อยู่ด้วยกันยาวๆ! กับ 10 เคล็ดลับรักษาสภาพเครื่องยนต์รถคุณให้สมบูรณ์

ประสบการณ์ใช้รถ | 23 เม.ย 2561
แชร์ 14

ทุกวันที่คุณสตาร์ทรถ และใช้งาน ขับไปในทุกที่ที่คุณต้องการ แต่คุณได้ดูแลเครื่องยนต์ของรถคุณดีพอให้รองรับกับการใช้งานของคุณแล้วหรือยัง เพราะส่วนมากเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วกับชีวิตประจำวันอันแสนวุ่นวาย หรือจะเป็นวันพักผ่อนใช้รถขับทางไกล อาจทำให้คุณละเลยตรงจุดนี้ มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถยนต์สุดรักของคุณเริ่มมีเสียงหรืออาการแปลกๆ เกิดขึ้นแล้ว

อยู่ด้วยกันยาวๆ! กับ 10 เคล็ดลับรักษาสภาพเครื่องยนต์รถคุณให้สมบูรณ์

อยู่ด้วยกันยาวๆ! กับ 10 เคล็ดลับรักษาสภาพเครื่องยนต์รถคุณให้สมบูรณ์  

เครื่องยนต์อันเปนหัวใจหลักในการขับเคลื่อนไปของตัวรถ ซึ่งต้องการการดูแลรักษาที่เหมาะสม คุณควรหมั่นดูแลเครื่องยนต์รถของคุณให้ดี Chobrod เรามีคำแนะนำเคล็ดลับการดูแลเครื่องยนต์ที่เป็นประโยชน์ต่อรถของคุณจากผู้เชี่ยวชาญไว้ถึง 10 เคล็ดลับ ดังต่อไปนี้ซึ่งจะช่วยให้คุณดูแลรถยนต์ของคุณได้อย่างถูกต้องถูกจุด หลีกเลี่ยงปัญหาสำคัญที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทำให้เสียใช้จ่ายในการซ่อมสูงได้ มีอะไรบ้างไปดูกัน

1.เติมน้ำมันเครื่องอย่างถูกต้อง

น้ำมันเครื่องช่วยหล่อลื่นชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น และทำให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนมากเกินไป การมองข้ามความสำคัญของจุดนี้อาจทำให้เกิดความเสียหายที่ส่งผลสำคัญต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ โดยปกติเราควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 10,000 กิโลเมตร และควรจดบันทึกการเติมครั้งล่าสุดของคุณติดรถไว้ทุกครั้งเพื่อกันลืม ช่วงเวลาครั้งต่อไปในการเปลี่ยนถ่าย

เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานของรถคุณ

เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการใช้งานของรถคุณ

>> สาเหตุน้ำมันเครื่องลดลงเร็วกว่าที่เคย อย่านิ่งนอนใจเครื่องยนต์อาจพังได้

2.ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ

เคล็ดลับข้อต่อไปคือการหมั่นตรวจดูหม้อน้ำก่อนออกจากบ้าน เพราะคุณไม่รู้หรอก ว่าแต่ละวันที่คุณขับรถนั้นรถยนต์ของคุณจะต้องเจอกับสภาพถนนรูปแบบไหน ขับได้ไหลลื่นระบายความร้อนได้แบบสบายๆ หรือจะต้องเจอรถติดขัดถึงขั้นสุด รถเคลื่อนได้แบบเต่าคลาน ฉะนั้นการดูแลเรื่องความร้อนของเครื่องยนต์นี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก น้ำที่อยู่ในระดับมาตรฐานช่วยให้เครื่องยนต์ของรถคุณไม่ร้อนเกิน ป้องกันความเสียหายที่เกิดจากความร้อนเกินมาตรฐานจนทำให้ชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์เสียหายได้

เช็คระดับน้ำหม้อน้ำก่อนออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย รถไม่พังกลางทาง

เช็คระดับน้ำหม้อน้ำก่อนออกจากบ้านเพื่อความปลอดภัย รถไม่พังกลางทาง

>> “น้ำยาหล่อเย็น” กับ “น้ำยาหม้อน้ำ” มันเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ???

3.ทำความสะอาดแผงกรองอากาศ

แผงกรองอากาศเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ฝุ่น ทราย เศษละอองชิ้นส่วนใดๆ เข้าไปในห้องเผาไหม้ จนเป็นอากาศบริสุทธิ์ที่สุดเข้าไปสู่จังหวะจุดระเบิด การหมั่นทำความสะอาดเจ้าตัวกรองนี้จะช่วยให้อากาศเข้าไปสู่เครื่องยนต์ได้เต็มที่เต็มประสิทธิภาพ ไม่ถูกบดบังจากเหล่าฝุ่งละออง ยิ่งถ้าคุณขับรถไปในที่ฝุ่นทรายเยอะก็ควรนำออกมาเคาะ, เป่าทำความสะอาด หรือถ้าไม่ได้เปลี่ยนนานแล้วก็แนะนำให้เปลี่ยนชิ้นใหม่เลย จะดีที่สุดกันลืมคือเปลี่ยนทุกครั้งพร้อมกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

ทำความสะอาดแผงกรองอากาศเพื่อรักษาเครื่องยนต์

ทำความสะอาดแผงกรองอากาศเพื่อรักษาเครื่องยนต์

4.คอยสังเกตุการรั่วไหลของน้ำมันเมื่อคุณจอดรถ

คุณไม่จำเป็นจะต้องศึกษาวิศวกรรมเครื่องกลเพื่อหารอยรั่ว เพียงแค่คุณหมั่นสังเกตุสิ่งผิดปกติไม่ว่าจะเป็นทั้งกลิ่น หรือคอยดูว่ามีน้ำมันหยดที่พื้นเมื่อรถจอดทิ้งไว้หรือไม่ เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติเหล่านี้คุณจะได้นำรถของคุณไปตรวจเช็คได้ทันท่วงที เรื่องนี้ควรทำให้เป็นนิสัยเพราะเชื่อเถอะ มันอาจช่วยให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าจากค่าซ่อมได้เยอะเลยทีเดียว

รอยน้ำมันหยดเป็นคำเตือนสำคัญจากรถของคุณที่ไม่ควรมองข้าม

รอยน้ำมันหยดเป็นคำเตือนสำคัญจากรถของคุณที่ไม่ควรมองข้าม

>> ระดับน้ำยาหล่อเย็นก็สามารถตรวจสอบเองได้ไม่ต้องง้อช่าง

5.อย่าปล่อยให้น้ำมันเหลือน้อยเกินไป

เมื่อคุณใช้รถยนต์เป็นเวลาหลายๆปี ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงของคุณก็เริ่มเกิดการสะสมของตะกอนที่ก้นถัง ดังนั้นถ้าคุณยังละเลยการดูแลถังน้ำมัน อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ของคุณ เคล็ดลับเพื่อการป้องกันการเกิดตะกอนที่ก้นถังคือการมีน้ำมันไว้อย่างน้อยครึ่งถังติดถังไว้ อย่าปล่อยให้เหลือก้นถังนานเกินไป

อย่าปล่อยให้น้ำมันเหลือน้อยติดก้นถัง ควรมีติดถังไว้สักหน่อย

อย่าปล่อยให้น้ำมันเหลือน้อยติดก้นถัง ควรมีติดถังไว้สักหน่อย

6.เปลี่ยนสายพานก่อนที่มันจะเสื่อม

หลายๆ ท่านอาจยังไม่ทราบถึงความสำคัญของสายพานที่มีผลต่อประสิทธิภาพของใบพัดเครื่องยนต์, ไดร์ชาร์จ, เครื่องปรับอากาศ และระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์ โดยปกติแล้วสายพานจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก แต่อย่างไรก็ตามถ้าตัวสายพานทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพก็ย่อมส่งผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์ และอาจทำให้เครื่องยนต์ของคุณเกิดเสียหายได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณเปลี่ยนสายพานเมื่อตรวจพบรอยแตกหรือเมื่อมีรอยบิ่นเกิดขึ้นในทันที อย่าปล่อยไว้จนรอขาด

สายพานมีส่วนในการทำงานกับชิ้นส่วนหลายระบบ ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน

สายพานมีส่วนในการทำงานกับชิ้นส่วนหลายระบบ ควรให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน

7.อย่ามองข้ามไฟเตือนบนหน้าปัด

เมื่อคุณสตาร์ทรถเพื่อกำลังจะออกไปจากบ้าน ก่อนที่จะขับรถออกไป ควรสังเกตุไฟเตือนที่หน้าปัดด้วยว่ามีสัญญาณไฟอะไรขึ้นมาผิดปกติจากเดิมหรือเปล่า เพราะมันอาจกำลังเตือนถึงปัญหาสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้นกับรถของคุณ เมื่อมีไฟสัญญาณใดๆที่เกินความสามารถของคุณเตือนขึ้น แนะนำให้คุณนำรถของคุณไปพบช่างผู้ชำนาญเพื่อการดูแลรักษาให้ถูกจุดต่อไป

คำเตือนบนหน้าปัดบ่งบอกถึงปัญหาของตัวรถที่ต้องการการแก้ไขโดยด่วน

คำเตือนบนหน้าปัดบ่งบอกถึงปัญหาของตัวรถที่ต้องการการแก้ไขโดยด่วน

>> 3 ไฟเตือนที่หน้าปัด บอกกับคุณว่าต้องจอดรถทันที

8.เปลี่ยนกรองน้ำมันเชื้อเพลิง

ก่อนที่น้ำมันเชื้อเพลิงจะมาถึงส่วนของเครื่องยนต์จะต้องผ่านตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิง และบทบาทที่สำคัญของตัวกรองก็คือเพื่อป้องกันเศษตะกอนหรืออนุภาคที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่ระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์ ถ้าในถังน้ำมันมีเศษตะกอนเจ้าตัวกรองนี้จะช่วยกรองไว้ทั้งหมด และถ้าหากคุณไม่ได้เปลี่ยนตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงนี้ในเวลาที่เหมาะสม ให้ไปเปลี่ยนก่อนโดยเร็วที่สุด และเพื่อกันลืมคราวหน้า คำแนะนำคือควรเปลี่ยนพร้อมกับการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปเลย

ตัวกรองน้ำมันช่วยดูแลไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในเครื่องยนต์

ตัวกรองน้ำมันช่วยดูแลไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในเครื่องยนต์

9.ขับรถด้วยความเร็วคงที่

เคล็ดลับง่ายๆ เพียงคุณเปลี่ยนปรับพฤติกรรมการขับขี่ให้เป็นมิตรกับเครื่องยนต์ของรถคุณมากขึ้นสักหน่อย ทั้งการเหยียบคันเร่งแรงๆ หรือการเหยียบคันเร่งสลับกับการเบรค(ขณะรถติด) ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นการทำร้ายเครื่องยนต์ของคุณให้ต้องทำงานหนักแถมยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงโดยเปล่าประโยชน์อีกด้วย ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่มีสภาพไม่ดี เป็นหลุมเป็นบ่อ เพื่อเป็นการถนอมช่วงล่าง และรักษารถยนต์ของคุณให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกวิธี

เลิกพฤติกรรมเหยียบเร่งแรงๆ กระทันหันโดยไม่จำเป็นเพื่อรถของคุณ

เลิกพฤติกรรมเหยียบเร่งแรงๆ กระทันหันโดยไม่จำเป็นเพื่อรถของคุณ

10.เปลี่ยนสายไฟหรือปลั๊กไฟเครื่องยนต์ต่างๆ

ข้อสุดท้าย เมื่อคุณตรวจเช็คความเรียบร้อยภายในห้องเครื่องของคุณแล้ว อีกสิ่งจำเป็นที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นที่กล่าวไปแล้ว คืออย่าลืมหมั่นตรวจสอบสภาพของสายไฟภายในห้องเครื่องด้วย เพราะอาจเกิดการเสียหายจากความร้อน ระยะเวลาในการใช้งาน อายุอานามของตัวรถ หรือแม้กระทั่งอาจมีหนูเข้าไปกัดสายไฟของบางระบบจนทำให้ตัวรถมีปัญหาได้ หากคุณพบว่าสายไฟอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ มีรอยบิ่น รอยแตก หรือขาด ก็ควรรีบทำการเปลี่ยนทันที ผู้เชี่ยวชาญยังแนะนำว่าควรเปลี่ยนหัวเทียน ทุกๆ 40,000 - 45,000 กิโลเมตร

สายไฟที่มีรอยรั่วอาจเกิดการช๊อตและนำไปสู่ปัญหาของเครื่องยนต์ได้

สายไฟที่มีรอยรั่วอาจเกิดการช๊อตและนำไปสู่ปัญหาของเครื่องยนต์ได้

10 เคล็ดลับที่เรานำมาฝากคุณในวันนี้ อาจมีประโยชน์กับคุณไม่มากก็น้อย และอย่าลืมบอกกับเราด้วยว่าวิธีการดูแลรักษารถของคุณ นอกจาก 10 ข้อนี้มีอะไรที่ควรทำหรือตรวจเช็คเป็นประจำอีก เขียนบอกเรา Chobrod ได้ที่ใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้เลย  

ดูเพิ่มเติม

>> ซื้อใหม่เหอะ! กับ 4 สัญญาณเตือนจากรถ บอกกับคุณว่าควรซื้อรถใหม่ได้แล้ว

>> เข้าโค้งอย่างไร…ไม่ให้หลุดโค้ง