รถยนต์รุ่นเล็ก รวมถึงรถ Eco Car ถือเป็นรถยนต์ที่เหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่รถเล็กจะช่วยให้การขับรถเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์คันเล็กๆ ขับวันนี้เราได้นำ 2 รุ่นเล็กมาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆ ดูกันค่ะ นั่นก็คือ Nissan March กับ Suzuki Celerio จะเป็นอย่างไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ
เปรียบเทียบรถรุ่นเล็ก Nissan March กับ Suzuki Celerio
สำหรับกลุ่มรถยนต์ Hatchback ขนาดเล็กเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มรถยนต์ที่มีอัตราเติบโตในตลาดค่อนข้างดีเลยทีเดียว วันนี้ Chobrod จึงได้นำรถรุ่นเล็กอย่าง Nissan March และ Suzuki Celerio มาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆ ดูว่าทั้ง 2 รุ่นนี้โดดเด่นต่างกันในเรื่องอะไรบ้าง จะเป็นอย่างไรตามมาชมกันเลยค่ะ
Nissan March รถยนต์ Sub-Compact Hatchback ที่ทำตลาดในกลุ่ม Eco Car เป็นโมเดลแรกในประเทศไทย
Nissan March เป็นรถยนต์ Sub-Compact Hatchback ที่ทำตลาดในกลุ่ม Eco Car เป็นโมเดลแรกในประเทศไทย นับตั้งแต่เผยโฉมให้คนไทยได้สัมผัสครั้งแรกเมื่อปี 2010 จนถึงปัจจุบันรวมเป็นเวลากว่า 8 ปีก็ยังใช้โฉมเดียวกันนี้ในการทำตลาดกลุ่มรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็น Nissan Almera หรือ Nissan Note โดย Nissan March มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อยให้เลือกด้วยกัน คือ รุ่น 1.2 S MT ราคา 420,000 บาท, รุ่น 1.2 E MT ราคา 479,000 บาท, รุ่น 1.2 E CVT ราคา 493,000 บาท และรุ่น 1.2 EL CVT ราคา 526,500 บาท
Suzuki Celerio 2018 รถแฮทช์แบคไซส์มินิขนาด 5 ที่นั่ง รูปลักษณ์ภายนอกสไตล์สปอร์ตแฝงไว้ด้วยความคล่องตัว
Suzuki Celerio 2018 รถแฮทช์แบคไซส์มินิขนาด 5 ที่นั่ง มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกสุดสปอร์ตแฝงไว้ด้วยความคล่องตัวตอบโจทย์รูปแบบการขับขี่ในเมือง ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็ให้แรงขับที่ดีเยี่ยม ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ K10B 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์ CVT ที่มีความแม่นยำสูง ส่วนภายในให้ความบันเทิงด้วยชุดเครื่องเสียงแบบ 2Din รองรับ MP3/USB รวมถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกครับครัน อาทิ มาตรวัดระยะการเดินทางรวมถึงไฟสัญญาณเตือนระดับน้ำมันใกล้หมด และ พวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้าปรับระดับสูง-ต่ำได้ มี 3 รุ่นย่อยให้เลือก ได้แก่ Suzuki Celerio 1.0 GA MT ราคา 359,000 บาท, Suzuki Celerio 1.0 GL CVT ราคา 439,000บาท และ Suzuki Celerio 1.0 GlX CVT ราคา 488,000 บาท
Nissan March มาพร้อมกระจังหน้าทรง V-Shape ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์ค่าย Nissan
ดีไซน์ตัวถังแบบเรียบง่ายสไตล์ Minimal ใช้เส้นสายไม่มากนัก
รูปลักษณ์ภายนอกของ Nissan March มาพร้อมกระจังหน้าทรง V-Shape ถูกนำมาใช้คาดที่นอกจากเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นรถจาก Nissan พร้อมไฟหน้าใหม่แบบทูโทนผสานโครเมียมภายในโคม เพิ่มไฟวิ่งกลางวัน Daytime Running แบบไดมอนด์บริเวณด้านล่างที่จุดบริเวณไฟตัดหมอกเป็นทรงโค้งรับกับช่องลมกันชนช่วยทำให้รถดูดียิ่งขึ้น ไฟหลังให้มาเป็นแบบ LED สวยทันยุค กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่สื่ออารมณ์ถึงความ Minimal ลดเส้นตัดเส้นโค้งที่ด้านหน้าเรียบแต่ดูดี ไม่มากแต่ดูน่าสนใจ ด้านหลังกันชนถูกเพิ่มลูกเล่นนิดหน่อยเพิ่มความปราดเปรียว โดยล้อที่ให้มาจะเป็นล้อเหล็กทุกรุ่นย่อยขนาด 14 นิ้วรัดด้วยยางขนาด 165/70/14
สนใจเลือกซื้อขายรถมือสอง Nissan March ราคาถูกใจคุณเชิญที่นี่
ดีไซน์ตัวถังให้ความใกล้เคียงกับ Suzuki Swift แต่มีความโค้งมนของเส้นสายมากกว่า
ภายนอก Suzuki Celerio 2018 มีมิติตัวถังกว้าง 1,600 มิลลิเมตร สูง 1,540 มิลลิเมตร ยาว 3,600 มิลลิเมตร น้ำหนักรถโดยรวม 785 กิโลกรัม และ น้ำหนักบรรทุกรวม 1,260 กิโลกรัม มาพร้อมกับการดีไซน์อย่างพิถีพิถันติดตั้งกระจังหน้าแบบโครเมี่ยม ไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ติดตั้งหลอดไฟแบบฮาโลเจน ผสานเข้ากับกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถปรับและพับได้ด้วยไฟฟ้า ที่เปิดประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ และ ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา เสริมด้วยการเพิ่มชุดแต่งคิ้วกันสาดจำนวน 4 ชิ้น ชุดคิ้วประตู 4 ชิ้น และ ชุดคิ้วบันได 4 ชิ้น อีกทั้งยังได้รับการดีไซน์ให้กระจกด้านหน้ามีลักษณะเป็นแนวยาวไปจรดกับหลังคาเพื่อช่วยลดแรงต้านของกระแสลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ในขณะที่ด้านหลังติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED พร้อมไฟท้ายแนวตั้งไปจรดกับฝาปิดที่เก็บสัมภาระด้านท้าย อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งสปอยเลอร์หลังทรงสปอร์ต และ ที่ปัดน้ำฝนด้านหลังแบบ 1 จังหวะ ช่วงล่างได้รับการติดตั้งล้ออัลลอยขนาด 14 นิ้ว พร้อมยางขนาด 165/65 R14
สนใจเลือกซื้อขายรถมือสอง Suzuki Celerio ราคาถูกใจคุณเชิญที่นี่
ภายในตกแต่งโดยใช้โทนสีดำ ตัดด้วยสีเงินเล็กน้อยที่แผงแดชบอร์ดหน้า ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้อย่างครบครัน
ภายในตกแต่งโดยใช้โทนสีดำ ตัดด้วยสีเงินเล็กน้อยที่แผงแดชบอร์ดหน้า พวงมาลัยยูรีเทนปรับสูง-ต่ำได้ ระบบเครื่องเสียงให้มารองรับทั้ง CD, MP3 น่าเสียดายที่ยังไม่ใช่แบบหน้าจอสัมผัส แต่ยังครบทุกการเชื่อมต่อทันยุคจาก Smart Phone ไม่ว่าจะเป็น USB, AUX เติมเต็มทุกการบันเทิงตลอดเส้นทางการเดินทาง เบาะที่ให้มาเป็นเบาะผ้าสีดำพร้อมลวดลายกราฟิกตรงกลาง เบาะแถวหลังสามารถแยกปรับพับได้เพื่อเอื้อในเรื่องการเก็บสัมภาระที่มากขึ้น โดย Nissan March ได้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาอย่างครบครัน ทั้งกระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้าและพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อครถ, มาตรวัดอัจฉริยะ Multi-Information Display (MID) แสดงผลข้อมูลด้านต่าง ๆ ของตัวรถ, กุญแจอัจฉริยะ พร้อมระบบ Immobilizer พร้อมปุ่ม Push สตาร์ทเครื่องยนต์, เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลัง 4 จุด, เครื่องเสียงให้มารองรับทั้ง CD, MP3, USB, AUX พร้อมติดตั้งลำโพง 4 จุดด้วยกัน
Suzuki Celerio 2018 ได้รับการออกแบบอย่างประณีต ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีขนาดกว้าง ติดตั้งอุปกรณความบันเทิงอย่างครบครัน
ภายใน Suzuki Celerio 2018 ได้รับการออกแบบอย่างประณีต ตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นหลัก พร้อมบุผ้าที่แผงข้างประตู ไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารปรับได้ 3 ระดับ ดีไซน์ให้ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีขนาดกว้างมากยิ่งขึ้น ติดตั้งแผงกั้นห้องโดยสาร และห้องเก็บสัมภาระรวมถึงระบบเปิดฝาถังน้ำมันภายในห้องโดยสาร ติดตั้งที่วางเครื่องดื่มมาให้ 5 ตำแหน่ง เสริมความสะดวกสบายด้วยการติดตั้งหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ติดตั้งมาตรวัดอัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง นาฬิกาดิจิตอล และมาตรวัดระยะการเดินทาง รวมถึงมีระบบไฟสัญญาณเตือนการลืมคาดเข็มขัดนิรภัย , ประตูปิดไม่สนิท และระดับน้ำมันใกล้หมด นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งนวัตกรรมเสียงสัญญาณเตือนเปิดไฟหน้าค้างรวมถึงการลืมกุญแจ Suzuki Celerio 2018 ติดตั้งอุปกรณ์ด้านความบันเทิงมาให้อย่างครบครัน ด้วยระบบเครื่องเสียงแบบ Playback function 2Din รองรับ MP3/USB นอกจากนี้ยังมีระบบกรองอากาศเพื่อเพิ่มอากาศที่บริสุทธิ์ให้ห้องโดยสาร พร้อมทั้งติดตั้งระบบพวงมาลัยพาวเวอร์แบบไฟฟ้าแร็ค แอนด์ พิเนียนสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ ผสานกับการนำระบบกุญแจรีโมทรวมถึงระบบเซ็นทรัลล็อก และกระจกไฟฟ้า
ติดตั้งเครื่องยนต์ของขนาด 1.2L รหัส HR12DE เบนซิน 3 สูบแถวเรียง DOHC 12 วาล์ว แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 79 แรงม้า
ติดตั้งเครื่องยนต์ของขนาด 1.2L รหัส HR12DE เบนซิน 3 สูบแถวเรียง DOHC 12 วาล์ว พร้อมหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์มัลติพอยท์ ECCS แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 79 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 106 Nm ให้อัตราเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 12 วินาที ความเร็วสูงสุด 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC แบบ CVT พร้อมระบบเกียร์ Sub-Planetary และยังมีแบบเกียร์ธรรมดา 5 Speed ให้เลือกสำหรับรุ่นย่อยรองลงมา ให้อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่มากถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร
Suzuki Celerio มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ K10B 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 68 แรงม้า
Suzuki Celerio มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ K10B 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 68 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบ/นาที โดยเครื่องยนต์ K10B ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาอีกทั้งยังช่วยลดแรงเสียดทานพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ อีกทั้งยังช่วยลดเสียงดังจากเครื่องยนต์ที่ส่งผ่านมายังห้องโดยสาร ติดตั้งระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ อินเจ็คชั่น รองรับการใช้พลังงาน E20 มาพร้อมระบบส่งกำลังที่มีให้เลือกทั้งในแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ผสานการทำงานร่วมกับชุดเพลนเน็ตตารี่เกียร์ (Plenetary Gear Unit) ที่ช่วยส่งกำลังได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสามารถประหยัดน้ำมันได้มากถึง 20 กิโลเมตรต่อลิตร
Nissan March ได้มีการติดตั้งถุงลม SRS คู่หน้าให้ในทุกรุ่นย่อย พร้อมระบบ ABS / EBD / BA
สำหรับระบบความปลอดภัยของ Nissan March ได้มีการติดตั้งถุงลม SRS คู่หน้าให้ในทุกรุ่นย่อย พร้อมระบบ ABS / EBD / BA ระบบเบรกในนิสสัน มาร์ช ป้องกันล้อล็อค ABS (Anti-Long Braking System)ช่วยให้คุณควบคุมทิศทางรถหรือหักหลบสิ่งกีดขวางได้ในสถานการณ์คับขัน ระบบควบคุมและกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake-force Distribution)รักษาสมดุลของรถเมื่อเบรกกระทันหัน ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)เสริมแรงเบรกที่ล้อ ลดระยะเบรกให้สั้นลง 10-15% รวมถึงติดตั้งระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer มาให้ด้วย
Suzuki Celerio 2018 มาพร้อมโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้าชนิดพิเศษTECT ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม
Suzuki Celerio 2018 มาพร้อมโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้าชนิดพิเศษภายใต้แนวคิด Total Effective Control Technology (TECT) ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกได้อย่างดีเยี่ยม และมีน้ำหนักที่เบา รวมถึงให้อุปกรณ์ความปลอดภัยมาอย่างเต็มที่ ด้วยการติดตั้งถุงลมนิรภัยฝั่งคนขับ และผู้โดยสารคู่หน้าหน้าแบบ SRS เสริมด้วยการนำระบบเบรกป้องกันล้อล็อคแบบ ABS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกให้กับผู้ขับขี่ได้มากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังช่วยป้องกันล้อล็อคขณะทำการเบรกอย่างกะทันหัน มาพร้อมกับระบบกระจายแรงเบรกแบบ EBD ที่ถูกนำเข้ามาติดตั้งไว้ในรถรุ่นนี้มีหน้าที่ควบคุมและกระจายแรงเบรกด้วยระบบอิเลคทรอนิกส์ไปยังล้อทั้ง 4 ล้อได้อย่างสมดุล พร้อมทั้งการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบ ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง ส่วนในด้านหลังติดตั้งเข็มขัดนิรภัย ELR 3 จุด 2 ตำแหน่ง และ 2 จุด 1 ตำแหน่ง ผสานกับการนำระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer
ถือได้ว่าทั้ง 2 รุ่นมีสมรรถนะ และคุณสมบัติใกล้เคียงกันมากเลยทีเดียว แต่ Nissan March มีราคาถูกกว่าเพียงเล็กน้อย
ทั้ง 2 รุ่นนี้ถือว่าเป็นรถยนต์ในกลุ่มอีโคคาร์ที่ให้อัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่ากันเลยทีเดียว ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก และภายในทางด้าน Suzuki Celerio ให้ความโฉบเฉี่ยวมามากกว่าพอสมควร ในด้านรระบบความปลอดภัยก็ให้มาครบครันพอกัน แต่ที่ทำให้ Suzuki Celerio แตกต่างกว่า Nissan March ก็คือโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้า TECT และเข็มขัดนิรภัย ELR ที่ให้มาทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ในส่วนของเครื่องยนต์ Nissan March จะให้ความแรงมากกว่า ถือได้ว่ามีความโดดเด่นกันไปคนละแบบโดยที่กินกันไม่ลงเลยนะคะ สำหรับทั้ง 2 รุ่นนี้
ดูเพิ่มเติม
Nissan March ปะทะ Ford Fiesta 1.4 เครื่องใหญ่ต้องดีกว่าจริงหรอ ?
Mitsubishi Mirage VS Nissan March เลือกคันไหนคุ้มค่ากว่ากันคุณเป็นคนตัดสินใจ !!
หากเพื่อนๆ ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถยนต์รุ่นใดรุ่นหนึ่งใน 2 รุ่นนี้ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจนะคะ เพราะควรจะไปลองขับรถยนต์ก่อน เพื่อดูว่ารถรุ่นใดที่เหมาะกับการขับขี่ในแบบของตนเองมากที่สุดก่อนที่จะซื้อมาขับนะคะ สำหรับบทความเปรียบเทียบครั้งต่อไปจะเป็นรถยนต์รุ่นใด อย่าลืมติดตามกันได้ที่ Chobrod.com นะคะ
ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้