MG ZS EV vs. Nissan Leaf เทียบสเปครถยนต์ไฟฟ้า ในราคาต่างหลายแสน แพงแล้วดีกว่าหรือไม่ ?

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า มีผู้เล่นเข้ามาใหม่มาแย่งส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ของไทยมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากค่ายเล็กๆอย่าง BYD ตามด้วย Hyundai และมีกระแสอย่างจริงจังเมื่อปลายปีก่อน ที่ค่ายยักษ์ใหญ่เปิดตัว Nissan Leaf เป็นที่ฮือฮา แต่พอเปิดราคา 1.99 ล้านบาทกลับหงอยเหงาลงไป โดยมียอดจองไม่กี่สิบคันเท่านั้น ต่อมาในปีนี้ยิ่งโหมกระแสรถไฟฟ้าให้เดือดขึ้นไปอีก ด้วยการเปิดตัวรถ MG ZS EV กับราคา 1.19 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีราคาถูกที่สุดในตอนนี้ ดังนั้นวันนี้ Chobrod จะเปิดศึกประชันรถยนต์พลังไฟฟ้ากระแสแรง นั่นคือ Nissan Leaf และ MG ZS EV นั่นเองครับ มาเทียบมาเทียบสเปคกันว่า จะมีอะไรดีกว่าหรือไม่

MG ZS EV vs. Nissan Leaf คุณเลือกอะไร

เกริ่นนำ

หลายคนคงจะเห็นแล้วว่า เจ้ารถ 2 รุ่นนี้มีราคาต่างกันหลายแสน แถมเป็นรถคนละประเภทกันอีก โดยทางค่ายจีนมาในแบบ SUV ทรงสูง ส่วนทางค่ายญี่ปุ่นมาในทรงแฮตช์แบ็คขนาดกลาง ที่มีคาแร็คเตอร์ตัวรถต่างกันชัดเจน แต่สาเหตุที่จับทั้ง 2 รุ่นนี้มาเทียบกัน เพราะหลายสเปคมีความคล้ายคลึงกัน แถมยังเป็นรถที่อยู่ในกระแสความสนใจทั้งคู่ โดยค่าตัวของรถ 2 รุ่นมีดังนี้

• MG ZS EV ราคา 1,190,000 บาท

• Nissan Leaf ราคา 1,990,000 บาท

อธิบายสาเหตุของราคาที่ต่างกันก่อนเลย นั่นคือทางนิสสันเป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนที่พัฒนาใหม่หมดจรดทั้งคัน ส่วนทางค่ายเอ็มจีเป็นรถที่ดัดแปลงจากรุ่นใช้น้ำมันเดิม ดังนั้นจึงสามารถใช้ชิ้นส่วนตัวถังร่วมกับรุ่นปกติได้เยอะ ช่วยลดต้นทุนการผลิตตัวถังออกไปได้ตามหลัก ยิ่งผลิตเยอะยิ่งถูกลง และอีกสาเหตุหนึ่งคือ Nissan Leaf ต้องเสียภาษีหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างไทย-ญี่ปุ่น หรือ JTEPA อยู่ที่ 20% ในขณะที่ MG ZS EV ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าจากจีนเลย ส่วนสเปคแบตเตอร์รี่และสมรถนะที่ได้ มีความสูสีกันพอสมควรเลย ใครจะดีกว่ากันตรงไหนบ้าง ไปดูรายละเอียดกันเลยครับ

ดีไซน์ภายนอก

1. MG ZS EV 

รถทรงสูงที่ดัดแปลงจาก MG ZS รุ่นปกติ ภายนอกแทบจะใช้ชิ้นส่วนร่วมกันได้หมด ต่างกันตรงที่กระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมแนวนอน มีลายตะแกรงแบบใหม่ ที่ติดตั้งฝาปิดช่องชาร์จไฟเอาไว้ตรงตรายี่ห้อเลย อีกจุดต่างอันหนึ่งคือ ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ที่ปัดเงาลาย 5 ก้านดีไซน์แบบกังหันลม และมีการแนะนำสีตัวถังใหม่ล่าสุด Copenhegen Blue  พิเศษเฉพาะในรุ่นใช้ไฟฟ้าล้วนเท่านั้น

MG ZS EV รูปร่างภายนอกใช้ชิ้นส่วนร่วมกับรุ่นปกติ

สีพิเศษ Copenhagen Blue เฉพาะรุ่นนี้เท่านั้น

*** หากสนใจราคารถ MG ZS มือสอง ดูได้ที่นี่

2. Nissan Leaf

ภายนอกของรถ Nissan Leaf ถือว่าเป็นรถที่หลายคนให้ความสนใจพอสมควร นอกจากความเป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนแล้ว ยังน่าสนใจตรงที่รูปร่างได้ถูกออกแบบใหม่หมด ด้านนอกได้ดีไซน์โฉบเฉี่ยวแต่แฝงด้วยพลัง มาพร้อมเอกลักษณ์ของ Leaf ด้วยกระจังหน้าแบบทึบเพื่อความลู่ลมคาดด้วยเส้น V-Motion แถบโครเมียมขนาดใหญ่ ต่อด้วยไฟหน้ารูปทรงบูมเมอแรง และยังมีไอคอนที่เป็นสัญลักษณ์ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมกับช่องเสียบชาร์จไฟอยู่ ดูเป็นรถสมัยใหม่ไม่ซ้ำกับรุ่นใดๆที่นิสสันเคยทำมา

รถ Nissan Leaf กับการออกเเบบภายนอกเเละภายในสุดสวย

Nissan Leaf พัฒนารูปทรงใหม่หมดจรด

เป็นสัดส่วนแบบแฮตช์แบ็ค ขนาดตัวรถกว้างใหญ่กว่าเอ็มจี

ดีไซน์ภายใน

1. MG ZS EV

ภายในยังคงดีไซน์จากรุ่นปกติ ที่มีจุดเด่นตรงการบุนวมนุ่ม และหลังคา Panoramic Sunroof มีความแตกต่างตรงที่การตกแต่งด้วยโทนสีดำสลับขาว มีระบบเบาะไฟฟ้าฝั่งคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง ที่ด้ามเกียร์เปลี่ยนไปเป็นแบบปุ่มหมุนเลือกการขับ R N D กับกดเลือก P เมื่อจอดรถ และอีกไฮไลท์คือมันติดตั้งระบบปรับอากาศที่มีไส้กรองกันฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหามลพิษในขณะนี้ นอกไปจากนี้ ก็ได้เพิ่มระบบ i-smart ให้สามารถแสดงข้อมูลของสถานะปริมาณแบตเตอร์รี่ เวลาการชาร์จไฟ และสถานีชาร์จไฟฟ้าใกล้เคียงขณะเดินทางด้วย

ภายในแตกต่างจากรุ่นปกติ ด้วยโทนสีดำ และเกียร์แบบหมุน

2. Nissan Leaf 

ภายในออกแบบเพื่อความสะดวกสบาย ดูกว้างขวางและผ่อนคลายด้วยดีไซน์ที่เรียบง่าย “Gliding Wing” ด้วยพื้นฐานแบบรถเก๋งขนาดกลาง ทำให้ห้องโดยสารกว้าง ไม่อึดอัด นั่งสบายทั้งด้านหน้าและหลัง การตกแต่งเดินตะเข็บด้ายสีฟ้าที่เบาะนั่งทำให้ดูแปลกไปอีกแบบ ส่วนเบาะนั่งฝั่งคนขับออกแบบตามสรีระของคนเอเชียและยุโรป ปีกเบาะกระชับลำตัว ถือว่ารถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ใช้วัสดุคุณภาพดีหรูหราระดับหนึ่ง และเมื่อเปิดฝากระโปรงท้ายจะมีพื้นที่ความจุ 435 ลิตร วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่แบบวางแนวตั้งได้ 3 ใบสบายๆ หรือเมื่อพับเบาะหลัง ซึ่งเป็นแบบแยกส่วน 60:40 จะมีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 1,176 ลิตร ถือว่าเป็นรถที่ตอบโจทย์การมีพื้นที่ใช้สอยเพื่อเดินทางแบบครอบครัว แต่จะมีข้อเสียคือ หน้าจออินโฟเทนเม้นท์ไม่มีเมนูภาษาไทยแบบคู่แข่งนั่นเอง

หากสนใจราคารถ Nissan Leaf มือสอง ดูได้ที่นี่

ภายในของ Leaf ใช้งานง่าย ใช้วัสดุตกแต่งดีตามแบบญี่ปุ่น

ดูเพิ่มเติม
>> ทะเบียน 168 เผยประวัติที่มาของตัวเลขหลักล้าน และแนะนำเลขอื่นๆที่ความหมายเดียวกัน
>> ห้ามพลาด !!! ป้ายทะเบียนปิดทอง เสริมดวงชะตา แต่จ่าจับปรับ 2,000 บาท

ขุมพลัง

1. MG ZS EV 

MG ZS EV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 150 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.8 วินาที และขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 335 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) แต่หากใช้ความเร็วที่ไม่เกิน 60 กม./ชม. จะสามารถเดินทางได้ไกลถึง 428 กิโลเมตร การชาร์จไฟจนเต็มระบบทำได้ใน 6-7 ชั่วโมง แต่มีการชาร์จไฟแบบเร่งด่วนด้วยระยะเวลาชาร์จไฟเหลือเพียง 30 นาที ซึ่งมันจะกักเก็บพลังงานได้มากถึง 80%

MG ZS EV ยกเครื่องยนต์ออก ใส่มอเตอร์ไฟฟ้า แบตเตอร์รี่อยู่ใต้ท้องรถ

2. Nissan Leaf 

ทางค่ายนิสสัน ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 150 แรงม้า ให้แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ทำอัตราเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7.9 วินาที และขับขี่ได้เป็นระยะทางประมาณ 311 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) การชาร์จไฟจนเต็มระบบทำได้ใน 6 ชั่วโมง แต่มีการชาร์จไฟแบบเร่งด่วนด้วยระยะเวลาชาร์จไฟเหลือเพียง 30 นาที ซึ่งมันจะกักเก็บพลังงานได้มากถึง 80% เช่นกัน

Nissan Leaf ออกแบบมารองรับมอเตอร์ไฟฟ้า และฝังแบตเตอร์รี่ไว้ในพื้นรถมิดชิด

ระบบความปลอดภัย

1. MG ZS EV

ด้านความปลอดภัยจัดเต็มตามแบบ advance syncronize protection system ประกอบด้วยระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ระบบเตือนการชนด้านหน้า, ระบบเตือนเปลี่ยนเลนและควบคุมพวงมาลัย, เตือนถอยหลัง, ระบบแปรผันความเร็วสูง-ต่ำ, ระบบควบคุมการทรงตัว ESP ของ Bosch, เบรก ABS, กระจายแรงเบรก EBD, ควบคุมเบรกขณะเข้าโค้ง CBC, ออกตัวทางลาดชัน Hill Start Assis, ลดความเร็วทางลดชัน HDC, ป้องกันการลื่นไถล TCS, ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว VDC, ระบบล้างจานเบรก BDW brake disc automatic cleaning function, ตรวจแรงดันลมยาง TPMS ถุงลมนิรภัย 6 จุด พร้อมจุดยึดเบาะ ISOFIX

MG ZS EV มีระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน

2. Nissan Leaf 

ความปลอดภัยจัดเต็มไม่แพ้กัน ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมใหม่ตามแนวคิดอินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ อย่าง ProPILOT ถูกออกแบบเพื่อใช้ในการขับบนช่องจราจรเดียวบนทางหลวง โดยสามารถเปิดใช้งานได้ทันที ด้วยการกำหนดความเร็วที่ต้องการและระยะทางเท่านั้น ,ProPILOT Park ฟังค์ชั่นช่วยจอดอัตโนมัติโดยไม่ต้องจับพวงมาลัยหรือเหยียบแป้นควบคุมนั่นเอง โดยที่  ProPILOT Park สามารถจอดเทียบข้างและถอยเข้าช่องจอด ทั้งแบบเดินหน้าหรือถอยหลังก็ได้ และ e-Pedal มีการเร่งความเร็ว ลดความเร็ว และหยุดนิ่ง ด้วยการเพิ่มหรือลดแรงกดดันที่ใช้กับคันเร่งเท่านั้น เมื่อปล่อยคันเร่งรถจะลดความเร็วจนถึงหยุดนิ่ง นิ่งแบบนิ่งสนิท และจังหวะที่ลดความเร็วจะรู้สึกเหมือนกดแป้นเบรกราวๆ 30% แม้กระทั่งบนทางลาดชันก็ไม่จำเป็นต้องกดแป้นเบรก ซึ่งการลดความเร็วนี้จะรู้สึกได้ถึงแรงฉุดจากการชาร์จไฟกลับเข้าแบตเตอร์รี่

เด่นด้วยระบบ ProPILOT ขับขี่กึ่งอัตโนมัติ

สรุป

เทียบสเปครถยนต์ไฟฟ้าคราวนี้ สรุปได้ชัดเจนมากว่าแต่ละรุ่นมีกลุ่มลูกค้าต่างกันออกไปชัดเจน โดยค่ายเอ็มจีเป็นรถที่เหมาะกับการใช้งานแบบลุยๆ ขับคนเดียวหรือนั่งและจุของไม่เยอะ เน้นราคาประหยัดโดยไม่สนใจราคาขายต่อ ส่วนทางนิสสัน ให้ความหรูหรา สะดวกสบายกว้างขวาง และยึดเกาะถนนดีกว่า ให้อารมณ์แบบรถเก๋งหรู และด้วยดีกรีรถนำเข้าจากญี่ปุ่น ทำให้ราคาขายต่อตกน้อยกว่า ทั้งนี้เพื่อนๆ จะเลือกซื้อรถยนต์คันไหนก็ต้องไปลองขับจริงด้วย เพื่อจะได้เจอรถที่เหมาะกับสไตล์การใช้งานให้มากที่สุด และสำหรับวันนี้คอลัมน์เทียบรถจากตลาดรถยนต์ออนไลน์ Chobrod ต้องลาไปก่อน อย่าลืมติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ในตอนต่อไป สวัสดีครับ

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้