7 ข้อกฎหมาย ที่ได้บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจราจรทางบก ปี พ.ศ.2522 แต่มีการฝ่าฝืนกันจนชิน และเห็นเป็นเรื่องปกติไป
กฎหมายจราจร ที่ ฝ่าฝืนกัน จนชิน!
1.บรรทุกคนท้ายกระบะ หรือ แคปของกระบะ
พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี พ.ศ.2522 มาตรา 20 ระบุว่า ผู้ขับขี่ซึ่งขับรถบรรทุกคน สัตว์ หรือสิ่งของ ต้องจัดให้มีสิ่งป้องกัน เพื่อมิให้ คน สัตว์ หรือสิ่งของนั้นๆ ที่บรรทุก เกิดการตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น ส่องแสงสะท้อน หรือปลิวออกจากรถ อันอาจก่อเหตุเดือดร้อน รำคาญ และทำให้ทางสกปรกเปรอะเปื้อน หรือเสื่อมเสียสุขภาพอนามัยแก่ประชาชน หรือก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน
ขณะที่แคปกระบะนั้น ถือว่าผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.รถยนต์ ปี พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถ ไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ เพราะส่วนแคปของกระบะนั้น ออกแบบมาเพื่อตั้งวางสิ่งของ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารนั่งแต่อย่างใด
2.คาดเข็มนิรภัยทุกที่นั่ง (ตอนหน้า)
พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี พ.ศ.2522 มาตรา 123 วรรคสอง ระบุว่า ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย ไว้กับที่นั่งในขณะขับขี่รถยนต์ และต้องจัดให้คนโดยสารรถยนต์ ซึ่งนั่งที่นั่งตอนหน้าแถวเดียวกันกับ ที่นั่งผู้ขับขี่รถยนต์คาดเข็มขัดนิรภัยในขณะโดยสารรถยนต์ และคนโดยสารรถยนต์ดังกล่าว ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยไว้กับที่นั่งในขณะโดยสารรถยนต์ด้วย
3.ขับรถช้าแต่อยู่เลนขวา
พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี พ.ศ.2522 มาตรา 35 ระบุว่า รถที่มีความเร็วช้า หรือ รถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่น ที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายเท่าที่จะกระทําได้
กฎหมายจราจร ที่ ฝ่าฝืนกัน จนชิน!
4.ไม่หยุดทางม้าลาย
พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ระบุว่า ผู้ขับขี่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามสัญญาณจราจร และเครื่องหมายจราจร ที่ได้ติดตั้งไว้ หรือที่พนักงานเจ้าหน้าที่แสดงให้ทราบ สัญญาณจราจร เครื่องหมายจราจร ความหมายของสัญญาณจราจร และเครื่องหมายจราจร
5.ขับรถคร่อมเลน
พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (6) ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถคร่อม หรือ ทับเส้น เว้นแต่เมื่อเปลี่ยนช่องเดินรถ เลี้ยวรถ หรือกลับรถเท่านั้น
6.เปิดไฟตัดหมอกพร่ำเพรื่อ
พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี พ.ศ. 2522 (แก้ไขเพิ่มเติมปี 2536) ระบุว่า ไฟตัดหมอกที่ติดตั้งในรถยนต์นั้น สามารถใช้งานได้ก็ต่อเมื่อรถวิ่งอยู่ในสภาวะที่มีหมอก ควัน หรือฝุ่นละออง จนเป็นอุปสรรค ที่อาจเกิดอันตรายในขณะขับรถและต้องไม่มีรถอยู่ด้านหน้า หรือสวนมาในระยะของแสงไฟ หรือในระยะ 150 เมตร โดยสามารถใช้หลอดไฟแสงขาวหรือแสงเหลือง ที่มีกำลังไฟไม่เกินดวงละ 55 วัตต์ เท่านั้น
7.ใช้โทรศัพท์มือถือ
พ.ร.บ.จราจรทางบก ปี พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (9) 9 ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถในขณะใช้โทรศัพท์มือถือ เว้นแต่ใช้โทรศัพท์มือถือโดยใช้อุปกรณ์เสริมสำหรับการสนทนา โดยผู้ขับขี่ต้องไม่ถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น
ข้อมูลจาก Tonkit360
>> ดูเพิ่มเติม:
5 หลักควรจำแต่งรถสวย สบายใจ จ่าไม่โบก
ติดตามข่าววงการยานยนต์ได้
ที่นี่