7 เทคนิคเลือกซื้อรถยนต์มือสองอย่างไรไม่ให้โดนย้อมแมว

ประสบการณ์ใช้รถ | 9 เม.ย 2562
แชร์ 6

ซื้อรถยนต์มือสองอย่างผู้เชี่ยวชาญให้ได้รถที่ดี ที่โดนใจ ต้องดูอะไรบ้าง Chobrod เผยเทคนิค วิธีเลือกซื้อรถมือสองฉบับมืออาชีพ ทำตามนี้ ไม่เจอรถย้อมแมวแน่นอน

การเลือกซื้อรถยนต์มือสองบางครั้งก็เป็นเหมือนการเสี่ยงโชค เพราะบางครั้งเราก็มักเจอรถยนต์ที่ย้อมแมวมาขาย ด้วยสภาพรถที่เหมือนจะดี แต่ก็มีจุดบกพร่อง หรือรถที่เคยผ่านอุบัติเหตุมาอย่างหนักหน่วง จนเครื่องยนต์หรือช่วงล่างมีปัญหา วันนี้ Chobrod จะพาเพื่อนๆ มาดูวิธีเลือกซื้อรถให้รอดพ้นจากรถย้อมแมวกัน

ซื้อรถยนต์มือสอง ดูรถมือสองไม่ให้ถูกหลอก
7 เทคนิคเลือกซื้อรถยนต์มือสองอย่างไรไม่ให้โดนย้อมแมว

หลายครั้งที่เราพบเห็นกระทู้ หรือโพสต์จากที่ต่างๆ ถึงการเจอรถยนต์มือสองที่ไม่ได้คุณภาพตามที่พูดคุย หรือตกลงเจรจาซื้อขายกัน ที่เรียกว่า “ย้อมแมว” แม้ว่าจะมีรถมือสองดีๆ หลายเจ้าในตลาดทั้งเต็นท์รถ และที่ประกาศขายในออนไลน์ แต่ก็มีคนโชคไม่ดี ไปเจอรถย้อมแมวอยู่ดี วันนี้ Chobrod เลยจะมาแนะนำ 7 วิธีเลือกซื้อรถยนต์มือสอง ที่จะเปลี่ยนความโชคร้ายในการซื้อรถ ให้เป็นความโชคดีได้ด้วยความรอบคอบ

1. เช็กประวัติรถ ออนไลน์ ผ่าน Google

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อรถสักคัน การหาข้อมูลของรุ่นรถก็มีความจำเป็น เพราะรถบางรุ่นก็มีปัญหาเยอะเสียเหลือเกิน แต่พอไม่ได้หาข้อมูลมาก่อนก็จะเกิดความเข้าใจผิดได้ง่ายๆ ว่าเกิดจากการใช้งานของเจ้าของรถคนก่อน อย่างนี้ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการเช็กประวัติรถมือสองจึงสำคัญทางที่ดีควรเสิร์ชหาข้อมูล ข้อดี-ข้อเสีย และปัญหาของรถยนต์รุ่นที่ต้องการจะซื้อก่อนที่จะติดต่อซื้อขาย

ซื้อรถยนต์มือสอง เช็กประวัติรถออนไลน์
หาข้อมูลของรุ่นรถยนต์ และความน่าเชื่อถือของแหล่งประกาศขายรถยนต์

นอกจากจะเสิร์ชหาข้อมูลของรุ่นรถยนต์ที่จะซื้อแล้ว ก็ควรจะเสิร์ชหาเว็บไซต์การซื้อขายรถยนต์มือสองที่น่าเชื่อถือ หรือเสิร์ชหาชื่อผู้ขาย เพื่อหาความน่าจะเป็นในการถูกย้อมแมวขายรถ แล้วจึงตกลงนัดพบเพื่อเช็กสภาพรถ คำเตือนอย่ามั่นใจในความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และรุ่นรถจนเกินไป ต้องนัดเช็กสภาพของรถยนต์ทุกครั้งก่อนทำการซื้อขาย

2. ตรวจเช็กสภาพรถยนต์

แม้ว่ารถบางคันจะระบุเข็มไมล์มาแล้วว่าวิ่งไปไกลเท่าไหร่ แต่บางครั้งระยะทางก็ดูเหมือนไม่ค่อยสัมพันธ์กับปีของรถยนต์ที่ซื้อมาเท่าไหร่ อย่าได้วางใจ เพราะอาการแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถยนต์ที่มีการตั้งเข็มไมล์ใหม่เพื่อให้สามารถขายได้ราคาดีขึ้น เนื่องจากวิ่งระยะทางน้อย นอกจากเข็มไมล์แล้วควรตรวจสอบเบาะที่นั่ง และพวงมาลัยว่ามีสภาพการใช้งานมานานขนาดไหน เช็กขอบประตู และดอกยางว่าสึกหมดหรือยัง เพราะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เล่านี้เป็นสัญญาณของรถที่ใช้งานมาเยอะพอสมควร

ดูเพิ่มเติม
>> วิธีซื้อรถมือสองให้เหมือนได้รถมือหนึ่ง

>> วิธีดูรถมือสอง ต้องเช็กให้ชัวร์ กับ 7 ฟีเจอร์ประจำรถที่ต้องมี

3. ตรวจเช็กเครื่องยนต์

เป็นการตรวจเช็กสภาพของเครื่องยนต์ว่ายังมีการใช้งานที่ดีอยู่หรือเปล่า โดยการลองสตาร์ทเครื่องว่าติดง่ายหรือไม่ เครื่องยนต์เดินสะดวกไม่มีอาการสะดุดหรือเปล่า และลองฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะเร่งด้วยความแรงสูงสุด และต่ำสุดว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่ เช็กการรั่วของอุปกรณ์ภายในห้องเครื่อง โดยการตรวจเช็กนี้ควรมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องรถยนต์ไปด้วย เพื่อที่จะเห็นรายละเอียดของการใช้งานรถยนต์ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

4. เช็กสภาพของห้องเครื่อง

การเช็กสภาพห้องเครื่องเป็นการตรวจเช็กว่าภายในห้องเครื่องเริ่มมีสนิมจับ มีรอยบุ๋มลึก หรือร่องรอยเสียหายหรือไม่ โดยไม่ใช่เช็กแค่อุปกรณ์ที่ทำจากเหล็กเท่านั้น แต่ควรตรวจสอบท่อ และสายพานว่ามีรอยฉีกขาดหรือไม่ ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่มีน้ำรั่วซึมหรือเปล่า

ซื้อรถยนต์มือสอง เช็กสภาพห้องเครื่อง
เช็กสภาพห้องเครื่องว่าเริ่มมีสนิมจับ มีรอยบุ๋มลึก หรือร่องรอยเสียหายหรือไม่

และอย่าลืมเปิดฝาน้ำมันเพื่อสังเกตว่ามีสารตกค้างเป็นฟองสีขาวเนื่องจากเคยเกิดการรั่วมาก่อนหรือเปล่า เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องอาจเกิดปัญหาจากการดูแลรักษาที่ไม่ดีพอ

5. หลีกเลี่ยงการซื้อรถจากต่างถิ่น

หากพบว่าเป็นรถมือสองที่นำเข้ามา และขายในราคาที่ถูกมากๆ ให้ตั้งข้อสังเกตว่ารถคันนี้อาจเป็นรถที่นำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย หรือเป็นรถที่ย้อมแมวขายเพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายบางอย่าง ดังนั้นหากมีการแจ้งรายละเอียดว่าเป็นรถยนต์นำเข้าอย่าดีใจ แต่ต้องเช็กให้ละเอียดมากกว่าปกติเลยทีเดียว ทางที่ดีถ้าหากว่าไม่เชี่ยวชาญ หรือไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยตรวจเช็กสภาพรถ ก็ควรหลีกเลี่ยงการซื้อรถประเภทนี้ดีกว่า ไม่เช่นนั้นคุณอาจทำผิดกฎหมายได้โดยไม่รู้ตัว

6. ทดลองขับ

หลังจากที่ตรวจสอบสภาพรถต่างๆ อย่างครบถ้วนแล้ว ก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ ควรทดลองขับรถเพื่อเช็กสภาพรถยนต์ครั้งสุดท้ายว่ามีอะไรที่ผิดปกติจากการขับหรือเปล่า เพื่อทดสอบระบบเบรก ระบบไฟ ศูนย์ถ่วงของรถ 

ซื้อรถยนต์มือสอง นำรถไปทดลองขับ
ทดลองนำรถออกไปขับ เพื่อทดสอบสมรรถนะการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจซื้อ-ขาย

ตัวอย่างเช่น การหมุนพวงมาลัยซ้ายขวาให้สุด เพื่อฟังเสียงเครื่องยนต์ขณะแล่น การตรวจสอบระบบเบรก ว่าเมื่อเหยียบเบรกแล้วมีอาการสั่นไหม หรือว่าส่ายไปมาหรือเปล่า เพราะนั่นเป็นสัญญาณว่าคาลิปเปอร์เสื่อมคุณภาพ ฯลฯ แม้คุณจะเป็นมือใหม่ แต่ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดการชำรุดหรือทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพก็สามารถรับรู้ได้ทันที

7. ตรวจสอบเอกสารการซื้อขาย ประกัน และ Service Book

เป็นขั้นตอนสุดท้ายของวิธีดูรถที่สำคัญอย่างมาก เพราะเมื่อคุณตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อรถยนต์มือสองคันนี้ การตรวจสอบเอกสารควรตรวจสอบอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือสัญญาซื้อขาย เลขทะเบียนรถ รหัสเครื่องยนต์ว่าตรงตามของจริงหรือเปล่า ตรวจสอบกับประกันว่ารถยนต์คันนี้มีการชำระค่าเบี้ยครบหรือไม่ และ Service Book ว่าที่ผ่านมารถยนต์คันนี้มีการซ่อมบำรุงส่วนไหนไปบ้างแล้ว

ซื้อรถยนต์มือสอง ตรวจเอกสารให้ถูกต้อง
ตรวจสอบเอกสารการซื้อขายให้ครบถ้วน ก่อนเซ็นสัญญาซื้อขาย

และหลังจากที่ซื้อขายต้องมีสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขายเก็บไว้ด้วย เพราะหากมีปัญหาเรื่องการซื้อ-ขายตามมาภายหลัง เอกสารเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยันความถูกต้องได้

เพียงเพื่อนๆ ทำตาม 7 เทคนิคของการเลือกซื้อรถยนต์มือสอง ที่ง่ายดายนี้ก็ไม่ต้องเป็นกังวลกับการถูกย้อมแมวขายแล้ว เป็นวิธการดูรถมือสองไม่ให้ถูกหลอก แต่ทางที่ดีควรมีผู้เชี่ยวชาญ หรือพาคนที่มีความรู้ในเรื่องรถยนต์ และเครื่องยนต์เป็นอย่างดีไปด้วยทุกครั้งที่มีการซื้อขายรถยนต์เพื่อให้มั่นใจว่ารถยนต์ยังมีสภาพที่ดีอยู่ และสามารถขับได้โดยไม่มีปัญหาอะไร สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังมองหารถยนต์มือสองสภาพดี สามารถเข้ามาดูได้ที่ตลาดรถ Chobrod.com

ดูเพิ่มเติม
>> เอกสารที่ต้องห้ามพลาด เมื่อซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง

เข้าดู ราคารถยนต์มือสอง ได้ที่นี่