แม้จะเป็นรถป้ายแดง สภาพเครื่องยนต์ และตัวรถระดับร้อยเปอร์เซ็นก็อาจเจอเหตุฉุกเฉินที่เกิดจากจุดที่คาดเดาไปได้หนึ่งเรื่อง จนทำให้รถไม่สามารถวิ่งไปยังปลายทางได้ นั่นคือเรื่องของยาง บังเอิญขับไปเหยียบของมีคมจนรั่วซึม คงเป็นเรื่องยากที่รถจะสามารถวิ่งต่อไปได้ จนเป็นที่มาในความจำเป็นของล้ออะไหล่ แต่ไฉนเลยผู้ผลิตรถยนต์ยุคนี้กลับไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้มาให้กับรถรุ่นใหม่ๆ ที่ล้อหมุนออกจากโรงงาน Chobrod จะพาไปหาคำตอบกัน ว่าทำไมล้ออะไหล่ ถึงไม่จำเป็นอีกต่อไปสำหรับรถยุคนี้
ว่าด้วยเรื่อง ล้ออะไหล่ที่หายไป
จากการศึกษาของสำนักข่าว AAA (องค์กรซึ่งไม่หวังผลกำไร เป็นผู้ให้บริการข้อมูลด้านยานยนต์ในอเมริกา) พบว่าเกือบหนึ่งในสามของรถรุ่นใหม่ๆ ที่วางจำหน่ายปี 2017 ในอเมริกา รถเหล่านั้นจะไม่มีล้ออะไหล่มาให้ด้วยเมื่อออกจากโรงงาน แม้ว่าจำนวนรถใหม่ป้ายแดงที่ไม่มีล้ออะไหล่จะน้อยลงแล้วในช่วงสองปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับปี 2015 แต่ผู้ใช้รถหลายคนอาจลืมที่จะใส่ใจในความสำคัญของเรื่องนี้ จนเปิดดูท้ายรถของตนเองมารู้หลังว่าไม่มีล้ออะไหล่ ทำให้ผู้ใช้รถจำนวนมากรู้สึกประหลาดกับเรื่องนี้มากไม่น้อย
ผู้ผลิตมักจะมีข้ออ้างดีๆ เพื่อใช้แก้ต่างในเรื่องนี้ ซึ่งอาจไม่ถูกใจผู้ใช้รถที่อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยางรั่ว ยาแบนอยู่ข้างทางมากนัก ไปดูเหตุผลว่าทำไมรถป้ายแดงสมัยนี้ ถึงเลือกที่จะไม่มีล้ออะไหล่มาให้ด้วยในรถ
ใช้ยาง Run Flat ทดแทนล้ออะไหล่
หากใครที่ซื้อรถ BMW รุ่นใหม่ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะพบว่า รถเหล่านั้นจะไม่มีล้ออะไหล่มาให้ เพราะรถของทาง BMW ใส่ยาง Run Flat มาให้แล้วซึ่งมีคุณสมบัติในการวิ่งต่อได้แม้ตัวยางจะรั่ว ซึม จนไม่มีแรงดันอากาศลมในล้อ สามารถวิ่งต่อไปได้ไกลอีกกว่า 80 กิโลเมตรหลังจากลมในยางเริ่มอ่อน ที่ระดับความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถขับต่อไปจนถึงร้านซ่อม อู่ซ่อมที่ใกล้ที่สุดได้ ความจำเป็นของล้ออะไหล่ในเรื่องนี้ก็หมดไปโดยปริยาย
รถจาก BMW จะเป็นยาง Run Flat มาให้จากโรงงาน
แต่ความเป็นจริงสำหรับเมืองไทย สถานบริการที่รองรับกับยางประเภทนี้อาจมีจำกัดแค่ในบางพื้นที่เท่านั้น ต่อให้วิ่งไปได้ไกลมากกว่านี้เมื่อลมยางหมด ผู้ใช้ก็อาจจะพบปัญหาจากการใช้งานได้อยู่ดี เพราะร้านซ่อมไม่สามารถซ่อมหรือปะยางประเภทนี้ได้ จึงไม่น่าเแปลกใจที่ผู้ใช้รถที่เป็นยาง Run Flat มาตั้งแต่โรงงานส่วนมากเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยาง จะเลือกเปลี่ยนยางธรรมดาที่ราคาถูกกว่า แต่ขับไปไหนก็สบายใจว่าร้านยางทั่วไปสามารถซ่อมบำรุงให้ได้
เหตุผลหลักๆ ของการที่รถไม่มีล้ออะไหล่มาให้ คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการประหยัดลดต้นทุนการผลิต ของเหล่าค่ายรถยนต์ ไม่เพียงแค่ล้ออะไหล่เท่านั้นที่ทางค่ายจะไม่ต้องให้มา แต่มันหมายถึงอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการเปลี่ยนล้ออะไหล่ด้วย ทั้งแม่แรงยกรถ ประแจขันล้อ เมื่อรถที่ขายไม่จำเป็นต้องให้อุปกรณ์เหล่านี้มาแล้วก็สามารถช่วยลดต้นทุนในการผลิตรถต่อคันได้อีกไม่น้อย
รถยนต์ฮุนได ค่ายรถยนต์อีกหนึ่งจ้าวซึ่งเป็นผู้นำเทรนด์นี้มาสู่รถที่จำหน่ายในตลาด อ้างว่าการที่ไม่มีล้ออะไหล่มาให้จากผู้ผลิตนั้น ไม่ใช่เป็นการประหยัดต้นทุนของทางบริษัทแต่อย่างใด แต่เพื่อเป็นการลดน้ำหนักให้กับตัวรถคือหัวใจสำคัญของเรื่องนี้ Michele Tinson ตัวแทนของทาง Hyunday ได้อธิบายเหตุผลในเรื่องนี้ผ่านทางอีเมลว่า “การทดแทนด้วยอุปกรณ์ซ่อมแซมยางที่ให้มาแทนล้ออะไหล่ จะช่วยลดน้ำหนักกว่า 25 ปอนด์ เรื่องต้นทุนค่าใช้จ่ายหาได้เป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตรถของทาง Hyundai ไม่ โดยทางวิศวกรนักออกแบบต่างพยายามที่จะหาวิธีเพื่อให้รถมีประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ และเรื่องของน้ำหนักตัวรถก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญด้วยเช่นกันที่จะช่วยให้ตัวรถประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่า” Tinson กล่าว
อีกนัยหนึ่งเมื่อไม่มีล้ออะไหล่มาให้คือการลดน้ำหนักโดยรวมของตัวรถ จะช่วยเพิ่มความประหยัดเชื้อเพลิงได้จริง ซึ่งการทดสอบพบว่าเมื่อไม่มีล้ออะไหล่อยู่ท้ายรถ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความประหยัดน้ำมันได้ 1% เท่านั้น แม้ตัวเลขอาจจะไม่มากมายอะไร แต่ก็สามารถล่อให้ผู้ผลิตหันมาใช้มาใช้การใส่อุปกรณ์ซ่อมแซมปะยางฉุกเฉินแทนล้ออะไหล่ได้ เพราะความประหยัดน้ำมันถือเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในเรื่องของการตลาด สามารถนำไปใช้อวดอ้างโฆษณาตัวเลขอัตราการกินน้ำมันในโบวชัวร์ก็น้อยกว่าด้วย
พื้นที่ใช้สอยในด้านอื่นมากขึ้น
ในต่างประเทศจากความนิยมของรถไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า การกำจัดล้ออะไหล่ออกไปให้พ้นจากตัวรถเพื่อทดแทนด้วยการวางแบตเตอรี่คือสิ่งที่ผู้ผลิตเลือกทำ การที่จะออกแบบรถยนต์เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอแก่การวางแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไหนจะต้องไม่ไปรบกวนพื้นที่ใช้สอยของผู้โดยสารอีก ดังนั้นการใช้พื้นที่เก็บล้ออะไหล่เพื่อเป็นที่สถิตของแบตเตอรี่จึงเป็นคำตอบสุดท้ายสำหรับรถยนต์ไฮบริด และรถไฟฟ้า
พื้นที่เก็บล้ออะไหล่ อาจเป็นที่วางแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้าในอนาคต
มันอาจไม่ใช่ปัญหาโลกแตกสำหรับรถยนต์ขนาดใหญ่ที่จะวางทั้งแบตเตอรี่ และล้ออะไหล่ให้ด้วยในเวลาเดียวกัน แต่ถ้าเป็นรถไฮบริด หรือรถไฟฟ้าไซส์เล็กละ? รถที่ขนาดกะทัดรัด พื้นที่ต่างๆ ของรถถูกออกแบบมาทำหน้าที่เฉพาะเจาะจง การจะวางทั้งแบตฯ ลูกโตๆ กับล้ออะไหล่ไปพร้อมกันคงเป็นไปไม่ได้ ยังไงผู้ผลิตก็ต้องเลือกที่จะถอดล้ออะไหล่ออกไปจากสารระบบแทนอยู่แล้ว
ไม่มีล้ออะไหล่ แล้วโรงงานให้อะไรมาแทน?
ในรถยุโรปจะให้ยาง Run Flat สำหรับกรณีฉุกเฉินเมื่อยางรั่ว ซึมให้สามารถขับไปต่อได้ แต่ในรถญี่ปุ่นใหม่ๆ บางรุ่นที่ราคาไม่แพงนักอย่าง Suzuki Swift, Toyota Yaris จะให้ใช้ยาง Run Flat คงทำให้ราคารถกระโดดไปไกลจนขายไม่ออก ไม่มียาง Run Flat แล้วก็ไม่ได้มีล้ออะไหล่มาให้สำหรับเปลี่ยนด้วย
ชุดซ่อมยางฉุกเฉินลักษณะ
ทางค่ายผู้ผลิตจะให้ชุดซ่อมยางฉุกเฉินลักษณะเป็นสเปร์ยปะรูลมยางรั่วมาแทน ซึ่งเมื่อมองถึงการใช้งานจริงแล้วนั้นตัวสเปร์ยปะยางรั่วมีข้อจำกัดในการใช้งาน ไม่สามารถปะแผลรั่วใหญ่ๆ ได้ ใช้ได้กับเพียงรูรั่วเล็กน้อยเท่านั้น เวลายางแบนเนื่องจากถูกของแหลมมีคมทิ่มเข้าที่ยาง เช่นถ้าเป็นตะปูก็ไม่ต้องถอนตะปูออก เขย่ากระป๋องเพื่อให้น้ำยาผสมกัน สวมหัวฉีดสเปรย์นี้เข้าที่ช่องเติมลม แล้วกดให้น้ำยาไหลเข้าไป ตัวน้ำยาจะมีส่วนผสมของยางดิบเพื่อเข้าไปอุดรอยรั่ว และส่วนแรงดันลมในกระป๋องก็จะไปดันยางให้มีลม วิ่งได้นานพอที่จะขับไปหาร้านซ่อมปะยางที่รั่วได้ กระป๋องหนึ่งใช้ได้กับยางหนึ่งเส้นที่รั่ว
แม้เทคโนลีจะก้าวล้ำไปไกลแค่ไหน ยางที่วิ่งได้อยู่แม้ลมยางจะอ่อนหรือจะเป็นอุปกรณ์สำหรับซ่อมปะรูรั่วที่ให้มากับรถรุ่นใหม่ๆ ซึ่งทางผู้ผลิตมองว่าช่วยในการประหยัดเชื้องเพลิงได้มากกว่า เมื่อเทียบกับการต้องบรรทุกล้ออะไหล่หนักๆ ให้รถแบกไปทุกที่ แต่ความเป็นจริงในการใช้งานรถยนต์ ความอุ่นใจว่าด้วยการขับให้ไปถึงที่หมายนั้นเป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถต้องการมากที่สุด ผู้ใช้รถหลายคนจึงมองว่าการมีล้ออะไหล่ไว้ท้ายรถเมื่อขับไปทุกเส้นทางจะอุ่นใจได้มากกว่า โดยเฉพาะถ้าขับออกต่างจังหวัด ไม่รู้แหล่งซ่อม ไม่คุ้นชินเส้นทางว่าจะต้องเจอกับสภาพถนนแย่ขนาดไหน แต่ผู้ผลิตรถยนต์กลับมองต่างออกไป ที่ทำได้สำหรับผู้ใช้รถคือการหาซื้อล้ออะไหล่เพิ่มมาติดรถไว้เองเมื่อยามต้องขับไปแปลกที่น่าจะอุ่นใจที่สุด
ดูเพิ่มเติม