ลมดูดจากรถคันหน้า ภาวะอันตรายที่ต้องระวังเมื่อยามขับขี่

ลมดูดจากรถคันหน้า ภาวะอันตรายที่ต้องระวังเมื่อยามขับขี่

ลมดูด มีประโยชน์ในด้านการแข่งขัน

“รถเล็กหรือมอเตอร์ไซค์อย่าไปขับใกล้รถใหญ่ เดี๋ยวมันจะดูดเอา!” คำเตือนจากผู้ใหญ่ที่หลายคนอาจเคยได้ยิน นัยยะความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ลมดูด หากมองตัวอย่างเช่นในกีฬามอเตอร์สปอร์ตทุกประเภทการแข่งขันทั้งสองล้อ สี่ล้อ ลองสังเกตที่จังหวะแซงในช่วงทางตรงของคันหลัง จะขับจี้คันหน้าอยู่ในช่องทางเดียวกัน รถคันหลังจะได้รับแรงดูดจากลมดูดที่รถคันหน้าวิ่งผ่านมา ช่วยทำให้รถวิ่งได้เร็วขึ้น จนเข้าไปให้ใกล้คันหน้ามากที่สุด จากนั้นรถคันหลังก็จะเปลี่ยนเลนเพื่อแซงไปในที่สุด ไม่บ่อยครั้งนักที่การแข่งขันระดับโลก รถแต่ละคันความเร็วสูสีจะสามารถแซงกันได้โดยไม่อาศัยเทคนิคลมดูดหรือ Slipstream นี้ นั่นหมายความว่าถ้าจะแซงง่ายๆ โดยวิ่งแข่งกันคนละเลนช่องทาง คนละไลน์ไปเลย รถที่แซงได้จะต้องแรงกว่ารถคันหน้ามากจริงๆ

ในการแข่งขัน รถคันหลังจะได้รับแรงดูดจากลมดูดที่รถคันหน้าวิ่งผ่าน แหวกไปให้

>> เลือกถนนแบบไหน ช่วยหัดขับรถให้เป็นเร็ว

>> ทำยังไงดีเมื่อรถลื่นไถลตอนฝนตก

เทคนิค Slipstream ของการแข่งขันในกีฬาถ้าอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ ทำไมรถที่วิ่งตามหลังมาถึงวิ่งได้เร็วขึ้น คงต้องไปมองที่เรื่องของ กลศาสตร์ของไหล ศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องพฤติกรรมการเครื่องที่ของไหลทั้งของเหลวและก๊าซ จะหมายความว่าการที่วัตถุพุ่งแหวกอากาศมาด้วยความเร็ว ในที่นี้คือรถที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ทำให้รถคันด้านหลังที่ตามมาในระยะประชิดไม่ต้องรับภาระแรงต้านจากอากาศ และเกิดช่องว่างระหว่างรถ 2 คัน ซึ่งถือเป็นช่องว่างที่ไม่มีแรงต้านของมวลอากาศ และมีความดันอากาศต่ำอีกแรงเปรียบเสมือนมาเป็นแรงดูดช่วยให้รถคันหลังวิ่งได้ไวขึ้นนั่นเอง

แต่ขับทางไกลก็ต้องระวังลมดูดจากรถใหญ่

รถเล็กๆ เพียงแค่ขับสวนเลนกันกับพวกรถใหญ่ๆ สิบล้อหรือรถพ่วงที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ก็รู้สึกได้ว่าตัวรถโครงเครง เป็นที่มาของคำเตือนสำหรับมือใหม่หัดขับรถทั้งหลายว่าควรขับให้ห่างรถใหญ่ไว้จะดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าขับตามรถใหญ่ ผมกระทบจะมีมากขึ้นจนส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ รถบรรทุกซึ่งเป็นวัตถุขนาดใหญ่มีนำ้หนัก มีมวลมาก และสูง เมื่อวิ่งแหวกอากาศไปด้วยความเร็ว จะยิ่งทำให้เกิดช่องว่างระหว่างคันหลังมากกว่าการขับตามรถที่ไซส์ขนาดใกล้เคียงกัน นั่นก็หมายความว่ารถที่ขับตามมาไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สี่ล้อ หรือมอเตอร์ไซค์สองล้อ ตัวรถมีน้ำหนักไม่มากก็มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบของแรงนี้จนเกิดอุบัติเหตุจากลมดูด แรงดูดที่ดูดเอาตัวรถเข้าไป ยิ่งถ้าขับจี้ ชิดเกินไปก็อาจที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะเหยียบเบรคไม่ทันจากแรงลมดูดกระทันหันนี้

รถใหญ่มวลมาก ยิ่งทำให้ลมดูดมีผลกระทบต่อรถเล็กๆ ได้ง่าย

เมื่อรู้ผลกระทบของลมดูดอย่างนี้แล้ว การใช้รถของคุณโดยเฉพาะเส้นทางที่มีรถใหญ่ รถบรรทุกเยอะๆ ทางที่ดีควรเลี่ยงที่จะไปอยู่ใกล้ๆ รถเหล่านั้นดีกว่า อย่าไปขับไล่ ขับจี้รถเหล่านั้นจะดีที่สุด โดยเฉพาะรถเล็กๆ อย่างอีโค คาร์ ที่น้ำหนักตัวรถไม่มาก ผลกระทบจากแรงดูดอาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่ายกว่าอีกด้วย ฝากไว้กับเพื่อนๆ ทุกคนที่ใช้รถใช้ถนน

ดูเพิ่มเติม

>> เทคนิคยูเทิร์นกลับรถอย่างไรไม่ให้กินเลนและไม่เป็นอันตราย

>> เทคนิคการขับ เมื่อรถน้ำมันกำลังจะหมด