เกียร์ออโต้ อัตราทดยิ่งเยอะ Speed ยิ่งมาก ดีจริงหรือ?

ประสบการณ์ใช้รถ | 23 พ.ย 2560
แชร์ 13

ด้วยจำนวนเกียร์ของประเภทเกียร์อัตโนมัติ นับวันจะยิ่งเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีและการพัฒนาไม่หยุดยั้ง Honda CR-V ระบบเกียร์ไฟฟ้าอัตโนมัติ 9 Speed, Mazda CX-3 กับ SKTACTIV DRIVE เกียร์อัตโนมัติ 6 Speed หรือแม้กระทั่งรถปิคอัพ Toyota Revo ก็มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แล้วจำนวนเกียร์มากมายนี้มีผลอย่างไร ต่อการขับขี่ใช้งานยิ่งเยอะยิ่งดีหรือมีไว้แค่เยอะๆ ให้ดูเท่ ดู Cool กว่ารุ่นคู่แข่งเท่านั้น

Speed ยิ่งมาก อัตราทดเกียร์หลายระดีบ ดีจริงหรือแค่คำโฆษณา

Speed ยิ่งมาก อัตราทดเกียร์หลายระดีบ ดีจริงหรือแค่คำโฆษณา
 

กาลเวลาผ่าน เทคโนโลก้าวหน้ายิ่งขึ้น รถระบบขับเคลื่อนด้วยเกียร์ธรรมดากำลัจะถูกลืมแทนที่ด้วยเกียร์อัตโนมัติหรือที่เรียกกันติดปากกันว่า ‘เกียร์ Auto’ ที่จะมีในรถทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ แต่บอกแค่เพียงการเป็นรถเกียร์ออโต้มันอาจจะธรรมดาเกินไป ยุคนี้รถที่ขายความเป็นเทคโนโลยีจะแข่งกันด้วยจำนวนเกียร์ของเกียร์ออโต้ด้วย
 

จำนวนเกียร์กี่ Speed ไม่ได้นับที่ตัวหนังสือข้างข้างคันเกียร์

จำนวนเกียร์ที่บรรยายหลังคำว่าเกียร์อัตโนมัติ 4,5,6,7 ไปจนถึง 8 Speed หรือมากกว่านั้นในบางรุ่น หมายถึงเฉพาะเกียร์ที่ช่วยสำหรับในการขับเคลื่อนไปข้างหน้าเท่านั้น ไม่นับเกียร์ถอยหลัง เกียร์ P นั่นหมายถึงอัตราทดของเกียร์สำหรับขับเดินหน้าในเกียร์ D เท่านั้น มีหลายระดับเพื่อที่เครื่องยนต์จะเลือกใช้ให้เหมาะกับระดับรอบเครื่องยนต์
 

ยกตัวอย่างในรถ Honda Jazz ที่เป็นเกียร์อัตโนมัติ 5 Speed จะทำงานดังต่อไปนี้

เกียร์ D คือเกียร์ 1 - 2 -3 - 4 - 5

เกียร์ D3 คือเกียร์ 1 - 2 -3 - 4

เกียร์ 2 คือเกียร์ 1 - 2

เกียร์ 1 คือเกียร์ 1
 

ซึ่งคำว่า 5 Speed หมายถึงอัตราทด 5 ระดับสำหรับการการขับเคลื่อนเดินหน้าเท่านั้น ซึ่งมีหลายคน ที่ยังเข้าใจแล้วเหมารวมเกียร์ P,R,N เข้าไปด้วย แต่การทำงานจริงๆ แล้วเกียร์ออโต้ก็เหมือนเกียร์ธรรมดา การทำงานเพื่อให้รถวิ่งไปไม่ต่างกัน แค่เพียงระบบของรถมันสามารถเปลี่ยนเกียร์หรืออัตราทดเกียร์ให้เอง ถ้าสังเกตเวลาที่คุณขับรถเกียร์ออโต้แล้วมีอาการกระตุก ในจังหวะเหยียบคันเร่ง แรงๆ จะเร่งแซงรถคันอื่น นั่นแหละคือจังหวะที่เกียร์กำลังเปลี่ยนอัตราทดให้เข้ากับกำลังเร่งที่ส่งมาจากเครื่องยนต์แรงขึ้น แต่ถ้าเป็นรถเกียร์ธรรมดาจะไม่เจอจังหวะการกระตุกแบบนั้น เพราะรูปแบบการใช้งานแบบเกียร์ ‘Manual’ จากการยกคันเร่ง รอบเครื่องตก เหยียบคลัทช์ ช่วยทำให้การเปลี่ยนเกียร์หรืออัตราทดดูสมูทนุ่มนวลกว่า
 

เกียร์ P,R,N ไม่นับรวมอยู่ในระดับ Speed ของเกียร์

เกียร์ P,R,N ไม่นับรวมอยู่ในระดับ Speed ของเกียร์
 

จำนวนเกียร์หรืออัตราทดของเกียร์ออโต้สมัยนี้ที่เพิ่มขึ้น มีจุดประสงค์เพื่อการปรับปรุงในด้านสมรรถนะการขับขี่และความประหยัดน้ำมัน จากความสอดคล้องระหว่างกำลังเครื่องยนต์กับอัตราทดเกียร์ที่ลงตัวที่สุด “เหตุผลหลักๆ ของความพยายามทั้งหมดคือต้องการปรับปรุง performance และความประหยัดให้มากขึ้นกับตัวรถ” Mark Champine ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบระบบส่งกำลังและขับเคลื่อนของ ‘Fiat Carsler Automobiles’ กล่าว
 

Mark ยังบอกอีกว่าเกียร์ออโต้ที่มีจำนวนเกียร์อัตราทดมากๆ จะช่วยให้เครื่องยนต์อยู่ในจุดที่เหมาะสมกับการทำงาน การเพิ่มอัตราทดหรือจำนวน Speed ในเกียร์ออโต้ยิ่งทำให้เครื่องยนต์มีทางเลือกสำหรับการทำงานเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดจากกำลังเครื่องยนต์ที่ปล่อยออกมาและน้ำมันที่ใช้ เพียงอัตราทดที่มากขึ้นนั่นหมายถึงความยืดหยุ่นของระดับกำลังเครื่องยนต์จะกว้างกว่าในทุกจังหวะการขับขี่
 

ลองนึกถึงเวลาที่คุณการปั่นจักรยานแบบมีเกียร์ การออกแรงปั่นก็เหมือนกำลังที่ถูกส่งมาจากเครื่องยนต์ไปที่เกียร์ ออกตัวจะเลือกใช้เกียร์ที่ปั่นง่ายเบาๆ ให้ออกแรงน้อยๆ เช่นเดียวกันกับอัตราทดเกียร์ในรถยนต์ จากนั้นเมื่อรถเคลื่อนที่แล้วอัตราทดจะปรับเปลี่ยนอัตโนมัติเพื่อให้เข้ากับกำลังเร่งของเครื่องยนต์และความเร็วรถ ซึ่งเมื่อมีอัตราทดหรือ Speed ของเกียร์สูงขึ้น เครื่องยนต์จะรับภาระในการทำงานน้อยลงและประหยัดน้ำมันได้ก็ต่อเมื่อระดับอัตราทดเกียร์ที่เครื่องยนต์ใช้เหมาะสมกับรอบเครื่องและความเร็วของตัวรถ
 

ระบบเกียร์พัฒนาเพื่อทำงานร่วมกันที่ลงตัวกับเครื่องยนต์

นอกจากอัตราทดที่ระบบจะปรับให้อัตโนมัติตามสถานการณ์การขับขี่ รถหลายๆ รุ่นยังมีโหมดของตัวเกียร์ให้ผู้ขับขี่เลือกปรับ ตามสไตล์ผู้ขับขี่ได้อีกด้วย อย่างเช่นโหมด Eco ประหยัดน้ำมันใช้คุ้มค่าทุกหยด โหมด Sport ซิ่งเต็มที่ตอบสนองทันใจ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง
 

อัตราทดของเกียร์ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ ถูกพัฒนาอยู่ตลอดทุกรุ่น

อัตราทดของเกียร์ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ ถูกพัฒนาอยู่ตลอดทุกรุ่น
 

เราไปดูกันดีกว่าว่ารถแต่ละรุ่นมีเกียร์กี่ Speed มาให้บ้าง

  • BMW Series 7 2017 เป็นเกียร์ 8 Speed Steptronic

  • Mercedes-Benz S 500 e Executive เป็นเกียร์อัตโนมัติ 7 Speed แบบ 7G-TRONIC PLUS

  • All-New Toyota Camry 2.5 ลิตร Hybrid เป็นเกียร์อัตโนมัติ E-CVT

  • All New Mazda CX-5 2017 ใช้ระบบ SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติ  6 Speed

  • Honda HR-V 2017 เป็นระบบเกียร์ CVT 7-Speed

  • New Toyota Vios 2017 ใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 Speed พร้อม Sequential Shift

  • All New Toyota Yaris 2017 เป็นเกียร์แบบอัตโนมัติ Super CVT-I
     

ยุคแรกของเกียร์อัตโนมัติถูกขับเคลื่อนผ่านระดับเกียร์เพียง 3-5 Speed เท่านั้นต่อมาที่ระดับ 5-6 Speed เมื่อก้าวเข้าสู่ยุค 2000 และทะลุไปถึงออโต้ 7 Speed กับ Mercedes-Benz ในปี 2003 จนปัจจุบันเป็น BMW Series 7 ที่มีอัตราทด 8 Speed เข้าไปแล้ว ผ่านเวลาต่างค่าย ต่างระบบการทำงาน เพื่อช่วยให้เกียร์อัตโนมัติของรถแต่ละรุ่นทำงานได้อย่างไหลลื่น นุ่มนวล การพัฒนาของรถรุ่นใหม่ๆ ไม่จำเป็นเสมอไปที่ต้องเพิ่มจำนวน speed อัตราทดของเกียร์ให้ได้มากๆ แต่เป็นการปรับให้ระดับอัตราทดในแต่ละเกียร์ลงตัวกับเครื่องยนต์และการขับขี่เสียมากกว่า
 

Mercedes-Benz S 500 e Executive 7 Speed แบบ 7G-TRONIC PLUS

Mercedes-Benz S 500 e Executive 7 Speed แบบ 7G-TRONIC PLUS

 

เกียร์ออโต้ Speed เยอะ ๆ เหมาะกับเครื่องยนต์แบบไหน ?

ผู้ผลิตจะดูความเหมาะสมของตัวเครื่องยนต์กับจำนวน Speed อัตราทดเกียร์ ว่าควรมีเท่าไร กี่ Speed  เพื่อการใช้งานที่ครบด้านครอบคลุม เหมาะสมทุกสถานการณ์ที่ผู้ขับขี่เลือกใช้ เกียร์อัตโนมัติอัตราทดสูงๆ Speed มากๆ จะเข้ามาช่วยเรื่องความประหยัดตัวอย่างเช่นใน Toyota Vios ที่เลือกใช้เกียร์ถึง 7 Speed เพื่อลดภาระกับตัวเครื่องยนต์ และขณะเดียวกันก็เหมาะกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่มีแรงบิดสูงอีกด้วย

 

อยู่ที่คุณว่าต้องการรถประเภทไหน ถ้าเน้นประหยัดการที่รถมีอัตราทดมากๆ จะช่วยตอบโจทย์ข้อนี้สำหรับรถที่เครื่องยนต์ไม่ใหญ่ กำลังรถไม่สูงมากอย่างที่ขายในบ้านเรา และอย่าลืม

เรื่องการเลือกใช้เทคโนโลยี รถบางรุ่นอาจมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ Speed หลายระดับ ขับสนุกแต่อาจมาพร้อมกับปัญหาจุกจิก เสียง่าย และช่างซ่อมมือไม่ถึงแม้จะเป็นในศูนย์บริการก็ตาม ถ้าเกียร์มีปัญหาขึ้นมาอาจทำให้คุณไม่สนุกกับการใช้รถเลยก็เป็นได้