KIAT หรือ บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) ให้บริการด้านการขนส่งวัตถุอันตรายและสินค้าพิเศษที่เน้นความปลอดภัยสูง เชื่อมั่นตลาดขนส่งวัตถุอันตรายเผย รายได้โดยรวมปี 2023 หดตัว 10.6% จาก 926.3 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว มาเป็น 827.9 ล้านบาท เนื่องจากยอดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่ลดลง ตั้งเป้า 2024 รายได้เติบโต 21.4%
KIAT หรือ บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี 2023 รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าปีที่ผ่านมารายได้จากการดำเนินงานหดตัว 10.6% เนื่องจากรายได้จากธุรกิจจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่ลดลง ตามปริมาณการผลิตของลูกค้าที่ลดลง
KIAT เชื่อมั่นว่าภาคขนส่งวัตถุอันตรายในปี 2024 จะยังคงเติบโต เป็นผลมาจากการลงทุนย้ายฐานการผลิตของธุรกิจจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยเฉพาะการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในขณะที่เศรษฐกิจโลกเริ่มทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อภาคการส่งออกที่มีโอกาสเติบโต
อีกทั้งความต้องการใช้น้ำมันและก๊าซในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวทั้งในภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ประกอบกับการประมูลงานขนส่งวัตถุอันตรายใหม่ ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
นางสาวมินตรา มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ KIAT เปิดเผยว่า
“ปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เรามั่นใจว่าเรามีศักยภาพที่จะเติบโตได้ดีในปีนี้ ทั้งนี้เพราะ KIAT ถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของลูกค้าเนื่องจากประสบการณ์อันยาวนานถึง 30 ปีในธุรกิจนี้ อีกทั้งในตลาดขนส่งวัตถุอันตรายยังผู้เล่นน้อยราย ทำให้การแข่งขันไม่รุนแรงมาก และธุรกิจขนส่งวัตถุอันตราย ลูกค้ามีความต้องการใช้ผู้มีประสบการณ์ ทำให้ผู้เล่นรายใหม่อาจจะเข้าสู่ตลาดไม่ง่าย”
นายเมฆ มนต์เสรีนุสรณ์ รองกรรมการผู้จัดการด้านการตลาดและพัฒนาธุรกิจ KIAT เปิดเผยว่า
นอกจากการรักษาตลาดเดิมและหาตลาดใหม่ ๆ ในธุรกิจขนส่งวัตถุอันตรายแล้ว ทางบริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตเพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตตามเป้าหมายที่ 21.4% ในปีนี้ ได้แก่ การรุกธุรกิจ Freight Forwarding, การผลักดันสินค้าเทคโนโลยีตรวจจับพฤติกรรมพนักงานขับรถ และขยายการขนส่งระบบราง นำโดย เคที เทรน (KTT) ภายใต้การดูแลของ KIAT ตีตลาดการขนส่งทางราง
โดยเล็งเห็นโอกาสในตลาดการขนส่งทางราง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตอย่างมาก โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินการก่อสร้างระบบรถไฟรางคู่ ประกอบกับ KIAT สามารถผสมผสานธุรกิจขนส่งทางบกร่วมกับขนส่งทางราง นอกจากต้นทุนการขนส่งระบบรางจะสามารถแข่งขันได้ในตลาดแล้ว การขนส่งยังมีความแม่นยำ เนื่องจากมีตารางเวลาในการขนส่งที่แน่นอน ความปลอดภัยสูง และลูกค้าภาคธุรกิจยังสามารถนำไปคำนวณคาร์บอนเครดิต ซึ่งเป็นกระแสทั่วโลกในขณะนี้
การขนส่งทางรางเป็นโอกาสของผู้ประกอบทั้งในด้านการลดต้นทุน ความปลอดภัย อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มกำลัง ซึ่ง KIAT มองเห็นโอกาสดังกล่าว และได้เดินหน้าแผนขยายการให้บริการขนส่งทางรางรถไฟ ด้วยสัญญางานขนส่งเกลือบริสุทธิ์ โดยเป็นการขนส่ง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสารคลอร์-อัลคาไล ให้กับ บริษัท เออีซี วีนิไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่าย โซดาไฟ ผงพีวีซี และอีพิคลอโรไฮดรินฐานชีวภาพให้แก่อุตสาหกรรมและตลาดเกิดใหม่ในประเทศต่าง ๆ โดยใช้การขนส่งทางรถไฟเป็นหลัก 60% และขนส่งทางรถบรรทุก 40%
ในส่วนของเทคโนโลยีตรวจจับพฤติกรรมพนักงานขับรถ (Guardian System) ซึ่งเป็นระบบการตรวจจับพฤติกรรมพนักงานขับรถแบบ Real Time เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและหลีกเลี่ยงความสูญเสียในสินค้าและทรัพย์สินของลูกค้า โดยปีนี้ KIAT กำหนดทิศทางการทำตลาดไปยังหน่วยงานที่มีความจำเป็นในการใช้เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยชั้นสูง เช่น ภาคการขนส่งพลังงาน สารเคมี และรถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น เพื่อยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน
Guardian System เราเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทย ปีนี้ขึ้นปีที่ 8 ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าองค์กรที่เน้นการขนส่งด้วยความปลอดภัยสูง ปัจจุบันมีรถบรรทุกที่ติดตั้ง Guardian System ไปแล้วมากกว่า 2,000 คัน โดยมีบริษัทชั้นนำที่นำ Guardian System ไปใช้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ได้แก่ PTTOR , Air Liquide, MK Restaurant เป็นต้น
ตลาดรถมือสอง มีรถมากมายให้เลือกในราคาที่ถูกใจ