9 บริษัทในจีนที่กำลังตั้งตัวเป็นคู่แข่ง Tesla

ประสบการณ์ใช้รถ | 10 ธ.ค 2561
แชร์ 4

จีนนับเป็นชาติหนึ่งที่มีแบรนด์รถยนต์ของตัวเองหลายแบรนด์ ไม่เพียงเท่านั้นแต่ละแบรนด์สามารถพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าออกมารองรับความต้องการของประชากรในประเทศได้สบายๆ อนาคตจะเป็นคู่แข่งTeslaได้เลย

หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า แค่มังกรขยับตัวก็สั่นสะเทือนไปทั้งโลก ประโยคนี้ความของมันก็คือ ประเทศจีนที่มีสัญลักษณ์เป็นมังกร แค่เพียงประเทศจีนขยับตัวทำอะไรจริงๆจังๆขึ้นมาหน่อย โลกทั้งโลกก็อาจจะสะเทือนได้ แบบที่เราเห็นกันชัดๆในประเทศไทยในช่วงปลายปี 2018 ก็คือว่า การที่นักท่องเที่ยวชาวจีนหดหายไม่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากเหมือนเมื่อก่อน ทำเอาเศรษฐิจและธุรกิจด้านการท่องเที่ยวที่มีลูกค้าหลักเป็นชาวจีนหยุดชะงักไปเหมือนกัน นอกจากนั้นประเทศจีนยังเป็นประเทศที่พอจะมีอำนาจมากพอที่ไปต่อรองกับมหาอำนาจอย่างอเมริกาได้ด้วย

ความจริงของประเทศจีน

ระบบเศรษฐกิจของโลกก็เช่นกัน บางประเทศเศรษฐกิจมั่งคั่งได้ก็เพราะมีประเทศจีนที่คอยเป็นเหมือนแหล่งทรัพยากรให้และบางครั้งก็เป็นแหล่งของฐานลูกค้าเนื่องจากประชากรของประเทศจีนมีมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก คือ ประมาณ 1,400 ล้านคน แต่โชคดีที่ถึงแม้จะมีประชากรมากแต่พื้นที่ของประเทศก็มากตามไปด้วย เพราะประเทศจีนใหญ่เป็นอันดับ4ของโลก รองจาก รัสเซีย แคนนาดา และสหรัฐอเมริกาตามลำดับ ด้วยความที่มีประชากรมากแบบนี้ถ้าปกครองกันไม่ดี มีหวังประเทศล่มจมเป็นแน่ เพราะจะเกิดการประท้วงและเรียกร้องความต้องการต่างๆทุกหย่อมหญ้าชนิดที่รัฐบาลทำอย่างไรก็คงปราบไม่หมด แต่ถ้ามีระบอบการปกครองที่ดี ประเทศก็รุ่งเรืองได้ง่ายๆด้วยคนในประเทศมีมาก โอกาสที่จะเจอคนเก่งๆก็มีเยอะเป็นเงาตามตัว นักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกของจีนที่รู้จักกันดีก็คือ Jack Ma สำหรับวงการอุตสาหกรรมรถยนต์ก็มีการใช้รถยนต์ที่ผลิตในประเทศมากมายหลายแบรนด์ และในหลายๆแบรนด์ก็มีนวัตกรรมที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มที่จะแพร่หลายขึ้นมาในสังคมของจีนแล้วด้วย ไม่ว่าจะเป็นตัวรถหรือสถานีชาร์จไฟฟ้าก็ตาม ทั้งยังตั้งเป้าจะมีสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 500,000 สถานีภายในปี 2020

Jack Ma นักธุรกิจที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงของจีน

Jack Ma นักธุรกิจที่เก่งกาจและมีชื่อเสียงของจีน

ในประเทศจีน แบรนด์ที่มีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและทำตลาดออกมาเอาใจชาวจีนก็มีมากมายหลายแบรนด์ และก่อนที่จะขยายสินค้าของตัวเองออกไปยังคนทั่วโลก ในทวีปอื่นๆ ประเทศอื่นๆ เป้าหมายแรกของแบรนด์เหล่านี้คือเป็นที่หนึ่งในประเทศตัวเองให้ได้ก่อน แล้วหลังจากนั้นก็จะไปต่อกรกับคู่แข่งระดับโลกอย่างแบรนด์ญี่ปุ่นหรือจากอเมริกาอย่าง Tesla ต่อไป

9 บริษัทรถยนต์ในจีนที่ต้องการเป็นคู่แข่ง Tesla

Tesla เองก็มองประเทศจีนเป็นชิ้นเค้กที่หอมหวานด้วยตลาดที่ใหญ่และคนก็สนใจในรถยนต์ไฟฟ้า มีการคาดการณ์ด้วยว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าออกขายสู่ตลาดในจีนราว 4.5 ล้านคันภายในปี 2020 ประเทศจีนเองก็มีการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าโดยการช่วยเหลือเงินในการซื้อให้แก่ประชาชนที่ต้องการเป็นเจ้าของ (หรืออาจจะเป็นส่วนลดแล้วแต่กรณี) เพื่อกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีน บริษัทดังๆในจีนที่ตอนนี้บางบริษัทอาจจะยังไม่เคยได้ยินชื่อแต่อนาคตอาจจะใหญ่ระดับโลกมีดังนี้

  1. Byton

บริษัท Byton เป็นบริษัทที่เปิดตัวได้ไม่นาน เพราะก่อตั้งในปี 2016จากผู้ร่วมก่อตั้งบางส่วนที่เคยเป็นผู้บริหารของ BMW และ Nissan มาก่อนจึงวางวิสัยทัศน์ด้านรถยนต์ไฟฟ้าไว้อย่างดี Bytonได้เปิดตัวรถยนต์คอนเซ็ปท์ซีดานที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในงานปักกิ่งมอเตอร์โชว์เมื่อต้นปี 2018 รถยนต์คอนเซ็ปท์คันนี้จะกลายเป็นพื้นฐานในการพัฒนารถยนต์ตามแผนคือช่วงปี 2021 โดยพัฒนาให้เป็นรถยนต์ SUV ก่อน ตามด้วยรถยนต์ MPV 7 ที่นั่งต่อไป

  1. BYD

บริษัท BYD ก่อตั้งในปี 2003 และก็เน้นผลิตรถยนต์ไฟฟ้า รถบัส รถตู้ และรถบรรทุก แต่ถึงจะเน้นแค่นี้ก็ได้รับรางวัลด้านคุณภาพจากสถานบัน JD Power มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และล่าสุดก็มีการโชว์รถยนต์ไฟฟ้า E-SEED Concept ออกมาสู่สายตาชาวโลกแล้วด้วย ที่คาดว่าจะทำจุดขายเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่หน่อยแต่ราคาประมาณ Tesla Model3 ต่อไป

รถยนต์ E-SEED Concept ของ BYD ที่เปิดตัวไปแล้ว

รถยนต์ E-SEED Concept ของ BYD ที่เปิดตัวไปแล้ว

  1. BAIC

บริษัท BAIC นับเป็นบริษัทใหญ่บริษัทหนึ่งที่เป็นผู้เล่นหลักๆของวงการรถยนต์ไฟฟ้า และก็สร้างรถยนต์ไฟฟ้าใน E-Series ออกมาแล้วมากมายหลายคันทำให้ความรู้ ประสบการณ์ จุดผิดพลาดทั้งหลายถูกสะสมมาเพื่อที่จะพัฒนาในรถยนต์รุ่นต่อๆไปเป็นที่เรียบร้อย รถยนต์ไฟฟ้าในตระกูล E-Series ที่สำคัญๆก็ได้แก่ ES210, EV150, EV160 และ EV200 ซึ่งแม้ภายนอกไม่ได้ดูแปลกตาอะไรแต่ภายในคือขุมกำลังของไฟฟ้าอย่างชัดเจน

รถยนต์ตระกลู E-Series ES160, EV200, EV210 และ EV150 (เรียงจากซ้ายไปขวาและบนลงล่างตามลำดับ)

รถยนต์ตระกลู E-Series ES160, EV200, EV210 และ EV150 (เรียงจากซ้ายไปขวาและบนลงล่างตามลำดับ)

รถยนต์ตระกลู E-Series ES160, EV200, EV210 และ EV150 (เรียงจากซ้ายไปขวาและบนลงล่างตามลำดับ)

ดูเพิ่มเติม
FOMM รุกกระแสตลาดรถ EV ในไทย ประเดิมจัด TEST DRIVE ครั้งแรก ที่กรุงเทพฯ
ไฮบริด, PHEV, EV ทำไมจึงแตกต่าง???

  1. Zhidou

บริษัทรถยนต์สัญชาติจีนที่ก่อตั้งในปี 2005 และมีการวางตำแหน่งของแบรนด์เกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคือ เน้นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นหลัก หรือที่เรียกกันว่า “ไมโครคาร์” เพื่อเน้นขายลูกค้าที่ต้องการมีรถยนต์ไฟฟ้าขับไว้ใช้ในเมืองเป็นหลัก รถยนต์รุ่นที่ภูมิใจนำเสนอจากบริษัทคือ D2 ที่เล็กน่ารักน่าใช้จริงๆ

โฉมหน้ารถยนต์ไฟฟ้า D2 ที่เน้นคันเล็กขับง่าย

โฉมหน้ารถยนต์ไฟฟ้า D2 ที่เน้นคันเล็กขับง่าย

  1. Changjiang EV

บริษัท Changjiang EV ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่นำเสนอรถยนต์ไฟฟ้า eCOOL และเริ่มผลิตออกสู่ตลาดตั้งแต่ปี 2016 บริษัทยังค่อนข้างใหม่จึงเน้นการผลิตรถยนต์ที่ทำออกมาแล้วลูกค้าต้องซื้อ!!! คือเน้นเรื่องราคาถูกไว้ก่อนแต่ใช้งานได้ดี ราคาที่ขายออกมาในตอนแรกคือราคาคันละ 390,000 บาท โดยรถยนต์ไฟฟ้าราคานี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุด 136 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และวิ่งได้ไกล 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง กำลังขับเคลื่อน 34  แรงม้า ถึงแม้สเปกจะไม่ได้หวือหวาแต่ก็เน้นราคาถูกไว้ก่อน เพราะถ้าคนได้ลองซื้อมาใช้ก็จะทำให้ประชากรในประเทศคุ้นเคยกับรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น

รถยนต์ eCOOL ที่เน้นทำราคาประหยัด

รถยนต์ eCOOL ที่เน้นทำราคาประหยัด

  1. Kandi

Kandi เป็นบริษัทที่เกิดจากความร่วมมือกันของบริษัทในประเทศจีนกับบริษัท Geely Auto ที่จะร่วมมือกันผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยเน้นที่รถยนต์ SUV และบริษัทยังมีการเปิดขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐอเมริกาด้วย ล่าสุดมีการเปิดตัวรถยนต์ Geely Global Hawk EX3 ที่วิ่งได้ไกลถึง 300 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และทำความเร็วจากหยุดนิ่งไปที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 6วินาที แม้จะยังสู้ Tesla ไม่ได้ แต่ก็ยังพยายามที่จะพัฒนารถยนต์ให้ดีขึ้นต่อไป

โฉมหน้ารถยนต์ Geely Global Hawk EX3

โฉมหน้ารถยนต์ Geely Global Hawk EX3

  1. Nio

บริษัท Nio ก่อตั้งในปี 2014 และมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า มีฐานวิจัยและพัฒนาของตัวเองพร้อมด้วยเทคโนโลยีและการจัดการที่ล้ำหน้า นับเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าอีกบริษัทหนึ่งของจีน ทั้งยังมีพนักงานในสังกัดกว่า 4000 คนใน 19 พื้นที่ที่กระจายอยู่ในประเทศจีน รถยนต์ที่กำลังทำตลาดอยู่ในตอนนี้คือ ES8 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 2.2ล้านบาท

โฉมหน้าของรถยนต์ไฟฟ้า ES8

โฉมหน้าของรถยนต์ไฟฟ้า ES8

ภายในของรถยนต์ไฟฟ้า ES8

ภายในของรถยนต์ไฟฟ้า ES8

  1. Great Wall Motors

ชื่อบริษัทนี้คงต้องการความก้าวหน้าและยิ่งใหญ่ราวกับกำแพงเมืองจีนที่ตระหง่านมานานแสนนาน และยังเป็นบริษัทหนึ่งที่มีความทะเยอทยานอย่างสูงในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุดมีการประกาศแล้วว่าบริษัทจะนำเม็ดเงินกว่า 100,000 ล้านบาทมาลงทุนกับการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะภายในปี 2020 และตั้งเป้าจะมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้ามากถึง 2ล้านคันภายในปี 2025

  1. Lifan Motors

Lifan Motors เป็นหนึ่งในกลุ่มของบริษัท Lifan Industry (Group) ที่ก่อตั้งกันมาตั้งแต่ปี 1992 และเริ่มต้นเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2005 เน้นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแบบเล็ก ที่เน้นให้ลูกค้าสามารถนำไปใช้งานได้ทุกวันแบบสบายๆ และล่าสุดก็มีการนำรถยนต์เข้าไปทำตลาดในประเทศอุรุกวัยด้วย

LIFAN 330EV ที่วิ่งได้ไกลถึง 260 km. กับความเร็วที่สูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

LIFAN 330EV ที่วิ่งได้ไกลถึง 260 km. กับความเร็วที่สูงสุด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เพื่อนๆชาว chobrod คงพอจะเห็นภาพของบริษัทรถยนต์ในจีนที่มีมากมายหลายแบรนด์แต่ละแบรนด์ก็มีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป บางแบรนด์ก็ใหม่มากๆ และยังมีศักยภาพมากพอที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าออกมาทำตลาดในประเทศตัวเองก่อนจะนำออกมาตีตลาดโลกเพื่อเป็นคู่แข่งของ Tesla ต่อไป วันนี้เราอาจจะเพิ่งเคยได้ยินชื่อบริษัทเหล่านี้ แต่ด้วยความสามารถของพวกเขา วันหนึ่งมันคงโด่งดังได้ไม่ยาก

ดูเพิ่มเติม
รถยนต์ไฟฟ้ากับประเทศไทย โอกาสการเติบโตในอนาคต
ล้ำไปอีก!!! แบตเตอรี่ที่เหนือกว่ารถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่ 
ต้องการซื้อรถกระบะมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้