5 วิธีการดู อาการรถยนต์ ผิดปกติแค่เพียงเปิดกระโปรง !

ประสบการณ์ใช้รถ | 27 ก.พ 2563
แชร์ 0

อาการรถยนต์ที่ผิดปกตินั้นเกิดมาจากหลายปัจจัย ซึ่งถ้าหากปล่อยไว้อาจจะมีปัญหาตามมาที่หลังได้ ดังนั้นควรรู้วิธีการดูอาการผิดปกติต่าง ๆ ของรถให้เป็นจะเกิดประโยชน์

ถ้าหากรถของท่านผู้ชมนั้นเกิดปัญหาขัดข้อง สิ่งที่ควรทำอย่างแรกคืออะไร ?? ถ้าหากรถมีอาการงอแง ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนแล้วจะมาเปิดฝากระโปรงไว้ก่อน แล้วรู้ไหมครับว่า อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ นั้นมีอะไรบ้าง หรือสังเกตอาการยังไงได้บ้าง ? เรามารู้จักการตรวจเช็ก 5 อาการภายในห้องเครื่องเบื้องต้นกันเลยดีกว่าครับ ดังนี้

หม้อน้ำแห้งหรือรั่ว เป็นสาเหตุของความร้อน
หม้อน้ำแห้งหรือรั่ว เป็นสาเหตุของความร้อน

1.ความร้อนขึ้น หม้อน้ำ

สำหรับอาการความร้อนขึ้น นั้นมีหลายสาเหตุครับ แต่ถ้าหากสังเกตดูตอนขับรถ เข็มความร้อนผิดปกติ ก็ควรจะมาตรวจเช็กในส่วนนี้ก่อนเลย 

วิธีการดู 

สามารถดูที่กระติกพักน้ำ ว่าน้ำนั้นหาย หรืออยู่ต่ำกว่าเกณท์หรือเปล่านั่นเอง โดยจะมีมาร์คบอกไว้ครับสามารถดูได้เลย ถ้าหากฉุกเฉิน น้ำน้อยกว่าปกติ ก็สามารถเติมน้ำเข้าไปแทนได้ หรือจะเป็นน้ำยาเต็มหม้อน้ำ Coolance นอกจากนี้ในรถรุ่นใหม่ ๆ บางรุ่นจะมีไฟโชว์รูปความร้อนแสดงบนหน้าปัด ก็ควรจะจอดทันที เพราะอาจจะทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัด

ข้อควรระวัง

ห้ามเปิดฝาหม้อน้ำระหว่างเครื่องร้อนหรือสตาร์ทอยู่ เพราะน้ำที่เดือดจะ  เป็นอันตรายต่อผู้เปิด 

แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น
แบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น

ตรวจเช็กระดับจากขีดด้านข้าง
ตรวจเช็กระดับจากขีดด้านข้าง

2.แบตเตอรี่

ปัญหานี้ อาจจะเกิดจากการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่ที่มีอายุเข้าช่วงปีที่ 2 ขึ้นไป หรือ จอดทิ้งไว้นานไม่ได้สตาร์ทเครื่อง ,ไปจนถึงลืมปิดระบบไฟในรถของคุณ

วิธีการดู

สังเกตง่าย ๆ ว่าเวลาสตาร์ทเครื่องจะไม่ติดภายในทีเดียว หรือไปจนถึงไม่มีการตอบสนองใด ๆ นอกจากนี้ยังมีวิธีการดูโดยที่ตัวแบตเตอรี่เอง ว่ามีขี้เกลือขึ้น หรือ น้ำกลั่นแห้งไหม ถ้าเป็นแบตแห้ง ก็จะสามารถดูได้ที่ช่องบอกสถานะแบต ซึ่งจะเป็นสีเขียว ถ้าหากแบตหมดก็สามารถพ่วงด้วยสายได้เลย

ข้อควรระวัง

อาการแบตเตอร์รี่เสื่อมนั้นอาจจะมีต้นตอมาจากอุปกรณ์ชิ้นอื่นก็ได้ เช่น ไดร์ชาร์จเสื่อม ก็อาจจะทำให้ไฟในแบตไม่เพียงพอ

น้ำมันเบรกต้องอยู่ในปริมาณที่ถูกต้อง
น้ำมันเบรกต้องอยู่ในปริมาณที่ถูกต้อง

ของเหลวต่าง ๆ ควรตรวจเช็กเสมอ
ของเหลวต่าง ๆ ควรตรวจเช็กเสมอ

3.ของเหลวรั่วหรือพร่อง 

ภายใต้ฝากระโปรงหน้านั้นประกอบด้วยสาย ,ท่อยางต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นควรตรวจสอบสอบด้วยสายตามามีท่อชิ้นไหน ชำรุด หรือ มีน้ำคราบน้ำมัน หรือของเหลว ต่าง ๆ หยดออกออกมาไหม

วิธีดู 

การตรวจเช็ก เพียงแค่ดูว่ามีจุดไหนที่สะดุดตา มีรอยหรือคราบที่เปียก เช่นมีน้ำมันหยุดตรงข้างเครื่อง หรือ ท่ออากาศรั่ว เมื่อเครื่องยนต์ทำงานอยู่จะเห็นได้ชัด หรือดูใต้ท้องรถเวลาจอดทิ้งไว้ ว่ามีคราบน้ำมันหรือเปล่านั่นเอง

ข้อควรระวัง

ถ้าหากพบเห็นเป็นคราบน้ำมันควรหาต้นตอ และควรไปหาช่างเพื่อตรวจเช็กจุดที่ชำรุดให้ไวที่สุด ไม่ควรใช้รถต่อในระยะทางที่ไกล เพราะจากจุดเล็ก ๆ อาจจะลามเป็นเรื่องใหญ่ได้

วิธีดูปริมาณและคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
วิธีดูปริมาณและคุณภาพของน้ำมันเครื่อง

อย่าให้น้ำมัน เกิน หรือ ตำกว่าจุด Mark ของก้านน้ำมันเครื่อง
อย่าให้น้ำมัน เกิน หรือ ตำกว่าจุด Mark ของก้านน้ำมันเครื่อง

4. ตรวจเช็กน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องนั้นจะเป็นตัวที่ช่วยหล่อลื่น และลดความร้อนภายในเครื่องยนต์ ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่ามีประสิทธิภาพ ซึ่งน้ำมันเครื่องนั้นควรอยู่ในระดับที่ผู้ผลิตกำหนด ไม่มาก หรือ ต่ำกว่ามาร์คของไม้วัด

วิธีดู

ให้ตรวจสอบที่ไม้ก้านวัดน้ำมันเครื่อง ในกรณีเครื่องยนต์ น้ำมันจะอยู่ในปริมาณกลาง ไม่ถึงจุดมาร์คด้านล่างของไม้ แต่ถ้าตรวจตอนเครื่องร้อน น้ำมันจะเปิดการขยายตัว เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทั้งนี้ทั้งนั้น ระดับของปริมาณน้ำมันเครื่องต้องไม่อยู่ต่ำกว่าขีดของก้านวัด

ข้อควรระวัง

ถ้าพบเจอน้ำมันมีปริมาณที่ต่ำกว่าเกณท์ อย่าปล่อยไว้แก้ไขได้ไม่ยาก หาน้ำมันเครื่องเติมเข้าไปให้อยู่ในปริมาณพอดี ถ้าหากเกินไปเล็กไม่เป็นปัญหา ถ้าเกินเยอะไปควรดูดออกครับ และอย่าลืมหาจุดที่น้ำมันเครื่องรั่วด้วยนะครับ

ยางแท่นเครื่องถ้าเสื่อมจะทำให้เครื่องยนต์สั่นไปจนถึงภายในรถ
ยางแท่นเครื่องถ้าเสื่อมจะทำให้เครื่องยนต์สั่นไปจนถึงภายในรถ

คอมฯ แอร์ และสายพานถ้าหากเสื่อมสภาพ จะมีเสียง
คอมฯ แอร์ และสายพานถ้าหากเสื่อมสภาพ จะมีเสียง 

5.เครื่องยนต์มีเสียง หรือเสียงต่าง ๆ ของอุปกรณ์

เสียงกุ๊ก ๆ กั๊ก ๆ นั้นอาจจะพูดกันยาก ยิ่งถ้าหากผู้ขับไม่มีประสบการณ์ในการตรวจเช็กแล้ว ถือว่าค่อนข้างลำบากครับ แต่ถ้าหากเราอยู่ภายในห้องโดยสาร และได้ยินเสียงจากห้องเครื่อง คงจะไม่ใช่เรื่องปกติอย่างแน่นอน

วิธีดู

ผู้ใช้รถคงต้องหมั่นสังเกตด้วยตัวเองว่า วันนี้เราใช้รถแล้วพบเสียงแปลก หรือมีตรงไหนที่ดังกว่าปกติบ้าง เช่น เครื่องยนต์ส่วนบนมีเสียงดัง รั่ว ๆ และดัง อาจจะเป็นเสียงของวาวล์ ที่ผิดปกติ หรือว่าจะเป็นเสียงแหลม ๆ ตรงตำแหน่งสายพานคอมแอร์ ก็จะพอบอกได้ว่าสายพานเสื่อมนั่นเอง

ข้อควรระวัง

ถ้าเจอเสียงแปลกที่ชัดเจน ควรรีบตรวจสอบว่ามีปัญหาที่จุดไหน เพราะถ้าหากดังมากและชัดมาก อาจจะสร้างความเสียหายต่อเนื่องให้กับเครื่องยนต์ และ อุปกรณ์ต่าง ๆได้

สรุป

ทั้งหมดนี้คือวิธีการตรวจดูอาการต่าง ๆ รถเบื้องต้นสำหรับผู้ที่อาจไม่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมรถนะครับ แต่ก็สามารถนำวิธีที่กล่าวมาลองตรวจเช็กเองได้นะครับ ถ้าหากเจอจุดไหนที่แปลกตาต้องรีบแก้ไขห้ไวที่สุด นอกจากนี้ ยังสามารถดูแลรถเองเบื้องต้นได้อีกด้วย

ดูเพิ่มเติม
>>เติมลมยางแค่ไหนถึงจะพอดี ? TIPS ง่าย ๆ ดูได้ด้วยตัวเอง
>>ALL NEW MAZDA CX-30 เปิดตัวที่ไทยแน่ มีนานี้ !!

 

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อ รถมือสองราคาดี เชิญเข้าดูที่ ตลาดรถรถมือสอง ตรงนี้