บนหนัง Sci-Fi ที่ถ่ายทอดความเป็นโลกอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Star War, Fifth Element, Valerian and the City of a Thousand Planet ฯลฯ หลายๆ คนคงน่าจะเคยเห็นภาพเมืองที่เต็มไปด้วยยานเล็กยานน้อยบินผ่าน สำหรับการเดินทางของประชากรยุคหน้า แล้ว ณ ปัจจุบันด้านยานยนต์ที่พัฒนาต่อเนื่องมาโดยตลอด พร้อมแล้วหรือยังที่จะเป็นจุดเริ่มต้นในการมาของ “รถยนต์บินได้”
“รถยนต์บินได้” นวัตกรรมเพ้อฝัน ณ วันที่เริ่มต้น
ในขณะที่หลายบริษัทกำลังมุ่งหน้าพัฒนายานยนต์เพื่อการเดินทางแห่งโลกอนาคต ไอเดียใหม่ๆในยนตกรรมที่ไว้สำหรับเดินทางบนภาคพื้นดิน อาจไม่ใช่คำตอบอีกแล้วกับความหนาแน่นบนท้องถนน นำไปสู่การพัฒนารถยนต์ที่สามารถบินได้ ในหลายๆ บริษัทและโครงการมากมายที่เกี่ยวข้อง เช่น Uber เปิดตัวโดรนต้นแบบขนาดใหญ่คล้ายกับรถบินได้ที่วางไว้สำหรับใช้เพื่อการโดยสาร นำล่องไปสู่โปรเจค Flying Taxi, บริษัท AeroMobil ผู้ผลิตรถกึ่งอากาศยานจากสโลวาเกียก็เตรียมจำหน่ายรถบินได้ของบริษัทในปี 2020 ให้แก่พลเรือน (กระเป๋าหนัก) ทั่วไป แต่ทว่าภายใต้แนวคิดอันสุดโต่งเพื่อการเดินทางให้ดีขึ้นไม่ว่าจะสำหรับ Taxi หรือส่วนบุคคล CEO ของ Tesla, Elon Musk กลับมองต่าง และออกตัวไม่สนับสนุนไอเดียดังกล่าวอย่างชัดเจน
“รถบินได้หรืออะไรก็ตามที่ใช้เรียกบินได้อยู่หลายร้อยลำลอยอยู่กลางอากาศเหนือหัวของเราทุกคน แน่นอนว่าจะต้องสักคนแหละ ที่ไม่ดูแลรักษารถบินได้ของพวกเขาอย่างเหมาะสม และนั่นอาจทำให้เกิดอันตราย มีชิ้นส่วนร่วงหล่นลงมาตัดหัวใครสักคนที่อยู่ข้างล่าง ที่เดินอยู่ตามท้องถนน ไม่ต่างกับแท่นประหารกีโยติน” Elon Musk ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tesla ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ร้อนแรงที่สุดในขณะนี้ กล่าว
Musk เตือนเกี่ยวกับรถบินได้ว่า เสี่ยงคล้ายทำให้คนข้างล่างต้องอยู่กับเครื่องกิโยตีน
ว่าไปแล้วมันก็จริงอย่างที่ Musk กล่าว เพราะขนาดรถยนต์ที่วิ่งอยู่ตามท้องถนนบนพื้นราบนั้น เรายังเห็นข่าวอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่เกิดจากการไม่ดูแลรักษาสภาพรถให้พร้อมใช้งาน ยางระเบิดบ้าง ไฟลุกท่วมตัวรถบ้าง ไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งล้วนมาจากขาดการดูแลในตัวผู้เป็นเจ้าของรถ รวมไปถึงเรื่องของความประมาทซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนทุกวันนี้ ทั้งหมดทั้งมวลล้วนแต่ทำให้ทั้งตัวผู้ขับขี่เอง ผู้โดยสารในรถ และคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ใช้ถนนร่วมหรือใช้ทางเท้า ได้รับผลกระทบทั้งหนักเบา แล้วประสาอะไร ยิ่งถ้าความเสี่ยงเหล่านั้นขึ้นไปอยู่บนฟ้า และแรงโน้มถ่วงเข้ามาเพิ่มความเสี่ยงยิ่งขึ้นอีก
รถบินได้สำหรับ Musk อาจมองว่าไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาการจราจรที่ดีที่สุด แต่สำหรับเขาวิธีที่จะช่วยให้ระบบขนส่งมวลชนดีขึ้น และเกิดผลดีกับการจราจรกลับเป็นการเดินทางใต้ดิน ที่ตัวเขาไปเจ้าของแนวคิด Hyperloop การเดินทางความเร็วสูงผ่านท่อสุญญากาศ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดกว่า 965 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบริษัทในเครือของ Musk เอง The Boring Company ก็ทำธุรกิจขุดเจาะใต้ดินสำหรับการเดินทางในเมืองอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม:
>> คนเชื่อมต่อรถ เทรนด์โลก ใกล้ความจริง! “Connected Car รถยนต์อัจฉริยะ”
>> มาดูรถไร้คนขับของ Waymo ที่ทิ้งยักษ์ใหญ่แบบไม่เห็นฝุ่น
โครงการ Hyperloop ที่ Elon Musk มองว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับขนส่งมวลชนอนาคต
ถึงอย่างไรกับคำโต้แย้งที่บอกถึงข้อเสียในรถยนต์บินได้จากบุคคลที่มีอิทธิพลต่อด้านนวัตกรรมโลกอย่าง Elon Musk จะด้วยความเป็นห่วงถึงอันตรายในการใช้งานจริงๆ หรือเพื่อหวังตัดขาคู่แข่งให้คนสนใจในนวัตกรรมของตัวเองมากกว่า ในฝั่งด้านผู้พัฒนาที่มั่นใจว่า รถยนต์บินได้ คือทางเลือกใหม่สำหรับการเดินทางทั้งส่วนบุคคล และขนส่งมวลชน ก็ยังมุ่งเน้นเพื่อพัฒนาที่จะให้รถยนต์บินได้สามารถบินได้ไกล และปลอดภัยสำหรับใช้ทั่วไปมากที่สุด แล้วตอนนี้มีรถบินได้รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้างไปดูกัน
Terrafugia TF-X
Terrafugia ผู้พัฒนารถยนต์บินได้ในสหรัฐฯ ซึ่งถูกทาง Volvo ซื้อไป วางแผนที่จะเตรียมเปิดตัว Terrafugia TF-X ในปี 2019 มากับพลังขับเคลื่อนด้วยไฮบริด พร้อมใบพัดที่ปีกแบบเฮลิคอปเตอร์ข้างละ 300 แรงม้า บินได้ไกลถึง 644 กิโลเมตร พร้อมเพดานบินอยู่ที่ 3,048 เมตร
Terrafugia เมื่อถูกทาง Volvo ซื้อไปก็จะทำให้ Volvo เป็นค่ายรถยนต์แรกที่จะมีรถบินได้
The Vehicle
จาก AeroMobil ตัวรถบินได้ที่กล่าวไปข้างต้นซึ่งที่จริงมีแผนที่จะส่งตัวรถบินได้ AeroMobil 3.0 ให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ปี 2017 แล้ว แต่ต้องเลื่อนออกไปเพราะเจอกับข่าวฉาว หลังจากตัวรถที่ทำการทดสอบเกิดโหม่งโลก ดีที่ผู้ขับขี่รวมทั้งเป็นผู้คิดค้นพัฒนา “สเตฟาน ไคล์น” ดีดตัวออกมาได้ทัน ในเรื่องเครื่องยนต์เป็นเครื่องยนต์ Rotax 912 สำหรับภาคพื้นดิน ทำความเร็วบนพื้นสูงสุดอยู่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 12.5 กิโลเมตรต่อลิตร สามารถวิ่งได้ระยะทาง 875 กิโลเมตร และทางอากาศจะทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งบินได้ไกลถึง 700 กิโลเมตร
เสี่ยงที่จะไม่ได้ไปต่อแล้วสำหรับ AeroMobil ที่ทำการทดสอบแล้วผิดพลาด
ดูเพิ่มเติม:
>> ตัวย่อภาษาอังกฤษในระบบรถยนต์คืออะไรบ้าง?
>> แท็กซี่ไร้คนขับ "Silent revolution on the road"
PAL-V Liberty
ผสมผสานความเป็นรถยนต์กับเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์เอาไว้สำหรับ PAL-V Liberty คันนี้ ที่นอกจากจะมีดีในความเป็นรถยนต์บินได้แล้ว PAL-V Liberty ยังถูกออกแบบมาถูกต้องตามกฎหมายความปลอดภัยสากลของระบบการสัญจรทางอากาศอีกด้วย มีการรับรองถูกต้องตามกฎหมายทุกข้อ กับเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นขนาด 197 แรงม้า พร้อมเพดานบินสูงสุดอยู่ที่ 3,500 เมตร ความเร็วสูงสุดทำได้อยู่ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถบินทำระยะทางได้อยู่ที่ 500 กิโลเมตร
รถบินได้ PAL-V Liberty กระทัดรัด ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมใช้งาน
ทั้งหมดของรถบินได้นี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่าง ยังมีอีกหลายรุ่นหลายแบบที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขของคำว่า “รถบินได้” ที่น่าสนใจ แม้ ณ ปัจจุบันเวลาใครจะว่าเป็นเรื่องแปลก เรื่องบ้า ก็คงไม่ผิด ไม่ต่างกับเมื่อร้อยปีก่อนที่สองพี่น้องตระกูลไรท์ ถูกมองว่าบ้าเช่นกัน จนได้กลายเป็นตำนานของผู้คิดค้นเครื่องบินของโลก ทุกนวัตกรรมล้วนมีจุดเริ่มต้น นำไปสู่การพัฒนาต่อยอด เพื่อหวังแก้ไข้ปัญหา และเมื่อในตอนนี้ปัญหาคือเรื่องของการจราจรติดขัดหนาแน่น หลายฝ่ายหลายความเห็นที่แตกต่าง ทั้ง Elon Musk มองว่าให้หันไปใช้การเดินทางบนท่อใต้ดินความเร็วสูงแทนจะปลอดภัยกว่า และหลายฝ่ายก็ต่อยอดจากพาหนะที่ใช้เดินทาง ของผู้คนส่วนใหญ่ที่เรียกว่ารถยนต์ จนมาเป็นคำว่า “รถยนต์บินได้” ที่คล้ายกับเป็นเครื่องบินส่วนตัวเข้าไปทุกที ในกรณีที่เกิดมีการใช้อย่างแพร่หลายคงต้องมีการควบคุม สอบใบอนุญาตกันเข้มข้นกว่านี้แน่นอน แต่ไม่ว่าวิธีไหนจะได้รับความนิยมในโลกอนาคต ก็ล้วนมาจากจุดหมายเดียวกันทั้งสิ้น ก็เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษยชาติดีขึ้นนั่นเอง
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย