ถ้าช่วงนี้ใครที่ดูโฆษณาของ Mazda ทั้ง Mazda 2,3 อาจจะเคยได้ยินกับคำว่า “G-Vectoring Control” หรือ GVC ผ่านหูกันมาบ้าง ไม่มากก็น้อย กับระบบที่ช่วยในการทำงานของช่วงล่างให้ควบคุมได้ง่ายกว่า ด้วยการลดแรงบิดของเครื่องยนต์ และกำลังจะมาอยู่ใน Mazda CX-5 โฉมล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวช่วงสิ้นปี
การโปรโมทนำเสนอของ Mazda เกี่ยวกับระบบนี้ที่พูดบ่อยลงในโฆษณารถทุกรุ่นของค่าย จนเกิดคำถามว่าระบบนี้มันมีอะไรดีนักหนา ถึงขนาดต้องการนำเสนอพูดย้ำแล้วย้ำอีก คล้ายกับตอนที่ Mazda โปรโมทเรื่อง Skyactive แสดงว่าระบบนี้คงมีดีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ระบบคำนวนแรงบิด ให้เหมาะกับความเร็วที่รถใช้เพื่อช่วยให้การขับขี่ง่ายกว่า
ในการทำงานของระบบนี้ง่ายๆ ก็คือ เป็นระบบที่ช่วยลดแรงบิดของตัวเครื่องยนต์ในจังหวะที่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ทำให้การควบคุมรถทำได้ง่ายขึ้น อาศัยหลักการทำงานที่ไม่ซับซ้อนคล้ายกับระบบควบคุมแรงบิดเครื่องยนต์บนรถยนต์รุ่นอื่นๆ แต่สิ่งที่ Mazda แตกต่างคือการจำกัดแรงบิดให้ลดลงไม่เกิน 30 นิวตันเมตร และจำนวนแรงบิดที่ลดลงมาจากการคำนวนให้เหมาะสมกับความเร็ว ความรู้สึกที่ผู้ขับจะรู้และสัมผัสได้ในแรงบิดที่น้อยลงจนแทบไม่รู้ถึงความแตกต่าง แต่ก็เพียงพอที่จะช่วยให้การเข้าโค้งสามารถทำได้ดีขึ้น
ผลการทดสอบคือคำตอบที่ช่วยทำให้เห็นถึงข้อดีของระบบนี้ได้ชัดเจนขึ้น เมื่อเปรียบเทียบการขับขี่ของรถคันที่เปิดระบบ GVC และไม่ได้เปิด ผลที่ได้ปรากฎว่าการแต่งพวงมาลัยตอนขับมีน้อยลงในระหว่างที่เข้าโค้งเมื่อเปิดใช้ระบบ G-Vectoring Control
การแต่งพวงมาลัยมีน้อยลงเมื่อเปิดระบบ GVC
ระบบนี้ได้ประจำอยู่แล้วบนรถรุ่น Mazda 2,3. และกำลังจะถูกนำมาใช้ใน SUV รุ่นล่าของค่ายอย่าง CX-5 ที่กำลังจะเปิดตัวช่วงสิ้นปีที่จะถึงนี้
Copyright © 2016 chobrod.com. สงวนลิขสิทธิ์