เชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะนำรถไปรีไฟแนนซ์ สาเหตุอาจจะมาจากสถานการณ์ทางการเงิน หรืออาจจะมองว่าดอกเบี้ยที่จ่ายในปัจจุบันนี้สูงเกินไป หากรีไฟแนนซ์รถยนต์คงจะคุ้มค่ามากกว่า พร้อมเผยขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณเข้าใจมากขึ้น
สำหรับขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์ โดยหลัก ๆ แล้วมีอยู่เพียงไม่กี่ขั้นตอน โดยวันนี้เราจะมาลงรายละเอียดที่ลึกกว่าเดิม กับทริคง่าย ๆ พร้อมการเตรียมตัวด้วย 4 Step ง่าย ๆ ที่ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาแถมเสียประโยชน์ในอนาคตนั่นเอง
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถยนต์และความคุ้มค่า
1) คำนวณความคุ้มค่าและหาข้อมูลให้ครบถ้วน
ก่อนอื่นต้องคำนวณก่อนว่าหาจะปิดสินเชื่อเดิมเพื่อนำรถไปขอสินเชื่อใหม่กับสถาบันการเงินใหม่จะคุ้มค่าหรือไม่ โดยนำอัตราของดอกเบี้ยคงเหลือตามสัญญามาหักส่วนต่างกับดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นเป็นหลัก ถ้าพิจารณาแล้วว่าคุ้มค่าแน่นอน ก็ถือเป็นเหตุผลชั้นดีที่จะตัดสินใจรีไฟแนนซ์รถยนต์ แต่ถ้าหากว่ามันอาจจะไม่คุ้มสักเท่าไหร่ เพราะต้องมีค่าดำเนินการต่าง ๆ ตามมา ให้ไปติดต่อกับสถาบันการเงินที่นำรถไปเข้าไฟแนนซ์ก่อนว่า เราอยากจะลดอัตราดอกเบี้ยและต้องการย้ายสถาบันการเงินไปยังสถาบันใหม่ ซึ่งทริคนี้จะทำให้สถาบันการเงินยอมยื่นข้อเสนอลดอัตราดอกเบี้ยมาให้ คุณอาจจะได้ข้อเสนอที่ถูกใจแถมไม่ต้องเสียเวลาไปดำเนินการด้วย ที่สำคัญคือ อย่าลืมศึกษารายละเอียดรถที่จะนำไปรีไฟแนนซ์ ว่าสามารถทำได้หรือไม่ และมีราคากลางอยู่ที่เท่าใด
สำรวจความคุ้มค่าก่อนรีไฟแนนซ์รถยนต์
2) สำรวจความพร้อมด้วยสูตรลับแบบง่ายๆ
เมื่อมั่นใจแล้วว่า ต้องการรีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างแน่นอน ให้สำรวจก่อนว่าในอนาคตจะสามารถวางแผนในการผ่อนชำระได้หรือไม่ ให้ลองคำนวณจากสูตรง่าย ๆ เพื่อดูความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น จำนวนหนี้ทั้งหมดที่ต้องชำระ และอัตราค่างวดต่อเดือนที่ต้องจ่ายหลังจากรีไฟแนนซ์รถยนต์
สูตรคำนวณก่อนรีไฟแนนซ์รถยนต์
ซึ่งสูตรในการคำนวณนี้ถือเป็นมาตรฐานเดียวกันที่คนจะนำรถไปรีไฟแนนซ์ต้องคิดก่อนเสมอ ถึงแม้อาจจะมีค่าใช้จ่ายอย่างอื่นเพิ่มมาจากสูตรนี้บ้าง แต่อย่างน้อยนี่ก็ถือเป็นแนวทางในการคำนวณก่อนตัดสินใจได้เป็นอย่างดี
3) สำรวจข้อมูลจากสถาบันการเงิน พร้อมเตรียมเอกสารให้ครบ
หลังจากคำนวณและสำรวจตัวเองแล้ว ให้ติดต่อกับธนาคารต่าง ๆ ที่ต้องการจะนำรถยนต์ไปรีไฟแนนซ์ เพื่อเปรียบเทียบว่าหากนำรถยนต์ไปรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินใดจะเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และก็นำข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากสถาบันการเงินมาคำนวณตามสูตรที่กล่าวไปในข้างต้น เพื่อเปรียบเทียบกันว่าควรดำเนินการกับธนาคารใด และหากตัดสินใจได้แล้ว ให้เตรียมเอกสารสำหรับการดำเนินการรีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลและอนุมัติผลต่อไป
สำหรับเอกสารในการรีไฟแนนซ์ ประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน บุ๊คแบงก์ย้อนหลังล่าสุดในรอบ 6 เดือน โดยเป็นเอกสารที่ห้ามขาดแม้แต่อย่างเดียว นอกจากนี้อาจจะต้องเตรียมเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย แบ่งเป็น 2 หมวดย่อย ตามลักษณะการประกอบอาชีพของคนในปัจจุบัน ได้แก่
พนักงานประจำ อาจจะต้องเพิ่มในส่วนของ สลิปเงินเดือน 3 เดือนล่าสุด, เอกสารรับรองเงินเดือน, บัตรประจำตัวพนักงาน, บัตรประกันสังคม, ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และ รูปถ่ายของที่พักอาศัย
เจ้าของกิจการ อาจจะต้องเพิ่มในส่วนอง ใบพาณิชย์ หรือ ใบจดนิติบุคคล, หนังสือรับรองบริษัท, ใบ ภ.พ. 20, ใบสั่งซื้อ สั่งขาย, สัญญาว่าจ้าง, สัญญาเช่า, ใบทวิ50, รูปถ่ายกิจการ, รูปถ่ายที่พักอาศัย เป็นต้น
อาชีพอิสระ รับเงินสด อาจจะต้องเพิ่มในส่วนของ ทวิ50, สัญญาว่าจ้าง, เอกสารรับรองรายได้, ผลงานที่ทำในอาชีพ และรูปถ่ายที่พักอาศัย
พ่อค้าแม่ค้าแผงลอย หรือขายออนไลน์ อาจจะต้องเพิ่มในส่วนของ รูปถ่ายร้านค้าหรือหน้าร้าน, รูปสต๊อกสินค้าในกรณีที่ขายออนไลน์, ใบเสร็จซื้อสินค้า ซื้อวัตถุดิบ, และ รูปถ่ายที่พักอาศัย
การเตรียมเอกสารสำหรับการรีไฟแนนซ์รถยนต์ของแต่ละอาชีพ
4) ทราบผลพร้อมปิดบัญชีให้เรียบร้อย
เมื่อทราบผลการอนุมัติแล้ว จะสามารถทำการปิดบัญชีและรับเงินส่วนที่เหลือจากสถาบันการเงินได้ในทันที โดยไม่ต้องรอเล่มออกมาจากไฟแนนซ์เดิม และเมื่อได้รับเล่มแล้ว อย่าลืมส่งเอกสารให้กับสถาบันการเงินใหม่ เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป หลังจากนั้น ทางสถาบันการเงินจะติดต่อเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการผ่อนชำระในแต่ละงวด และเมื่อดำเนินการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วก็ให้ส่งงวดให้กับไฟแนนซ์ใหม่ตามกำหนดอย่างสม่ำเสมอ “ห้ามลืมชำระเงิน” โดยเด็ดขาด
>> 7 การดัดแปลงรถไม่ให้ผิดกฎหมาย ขาซิ่งขาแต่งต้องรู้ไว้ก่อน!!
>> ก่อนซื้อขายเช็คให้ดี!!! รถหลุดจำนำถูกหรือผิดกฎหมาย
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ช่องทางตลาดรถ Unseencar.com