3 ไฟเตือนที่หน้าปัด บอกกับคุณว่าต้องจอดรถทันที
คำบอกเล่าจากช่างซ่อมรถหลายต่อหลายคน ด้วยเรื่องที่ว่าลูกค้าของพวกเขามักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับ “ไฟเตือนบนหน้าปัด” สักเท่าไร และที่หนักกว่านั้นคือยังฝืนใช้รถต่อจนส่งผลความเสียหายมากกว่าที่ควรจะเป็น สิ่งที่เกิดขึ้นคือค่าซ่อมราคาแพง กระเป๋าฉีกซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น
3 ไฟเตือนที่หน้าปัด บอกกับคุณว่าต้องจอดรถทันที
ไฟเตือนที่หน้าปัดทุกสัญลักษณ์ล้วนมีความหมายสื่อถึงความผิดพลาดในการทำงานของอุปกรณ์ที่ไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ของตัวรถ แม้ไฟเตือนหน้าปัดบางอย่างอาจไม่ส่งผลการทำงานที่แสดงออกมาได้อย่างชัดเจน เช่น ไฟรูปเครื่องยนต์ (Check Engine) แต่ถึงกระนั้น ผู้ขับควรสังวรไว้เลยว่ามีบางอย่างในรถของคุณทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอย่างที่เคยเป็นมา
แต่ถึงกระนั้นก็มีเจ้าของรถจำนวนมากที่มักจะไม่สังเกตไฟเตือน หน้าปัดรถ จะด้วยความไม่เห็นหรือเลือกที่จะไม่สนใจก็ตาม ช่างซ่อมคนหนึ่งเล่าว่า เขามีลูกค้าคนหนึ่งนำรถเข้ามาซ่อมด้วยเครื่องยนต์ที่สภาพยับเยินอย่างหนัก เพราะหลงเข้าใจว่าไฟเตือนความดันน้ำมันเครื่อง (Oil Pressure) คือการแจ้งเตือนให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องของตัวรถ และใช้รถขับต่อไป สุดท้ายเครื่องยนต์ก็ลูกทำลาย อาการหนักเอาเรื่อง ค่าซ่อมก็แพงด้วยเช่นกัน จากที่คิดว่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไม่กี่บาท กลับต้องมาจากค่าซ่อมหนักหลักหมื่น
เห็นตัวอย่างการคาดเดาโดยไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของเรื่องไฟสัญญาณเตือนแล้วใช่ไหม ว่าส่งผลเสียรุนแรงมากแค่ไหน การละเลย ปล่อยไว้ และใช้งานต่อเมื่อไฟสัญญาณเตือนบนหน้าปัดสว่างขึ้นอาจเป็นความคิดที่ไม่ฉลาดนัก เพราะมันจะยิ่งทำให้รถของคุณอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายรุนแรงกว่า จ่ายแพงกว่า เมื่อเทียบกับเข้าแก้ไขทันทีที่ไฟสัญญาณหน้าปัดสว่างเตือน ไม่ฝืนขับต่อหรือใช้รถต่อ และนี่คือตัวอย่างของสัญญาณไฟหน้าปัดบนรถคุณ ซึ่งอาจแสดงขึ้นได้ระหว่างขับขี่ ถ้าคุณไม่รู้วิธีจัดการที่ถูกต้องในทันทีอาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อรถคุณได้ไม่น้อย
ไฟหน้าปัดรูปกาน้ำมันเครื่อง (Oil Pressure) ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นเครื่องยนต์สูง
ไฟเตือนเครื่องยนต์อุณหภูมิสูง เกิดจากอะไร :: ถ้าไฟเตือนรูปกาน้ำมันเครื่องจะสว่างขึ้นเมื่อคุณบิดสตาร์ทกุญแจจากนั้นจะหายไป เป็นปกติถ้ากรณีที่เครื่องยนต์ไม่มีปัญหาอะไร แต่บางครั้งไฟเตือนนี้จะสว่างขึ้นเมื่อเซ็นเซอร์ของเครื่องยนต์ตรวจพบว่าน้ำมันเครื่องมีแรงดันลดลง ต่ำกว่าระดับมาตรฐานอาจะเป็นเพราะระดับน้ำมันเครื่องน้อยเกินไปซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานจนเกิดความเสียหาย รั่ว ซึมออกตามจุดต่างๆ ของเครื่องยนต์ ซึ่งเป็นภาวะเร่งด่วนที่คุณไม่ควรขับรถ ใช้รถต่อไปเพราะเครื่องยนต์ขาดการหล่อลื่นที่เพียงพอ ถ้ายิ่งขับไปต่อมีแต่เครื่องยนต์จะเสียหายมากยิ่งขึ้น
น้ำมันเครื่องขาด ทำให้การหล่อลื่นมีน้อยลง ทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหาย
คุณต้องทำอย่างไร :: หาที่จอดข้างทางด้วยความระมัดระวัง ดับเครื่อง และตรวจสอบคู่มือการใช้ในรถของคุณเพื่อหาคำแนะนำเพิ่มเติมเฉพาะเจาะจงในรถแต่ละรุ่น หาซื้อน้ำมันเครื่องที่มีจำหน่ายตามปั้มน้ำมัน เติมให้ระดับน้ำมันเครื่องสูงขึ้นมาอยู่ในระดับที่เครื่องยนต์ต้องการใช้งานก่อน เพื่อเพียงพอให้รถขับไปอู่ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบอาการโดยละเอียดอีกที แต่ระหว่างที่ขับไปอู่ก็ไม่ควรรุนแรงกับเครื่องยนต์นัก ค่อยๆ ขับประคองไปให้ถึงอู่
ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นถ้าละเลยไฟสัญญาณนี้ :: คุณเคยใช้กระดาษทรายเพื่อขัดกับอะไรสักอย่างหรือเปล่า อาการน้ำมันเครื่องขาดก็เช่นเดียวกัน กับเครื่องยนต์ที่น้ำมันเครื่องไม่เพียงพอ และการเสียดสีของโลหะภายในเครื่องยนต์จะมีมากขึ้นจนส่งผลให้เกิดความเสียหายขั้นรุนแรงต่อชิ้นส่วนสำคัญภายในที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงในการทำงาน ลูกสูบ แหวนลูกสูบ และชิ้นส่วนต่างๆ จะเกิดความเสียหายขั้นรุนแรง จะรู้สึกได้ทันทีเมื่อขับขี่ที่แรงดันน้ำมันต่ำ เร่งไม่ค่อยออก รถไม่ค่อยพุ่ง เมื่อไฟสัญญาณนี้โชว์ขึ้นบนหน้าปัดจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการแก้ไขทันทีก่อนที่จะความวอดวายจะบังเกิดกับเครื่องยนต์ของรถคุณ
ไฟหน้าปัดเตือนความร้อน (Engine Temperature) เกิดจากอะไร :: ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์ ไฟเตือนอุณหภูมิสีแดง สัญลักษณ์ตัววัดอุณหภูมิสีแดงเดือดนั้นสื่อถึงระดับของอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นภายในเครื่องยนต์สูงเกินขีดจำกัด เกินระดับที่ปลอดภัย หรือง่ายๆ นั่นคือเครื่องยนต์ของรถคุณนั้นร้อนเกินไปแล้ว สาเหตุอาจเกิดมาจากระบบหล่อเย็นของตัวเครื่องอาจทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จากอุปกรณ์ที่เสียหาย ชำรุด ทั้งจากการใช้งานในสภาพต่างๆ หรือหมดอายุการใช้งานของตัวอุปกรณ์ตามอายุอานามตัวรถ เช่น ปั้มน้ำพัง, หม้อน้ำรั่ว ซึม, ท่อยางเดินระบบน้ำหล่อเย็นเสื่อมสภาพ เป็นต้น เมื่อไฟนี้สว่างขึ้นให้คุณตระหนักไว้ทันทีว่ารถของคุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายรุนแรง และจำเป็นต้องแก้ไขโดยทันที
ไฟหน้าปัดเตือนความร้อนส่งผลต่อความเสียหายต่อเครื่องยนต์ไม่น้อย
คุณต้องทำอย่างไร :: เช่นเดิมคือนำรถจอดข้างทางทันทีด้วยความระมัดระวัง จากนั้นปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเองสักพักโดยใส่เกียร์ว่าง ไม่ควรดับเครื่องยนต์ในทันทีที่จอด จากนั้นสังเกตดูว่าอุณหภูมิยังสูง ไฟสัญญาณยังติดอยู่หรือไม่ การเปิดดูคู่มือของรถคุณอาจมีคำแนะนำที่ดีเพิ่มเติมสำหรับรุ่นรถนั้นๆ
บางครั้งที่ไฟสัญญาณความร้อนนี้ปรากฎขึ้น อาจจะมาพร้อมกับอาการอื่นที่แสดงออกกับเครื่องยนต์ด้วย เช่น มีควัน มีไอระเหยขึ้นมาจากใต้ฝากระโปรงรถ หรือการรั่วไหลจากของเหลวจากใต้ท้องรถ หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นสิ่งที่คุณต้องทำนั่นคือดับเครื่องยนต์ทันที อย่าปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงานต่อ แต่ถ้าอาการเหล่านี้ไม่เกิดก็ปล่อยให้เครื่องยนต์ทำงาน ดูอาการสักครู่ก่อนแล้วค่อยดับเครื่อง จากนั้นตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็นภายในเครื่องยนต์ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีน้อยกว่าระดับมาตรฐานที่รถต้องนำไปใช้ในระบบ เติมน้ำเข้าไปให้เต็ม แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องรอให้เครื่องยนต์เย็นลงก่อนสัก 20-30 นาทีค่อยเปิดฝาหม้อน้ำแล้วเติม จากนั้นลองค่อยๆ ขับไปเข้าอู่ แต่ถ้าอาการหนักระดับมีควัน มีไอระเหยฟุ้งเต็มหน้ารถ แนะนำว่าลากรถไปจะดีกว่า
ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นถ้าละเลยไฟสัญญาณนี้ :: ถ้ายังฝืนใช้รถในขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัด จะส่งผลต่อส่วนประกอบภายสำคัญอาจเสียหายรุนแรงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะลูกสูบ เสื้อสูบ ถ้าเกิดการเสียหายรู้ไว้เลยว่าค่าซ่อมไม่ใช่ถูกๆ อย่างแน่นอนหรือถ้าเป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดก็ต้องถึงขั้นเปลี่ยนเครื่องยนต์เลยก็เป็นได้ อีกทั้งความร้อนที่มากเกินไปยังส่งผลทำให้ประเก็นของเครื่องเสื่อม ส่งผลให้ของเหลวภายในเครื่องยนต์รั่วซึมออกมาได้อีกด้วย เช่นเดียวกับท่อเดินระบบน้ำหล่อเย็นของรถ เมื่อต้องทำงานกับความร้อนสูงๆ ก็ส่งผลให้รั่ว ซึมได้ทั้งหมด ปฎิบัติตามคำแนะนำเมื่อเจอปัญหาข้างต้น อย่างน้อยค่าใช้จ่ายในการยกรถ ลากรถก็ถูกกว่าราคาเครื่องยนต์ที่คุณต้องเปลี่ยนใหม่หลายเท่า
ไฟเตือนระบบเบรค (Brake Warning)
เกิดจากอะไร :: อาจจะแตกต่างกับสองข้อก่อนหน้าทั้งเรื่องน้ำมันเครื่อง และความร้อนของเครื่องยนต์ เหตุผลมากมายหลายประการที่ไฟเตือนระบบเบรคนี้จะสว่างขึ้น ตั้งแต่เซ็นเซอร์ของระบบ ผ้าเบรคหมดสภาพ หรือการรั่วซึมของน้ำมันในระบบเบรค แต่ทั้งหมดล้วนแต่ส่งผลต่อการขับขี่ที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้นทั้งสิ้น
>>> ดูเพิ่มเติม ไฟเครื่องโชว์ isuzu
ระบบเบรคถ้าเกิดมีปัญหาในตอนใช้รถอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
คุณต้องทำอย่างไร :: หากไฟเบรคโชว์บนหน้าปัดในขณะที่คุณกำลังขับขี่ ให้เปิดไฟฉุกเฉินในทันที หาวิธีจอดข้างทางโดยเร็ว และปลอดภัยที่สุด จากนั้นเมื่อรถหยุดจอดนิ่งสนิทให้ตรวจสอบระดับน้ำมันเบรค คำแนะนำจะมีระบุไว้ในสมุดคู่มือการใช้รถของคุณ และอย่าฝืนขับต่อไปถ้าระดับน้ำมันเบรคอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์ เป็นความเสี่ยงที่มากกว่าที่ไม่ได้เสียหายเพียงแค่รถของคุณ แต่มันคือความเสี่ยงต่อชีวิตผู้ขับขี่ที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ถ้าเบรคไม่ทำงาน ถ้าระดับน้ำมันเบรคไม่ได้ขาด อยู่ในระดับปกติ ปัญหาอาจเกิดจากเซ็นเซอร์ระบบ ABS ที่เสียทำให้ไฟเตือนสว่างขึ้น ค่อยๆ ให้รถเคลื่อนที่ช้าๆ แล้วลองเหยียบเบรคทดสอบการทำงานว่ายังใช้งานได้ปกติหรือไม่ และค่อยๆ ขับไปเข้าอู่เพื่อตรวจสอบระบบโดยละเอียดว่าปัญหาที่แท้จริงเกิดจากอะไร
เนื่องจากปัญหาในการทำงานอยู่ที่เรื่องการหยุดรถซึ่งเป็องค์ประกอบสำคัญในการขับขี่ คุณควรใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากถ้าคิดจะขับต่อไปให้ถึงจุดหมาย หรือตัดสินใจให้ชัดเจนไปเลยว่าจะลากรถกลับไปที่อู่เพื่อตรวจสอบการทำงานของระบบโดยช่างผู้ชำนาญให้ดีก่อน ว่าสาเหตุที่ไฟเตือนระบบเบรคนี้มาจากอะไร และแน่นอนว่าราคาค่าลากรถยังไงก็ยังถูกกว่าที่คุณต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ
ทั้งสามข้อคือสัญญาณไฟหน้าปัดที่คุณจะละเลยไม่ได้โดยเด็ดขาด อย่าขับรถเพลินๆ จนลืมสังเกตไฟเหล่านี้ เพราะมันหมายถึงค่าใช้จ่ายที่แพงโข รวมไปถึงความเสี่ยงที่มากกว่าในการใช้รถใช้ถนนของคุณอีกด้วย
และคุณละ เคยเจอเหตุการณ์ไฟเตือนบนหน้าปัดอะไรบ้างจนเคยทำให้คุณต้องเสีย เสียทั้งค่าใช้จ่ายในการซ่อม หรือค่าใช้จ่ายหลังจากเหตุไม่คาดฝันบ้าง บอกกับเรา Chobrod ให้รู้หน่อย
ติดตาม ข่าวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง รีวิวรถยนต์ใหม่ ได้ที่นี่
ติดตามเรื่อง ราคารถยนต์ใหม่ ๆ ได้ที่นี่
