มารู้จักกับ Torque Vectoring Control

ประสบการณ์ใช้รถ | 30 ม.ค 2561
แชร์ 0

chobrod ขอเสนอระบบแรงบิดที่ ford นำไปพัฒนาและค่อยๆ แพร่สู่รถรุ่นอื่นๆ

Ford Focus 2018
Ford Focus 2018

Dynamic Torque Vectoring เป็นเทคโนโลยีที่ Ford ได้พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างการควบคุมรถให้ได้ดั่งใจ และทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน all-wheel-drive ที่ซับซ้อนเพื่อสร้าง traction ในระบบขับเคลื่อนเมื่อการควบคุมล้อหลังสัมพันธ์กับความเร็วในการเข้าโค้งที่สูงมาก เช่นเดียวกับความคล่องตัวและ grip

ระบบนี้คืออะไรและทำงานอย่างไร

Torque Vectoring Control เป็นระบบคอมพิวเตอร์ขั้นสูงที่บรรจุอยู่ในรถสมรรถนะสูงหลายรุ่น ฟังก์ชันนี้ใช้ประโยชน์จากระบบเบรกเพื่อย้ำผลของระบบ torque vectoring differential system ตัวระบบ torque vectoring นั้นไม่แทรกแซงการเคลื่อนไหวในการขับหรือเบรกที่แบกตัวรถอยู่ในขณะใช้งาน (รวมถึงการเร่งและลดความเร็ว) เมื่อแรงบิดถูกใช้ในล้อหน้าของรถ ระบบควบคุมจะทำงานเพื่อเพิ่มแรงตอบสนองในพวงมาลัย

Dynamic Torque Vectoring จะอยู่ในแพ็คคลัทช์ไฟฟ้าซึ่งอยู่ทางซ้ายและขวาของหน่วยการขับเคลื่อนล้อหลัง แพ็คคลัทช์มีหน้าที่จัดการแยกแรงบิดจากหน้าไปหลังและซ้ายไปขวาระหว่างเพลาหลัง เพื่อส่งผลต่อการควบคุมและความแข็งแรงเมื่อเข้าโค้ง ระบบนี้จะอ่านสภาพถนนและสถานการณ์ในการขับขี่เพื่อแบ่งแรงบิดรอบๆ ตัวรถ สอดส่องสถานะ (ประกอบด้วย มุมการเลี้ยว, YAW, ความเร็ว และการเร่งความเร็วเพื่อระบายอากาศ) วินาทีละ 100 ครั้งด้วยเซนเซอร์อัจฉริยะในรถ แรงบิดทั้งหมดจะถูกส่งไปที่เพลาหลัง และต่อจากนั้นจะถูกส่งไปแต่ละล้อ

ตัวระบบจะเริ่มทำงานเมื่อตัวรถเร่งความเร็วผ่านโค้ง และทำงานโดยใช้การเบรกบางส่วนเข้าไปที่ล้อหน้าใน ทำให้แรงบิดถูกส่งไปที่ล้อหลังนอกมากขึ้น โดยเฉพาะเพื่อสร้าง grip บนถนนที่สภาพนั้นๆ โดยเฉพาะ เทคโนโลยีทำให้แรงบิดเครื่องยนต์สามารถจัดสรรกำลังเบรกและกำลังในการขับสู่ล้อแต่ละล้อ อยู่ที่ว่าล้อนั้นต้องการมากเท่าไร นวัตกรรมนี้ทำให้ผู้ใช้รถเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย (โดยกำจัดอาการล้อหมุน) แต่นุ่มนวลและว่องไว

ว่ากันง่ายๆ ก็คือ ตัวรถและระบบสามารถคาดการณ์ได้ว่าล้อจะหมุนเมื่อไร และจะใช้เบรกในล้อนั้นเมื่อความเร็วคงที่ทุกล้อ ผู้ใช้สามารถเดินคันเร่งต่อไปได้เมื่อใช้ความเร็วสูง วิ่งบนถนนเปียกในสภาพอากาศย่ำแย่ และต้องเข้าโค้งอันตราย

ระบบนี้พัฒนาสมรรถนะได้อย่างไร

ระบบ Torque Vectoring ทำให้ผู้ใช้ควบคุมความเร็วและตัวรถให้คงที่ได้ ไม่ว่าถนนจะเป็นอย่างไร ระบบถูกออกแบบเพื่อให้ตัวรถตอบสนองต่อผู้ใช้ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เปลี่ยนแปลงได้มากขึ้น ระบบนี้ใช้ traction แนวเส้นตรงคล้ายกับระบบขับเคลื่อน all-wheel-drive ตามปกติ แต่มีความสามารถในการคุมรถเหมือนรถขับเคลื่อนล้อหลัง อาการเบรกสึกจะลดลงเพราะแรงบิดถูกนำไปใช้โดยตรงในล้อที่ต้องการ แทนที่จะต้องพึ่งระบบเบรกเพืื่อลดความเร็วลด ความเร็วและสมรรถนะจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องผ่านการควบคุมที่มากขึ้น ความรู้สึก การควบคุมรถ และ grip บนถนน

Torque Distribution
ตัวอย่างการจัดสรรแรงบิดใน Ford Focus RS

อ่านเพิ่มเติม: