รถยนต์เป็นสิ่งที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักหน่วง หลังจากเดินทางไกล ต้องเผชิญสภาพจราจรที่ติดขัด การขับผ่านถนนขรุขระอยู่บ่อยครั้ง ผ่านหลุมบ่อหรือสภาพถนนที่ไม่ดี ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้รถเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ของเหลวในห้องเครื่องเป็นส่วนสำคัณต่อการทำงานของรถ และในขณะเดียวกันเป็นความเสี่ยงต่อการไฟไหม้ ดังนั้นเราควรเช็คระดับของเหลวต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ รวมถึงน้ำในหม้อน้ำและหม้อพัก ระดับน้ำและน้ำมันต่างๆ ไม่ควรพร่องจากก่อนเดินทางมากนัก ถ้าน้ำมันมีสีดำเข้มหมายความว่าผิดปกติ เช็คสภาพห้องเครื่องว่าไม่มีคราบน้ำมันเยิ้ม รั่วซึม ซึ่งอาจเป็นผลมาจากซีลเสื่อมสภาพ
2.เช็คช่วงล่างและระบบกันสะเทือน
หลังกลับจากเดินทางไกลโดยเฉพาะขณะหมุนพวงมาลัยและวิ่งผ่านทางขรุขระจึงควรเช็คระบบช่วงล่างว่าไม่มีอะไรเสียหาย ควรโช๊คอัพทั้ง 4 ต้น ว่าไม่มีคราบน้ำมันไหลเยิ้มออกมา รวมถึงลองเช็คศูนย์ล้อด้วยการปล่อยพวงมาลัยขณะรถเคลื่อนที่ไปข้างหน้า หากรถยังคงวิ่งไปตรงๆ ก็ไม่มีปัญหา นอกจากนั้น ให้คอยฟังเสียงดังผิดปกติจากช่วงล่าง ว่ามีเสียงกึกกักแปลกๆบ้างหรือไม่
3.เช็คสภาพยางและล้อ
4.เช็คสภาพตัวถังให้เรียบร้อย
หลังกลับจากเดินทางไกล ควรเช็คสภาพสีรอบตัวถังว่ามีรอยขูดขีด หรือรอยกระเทาะจากหินดีดหรือไม่ รวมถึงคราบที่ล้างออกยาก หากพบก็ควรจัดการให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นรอยด่าง หรือสนิมในอนาคต