ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป รัฐบาลจะทำการปรับอัตราการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ทั้งระบบ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อปี 2555 โดยพิจารณาจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พูดแบบง่ายๆ ก็คือเครื่องยนต์ยิ่งเล็ก มลพิษยิ่งน้อยยิ่งเก็บภาษีน้อยขึ้น ด้วยหวังจะลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศนั่นเอง ดังนั้น คนที่กำลังคิดจะซื้อรถต้องนั่งคำนวณตัวเลขกัน ว่ารถประเภทไหน ที่ราคาคาดว่าจะแพงขึ้น รถรุ่นไหน ควรรอซื้อในปีนี้ เราลองมาดูกัน
กลุ่มรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซี.ซี. (3.0 ลิตร อัตราภาษี แยกเป็น
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30% จากเดิมจัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 35% จากเดิมจัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 40% จากเดิมจัดเก็บภาษี 30% ซึ่งจะเห็นว่าภาษีจะแพงขึ้นตามปริมาณก๊าซที่ปล่อยออกมา
กลุ่มรถยนต์นั่งประเภทอี 85 และรถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซี.ซี. อัตราภาษี คือ
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25% จากเดิมจัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซ 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30% จากเดิมจัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 35% เดิมจัดเก็บภาษี 30%
กลุ่มรถยนต์แบบผสมที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง และไฟฟ้า (ไฮบริด) ที่มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,000 ซี.ซี. เดิมจัดเก็บภาษี 10% อัตราภาษีใหม่ คือ
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 10%
- ปล่อยก๊าซเกิน 100-150 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 20%
- ปล่อยก๊าซเกิน 150-200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30%
กลุ่มรถยนต์ Eco Car เดิมจัดเก็บภาษี 17% อัตราภาษีใหม่ คือ
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร และใช้น้ำมัน E85 ได้ จัดเก็บภาษี 12%
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 100 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 14%
- ปล่อยก๊าซเกิน 100-120 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 17%
กลุ่มรถยนต์กระบะที่ไม่มีพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ (ไม่มีแค็บ) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซี.ซี. เดิมจัดเก็บภาษี 3% อัตราภาษีใหม่ คือ
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 3%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 5%
กลุ่มรถยนต์กระบะที่มีพื้นใส่สัมภาระด้านหลังคนขับ (มีแค็บ) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซี.ซี. เดิมจัดเก็บภาษี 3% อัตราภาษีใหม่ คือ
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 5%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 7%
กลุ่มรถยนต์นั่งที่มีกระบะ (กระบะ 4 ประตู) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซี.ซี. เดิมจัดเก็บภาษี 12% อัตราภาษีใหม่ คือ
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 12%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 15%
กลุ่มรถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (กระบะดัดแปลง (PPV) มีความจุกระบอกสูบไม่เกิน 3,250 ซี.ซี. เดิมจัดเก็บภาษี 20% อัตราภาษีใหม่ คือ
- ปล่อยก๊าซไม่เกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 25%
- ปล่อยก๊าซเกิน 200 กรัมต่อกิโลเมตร จัดเก็บภาษี 30%
ในขณะเดียวกัน เราลองจารณาจากปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตามประเภทของรถยนต์
ตารางภาษีใหม่รถยนต์ตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) เริ่มบังคับใช้ 1 มค. 2559
ตารางภาษีใหม่ประเภทรถกระบะตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) เริ่มบังคับใช้ 1 มค. 2559
จากตารางดังกล่าวข้างบนได้แสดงให้เห็นว่า กลุ่มรถ SEGMENT มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) มากที่สุด โดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงก่วา 200 ภาษีจะเพิ่มขึ้น 40% โดยเฉพาะกลุ่มรถ SEGMENT ที่มีประเภทเชื้อเพลิงไม่รองรับ E85
รองลงมาคือกลุ่มรถ Hybrid และกลุ่มรถกระบะดัดแปลงโดยการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์สูงก่วา 200 ภาษีจะเพิ่มขึ้น 30%
กลุ่มรถ eco car มีปริมาณการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) น้อยที่สุด โดยการปล่อยก๊าคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่า 200 ภาษีจะลดลง 12-14% และการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่า 200 ภาษีจะเพิ่มขึ้น 17%
ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่กำลังหาซื้อรถยนต์ขนาดเล็กประหยัดน้ำมัน ราคาประหยัด หรือกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ไม่อยากเสียภาษีมาก จะมีกลุ่มรถ eco car เป็นทางเลือก ดังนี้
- Nissan March (ราคา 388,000 – 558,000 บาท) ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 20 กม./ ลิตร
- Mitsubishi Mirage (ราคา 388,000 – 546,000 บาท) ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 22 กม./ ลิตร
- Suzuki Swift (ราคา 434,000 – 569,000 บาท) ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 20 - 21 กม./ ลิตร
- Honda Brio (ราคา 436,500 – 533,500 บาท) ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 20 กม./ ลิตร
- Mazda2 (ราคา 675,000 – 790,000 บาท) ประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 26.3 กม./ ลิตร
เรียบเรียงจาก kapook.com และ trusteecar.com
ติดตามข่าววงการยานยนต์ได้
ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง
เชิญที่นี่