้วยเทคโนโลยี Friction Modifier ช่วยลดแรงเสียดทานทันทีระหว่างลูกสูบและผนังกระบอกสูบโดยการเคลือบพื้นผิวของชิ้นส่วนเหล่านี้ไว้ด้วยชั้นฟิล์ม ช่วยให้วาล์วไอดีและหัวฉีดน้ำมันสะอาดมากขึ้นได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่สามารถมอบความมั่นใจแก่ผู้ขับขี่บนท้องถนน ทั้งเรื่องความแรง และการปกป้องเครื่องยนต์ด้วย

น้ำมันเชื้อเพลิงดีๆ อย่างเชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร+ ก็เปรียบเสมือนอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เมื่อรับประทานเข้าไปย่อมทำให้เกิดผลดี ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มสมรรถนะ คุณเองก็สัมผัสความแตกต่างของน้ำมันเชื้อเพลิงได้แล้วที่สถานีบริการน้ำมันเชลล์ทั่วไป แล้วจะรู้ว่า คำว่า น้ำมันแบรนด์ไหนก็ไม่ต่างกัน นั้นไม่จริง


ติดตามข่าววงการยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
9carthai