ป้ายและสัญลักษณ์จราจร ประเภทป้ายเตือน

ประสบการณ์ใช้รถ | 7 มิ.ย 2566
แชร์ 0

ป้ายและสัญลักษณ์จราจรคือสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนควรรู้ เพื่อให้สามารถทำตามได้ถูกต้อง ไม่ฝ่าฝืนจนสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น แล้วแต่ละป้ายมีความหมายว่าอะไร มาดูกัน

ป้ายสัญลักษณ์จราจร คือ ป้ายที่ใช้แสดงสัญลักษณ์ จราจร ช่วยควบคุมพฤติกรรม เตือนผู้ขับขี่ให้ระวัง และให้คำแนะนำในการเดินทาง แบ่งออกเป็น 3 หมวด ประกอบด้วย ป้ายบังคับ ป้ายเตือน และป้ายแนะนำ ซึ่งแต่ละป้ายจะมีลักษณะแตกต่างกัน 

  • ป้ายสัญลักษณ์ จราจร ประเภทบังคับ : พื้นสีขาว ขอบสีแดง บังคับว่าต้องปฏิบัติตามเท่านั้น
  • ป้าย สัญลักษณ์ จราจร ประเภทเตือน : พื้นสีขาว ขอบสีดำ เตือนให้ระวังทางข้างหน้า
  • ป้าย สัญญาณ จราจร ประเภทแนะนำ : ป้ายแนะนำการขับขี่และการเดินทาง เช่น ป้ายบอกระยะทาง ป้ายบอกความเร็ว 

ในบทความนี้ จะแนะนำเกี่ยวกับป้ายสัญลักษณ์จราจร ประเภทเตือน เบื้องต้น จะมีอะไรบ้าง แต่ละป้ายมีความหมายว่าอย่างไร มาดูกันเลย !

สัญลักษณ์จราจรภาษาอังกฤษ เรียกว่า Traffic signs
สัญลักษณ์จราจรภาษาอังกฤษ เรียกว่า Traffic signs 

ป้าย สัญลักษณ์ จราจร ประเภทเตือน

ป้ายและสัญลักษณ์จราจร
ป้ายและสัญลักษณ์จราจร ลำดับ 1-10

1. ทางโค้งซ้าย : ทางข้างหน้าโค้งไปทางซ้าย ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

2. ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวซ้าย : ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมีแคบไปทางซ้าย ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

3 . ทางโค้งขวา : ทางข้างหน้าโค้งไปทางขวา ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

4. ทางโค้งรัศมีแคบเลี้ยวขวา : ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมีแคบไปทางขวา ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

5. ทางโค้งกลับ เริ่มซ้าย : ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งไปทางซ้ายแล้วกลับ ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

6. ทางโค้งกลับรัศมีแคบ เริ่มซ้าย : ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมีแคบไปทางซ้ายแล้วกลับ ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

7. ทางโค้งกลับ เริ่มขวา : ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งไปทางขวาแล้วกลับ ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

8. ทางโค้งกลับรัศมีแคบ เริ่มขวา : ทางข้างหน้าเป็นทางโค้งรัศมีแคบไปทางขวาแล้วกลับ ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

9. ทางคดเคี้ยว เริ่มซ้าย : ทางข้างหน้าเป็นทางคดเคี้ยว โดยเริ่มคดไปทางซ้าย ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

10. ทางคดเคี้ยว เริ่มขวา : ทางข้างหน้าเป็นทางคดเคี้ยว โดยเริ่มคดไปทางขวา ให้ชะลอความเร็วรถ และเดินรถชิดด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

ป้ายและสัญลักษณ์จราจร
ป้ายและสัญลักษณ์จราจร ลำดับ 11-20

11. ทางเอกตัดกัน : ทางข้างหน้าเป็นทางแยกตามลักษณะสัญลักษณ์ ซึ่งอาจแสดงลักษณะสัญลักษณ์ทางเอกใหญ่กว่าทางโท ให้ขับรถให้ช้าลง และเดินรถด้วยความระมัดระวัง 

12. ทางเอกตัดกัน รูปตัววาย : ทางข้างหน้าเป็นทางแยกรูปตัววาย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

13. ทางเอกตัดกัน รูปตัวที : ทางข้างหน้าเป็นทางแยกรูปตัวที ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

14. ทางโทแยกทางเอก ทางขวา : ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางขวา ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

15. ทางโทแยกทางเอก ทางซ้าย : ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางซ้าย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

16. ทางโทแยกทางเอกเยื้องกัน เริ่มขวา : ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางขวา และหลังจากนั้นมีทางโทแยกไปทางซ้าย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

17. ทางโทแยกทางเอกเยื้องกัน เริ่มซ้าย : ทางข้างหน้ามีทางโทแยกไปทางซ้าย และหลังจากนั้นมีทางโทแยกไปทางขวา ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

18. ทางโทเชื่อมทางเอกจากขวา : ทางข้างหน้ามีทางโทเข้ามาเชื่อมด้านขวา ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

19. ทางโทเชื่อมทางเอกจากซ้าย : ทางข้างหน้ามีทางโทเข้ามาเชื่อมด้านซ้าย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

20. ทางโทแยกทางเอกทางซ้าย รูปตัววาย : ทางข้างหน้ามีทางโทแยกจากทางเอกไปทางซ้ายรูปตัววาย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร
​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร ลำดับ 21-30

21. ทางโทแยกทางเอกทางขวา รูปตัววาย : ทางข้างหน้ามีทางโทแยกจากทางเอกไปทางขวารุปตัววาย ให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง 

22. วงเวียนข้างหน้า : ทางข้างหน้าจะเป็นทางแยกมีวงเวียน ให้ขับรถให้ช้าลงและขับรถเข้าสู่วงเวียนด้วยความระมัดระวัง ห้ามมิเลี้ยวรถไปทางขวา หรือห้ามกลับ 

23. ทางแคบลงทั้งสองด้าน : ทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่านทั้งสองด้าน ผู้ขับรถต้องชะลอความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น ขณะที่รถผ่านทางแคบ ผู้ขับรถจะต้องระวังมิให้รถชนหรือเสียดสีกัน 

24. ทางแคบด้านซ้าย : ทางข้างหน้าด้านซ้ายแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่าน ผู้ขับรถต้องชะลอความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น 

25. ทางแคบด้านขวา : ทางข้างหน้าด้านขวาแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่าน ผู้ขับรถต้องชะลอความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น 

26. ช่องจราจรปิดด้านซ้าย : ช่องทางจราจรข้างหน้าจะปิดงดการสัญจรในทางด้านซ้าย ให้ผู้ขับรถเปลี่ยนใช้ช่องทางที่เหลืออยู่ด้วยความระมัดระวัง 

27. ช่องจราจรปิดด้านขวา : ช่องทางจราจรข้างหน้าจะปิดงดการสัญจรในทางด้านขวา ให้ผู้ขับรถเปลี่ยนใช้ช่องทางที่เหลืออยู่ด้วยความระมัดระวัง 

28. สะพานแคบ : ทางข้างหน้ามีสะพานแคบ ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ช้าลง และระมัดระวังอันตรายจากรถที่สวนมาอีกฟากหนึ่งของสะพาน หรือถ้ามีป้ายอื่นติดตั้งอยู่ให้ปฏิบัติตามป้ายนั้น ๆ ด้วย 

29. ทางข้ามทางรถไฟ ไม่มีเครื่องกั้นทาง : ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่าน และไม่มีเครื่องกั้นทาง ผู้ขับรถควรชะลอความเร็วลงให้มาก และสังเกตดูรถไฟทั้งทางขวาและทางซ้าย ถ้ามีรถไฟกำลังจะผ่านมาให้หยุดรถในระยะห่างจากรถไฟอย่างน้อย 5 เมตร แล้วรอคอยจนกว่ารถไฟจะผ่านไป เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงเคลื่อนรถต่อไปได้ 

30. ทางข้ามทางรถไฟ มีเครื่องกั้นทาง : ทางข้างหน้ามีทางรถไฟตัดผ่านและมีรั้วหรือมีเครื่องกีดขวางกั้นทาง ก่อนที่จะขับรถผ่านป้ายนี้ ให้ชะลอความเร็วลงและพร้อมที่จะหยุดรถได้เมื่อมีสัญญาณของเจ้าหน้าที่ดังขึ้น หรือเจ้าหน้าที่ได้กั้นทาง หรือมีเครื่องกั้นทางปิดกั้น ถ้ามีรถข้างหน้าหยุดรถอยู่ก่อนแล้ว ให้หยุดรถถัดต่อมาตามลำดับ เมื่อเปิดเครื่องกั้นทางแล้ว ให้รถที่หยุดรอเคลื่อนตามกันไปได้ 

​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร
​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร ลำดับ 31-40

31. ทางแคบ : ทางข้างหน้าแคบลงกว่าทางที่กำลังผ่านมีขนาดตามตัวเลข โดยมีหน่วยเป็น “เมตร” เมื่อเห็นป้ายนี้ รถที่มีความกว้างไม่เกินจำนวนตัวเลขที่ระบุไว้ในป้ายให้ผ่านเข้าไปได้ แต่ต้องชะลอความเร็วลง และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้ามีป้ายอื่นติดตั้งไว้ก็ให้ปฏิบัติตามป้ายนั้น ๆ ด้วย 

32. ทางลอดต่ำ : ทางข้างหน้าจะต้องลอดต่ำมีขนาดตามตัวเลข โดยมีหน่วยเป็น “เมตร” เมื่อเห็นป้ายนี้ รถที่มีความสูงรวมทั้งสิ่งของที่บรรทุกสูงไม่เกินจำนวนตัวเลขที่บอกไว้ในป้ายให้ผ่านเข้าไปได้ แต่ชะลอความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้ามีป้ายอื่นติดตั้งไว้ก็ให้ปฏิบัติตามป้ายนั้น ๆ ด้วย 

33. ทางลงลาดชัน : ทางข้างหน้าเป็นทางลาดชันลงเขา หรือลงเนิน มีความลาดชันตามตัวเลขเป็น “ร้อยละ” ตามที่ปรากฏในป้าย ให้ขับรถช้าลงและเดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้ายให้มาก 

34. ทางขึ้นลาดชัน : ทางข้างหน้าเป็นทางลาดชันขึ้นเขาหรือขึ้นเนินสันเขาหรือสันเนินมีความลาดชันตามตัวเลขเป็น “ร้อยละ” ตามที่ปรากฏในป้าย อาจกำบังสายตา ไม่ให้มองเห็นรถที่สวนมา ผู้ขับขี่ควรชะลอความเร็วรถ และเดินรถให้ใกล้ขอบทางด้านซ้ายให้มาก

35. รถกระโดด : ทางข้างหน้าเปลี่ยนระดับอย่างกระทันหัน เช่น บริเวณคอสะพาน ทางข้ามท่อระบายน้ำ และคันชะลอความเร็วเป็นต้น ควรชะลอความเร็ว และเดินรถด้วยความระมัดระวัง 

36. ผิวทางขรุขระ : ทางข้างหน้าขรุขระมากมีหลุม มีบ่อ หรือเป็นสันติดต่อกัน ควรชะลอความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ 

37. ทางลื่น : ทางข้างหน้าลื่นเมื่อผิวทางเปียกอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ควรชะลอความเร็วและระมัดระวังการลื่นไถล 

38. ทางเป็นแอ่ง : ทางข้างหน้าเปลี่ยนระดับลงกระทันหัน หรือแอ่ง ควรชะลอความเร็ว และเพิ่มความระมัดระวัง

39. ผิวทางร่วน : ทางข้างหน้ามีวัสดุผิวทางหลุดกระเด็น เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง ควรชะลอความเร็วและระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากวัสดุผิวทาง 

40. ระวังหินร่วง : ทางข้างหน้าอาจจะมีหินร่วงลงมาในผิวทาง ทำให้กีดขวางการจราจร ควรชะลอความเร็ว และระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ 

​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร
​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร ลำดับ 41-50

41. ให้เปลี่ยนช่องทางจราจร : ให้เปลี่ยนช่องทางจราจร หรือเปลี่ยนทางเดินรถตามสัญลักษณ์ในป้าย ควรชะลอความเร็ว และระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ 

42. สะพานเปิดได้ : ทางข้างหน้าจะต้องผ่านสะพานที่เปิดให้เรือลอด เมื่อเจ้าหน้าที่จะปิดกั้นทางเพื่อเปิดสะพานให้เรือผ่าน ควรชะลอความเร็ว และระมัดระวังในการหยุดรถ 

43. ออกทางขนาน : ทางหลักข้างหน้าจะมีช่องเปิดออกทางขนาน ผู้ขับรถบนทางหลักที่จะออกทางขนานให้เตรียมตัวเพื่ออกทางขนาน และสำหรับผู้ขับรถบนทางขนานให้ระมัดระวังรถที่จะมาร่วมในทิศทางเดียวกันด้วย 

44. ทางเข้าทางหลัก : ทางขนานข้างหน้าจะมีช่องเปิดเข้าทางหลัก ผู้ขับรถบนทางขนานที่จะเข้าทางหลักให้เตรียมตัวเพื่อเข้าทางหลัก และสำหรับผู้ขับรถบนทางหลักให้ระมัดระวังรถที่จะมาร่วมในทิศทางเดียวกันด้วย 

45. ทางคู่ข้างหน้า : ทางข้างหน้าจะเป็นทางคู่ที่มีเกาะอยู่ตรงกลาง โดยจะแบ่งการจราจรออกเป็นสองทาง คือ ทางไปทางหนึ่ง และทางมาทางหนึ่ง เมื่อเห็นป้ายดังกล่าว ให้ขับรถชิดไปทางด้านซ้ายด้วยความระมัดระวัง 

46. ทางร่วม : ทางข้างหน้าจะมีรถเข้ามาร่วมในทิศทางเดียวกัน จากทางซ้ายหรือทางขวา ตามลักษณะสัญลักษณ์ในป้าย ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้าลง และเดินรถด้วยความระมัดระวัง 

47. สิ้นสุดทางคู่ : ทางข้างหน้าเป็นทางร่วมที่ไม่มีเกาะ หรือสิ่งอื่นใดแบ่งการจราจร ให้ขับรถให้ช้าลง และชิดด้านซ้ายของทางและเพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น 

48. จุดกลับรถ : ทางข้างหน้าจะมีที่กลับรถ 

49. สัญญาณจราจร : ทางข้างหน้ามีสัญญาณไฟจราจร ให้ชะลอความเร็ว และพร้อมที่จะปฏิบัติตามสัญญาณไฟจราจร 

​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร
​ป้ายและสัญลักษณ์จราจร ลำดับ 51-60

50. ทางเดินรถสองทาง : ทางข้างหน้าเป็นทางเดินรถสองทาง ผู้ขับรถจะต้องชะลอความเร็ว และเดินรถใกล้ขอบทางด้านซ้ายกับให้ระมัดระวังอันตรายจากรถที่สวนทางมา 

51. หยุดข้างหน้า : ทางข้างหน้ามีเครื่องหมายหยุดติดตั้งอยู่ ให้ผู้ขับรถเตรียมพร้อมที่จะหยุดรถได้ทันที เมื่อขับรถถึงป้ายหยุด 

52. ให้ทางข้างหน้า : ทางข้างหน้ามีป้ายให้ทางติดตั้งอยู่ ให้ผู้ขับรถเตรียมความพร้อมที่จะให้ทางทันที เมื่อขับรถถึงป้ายให้ทาง ให้ชะลอความเร็ว และเดินรถด้วยความระมัดระวัง 

53. โรงเรียน ระวังเด็ก : ทางข้างหน้ามีโรงเรียนตั้งอยู่ข้างทาง ให้ชะลอความเร็วและระมัดระวังอุบัติเหตุ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นแก่เด็กนักเรียน ถ้าเด็กนักเรียนกำลังเดินข้ามถนน ให้หยุดรถให้เด็กนักเรียนข้ามถนนไปได้โดยปลอดภัย ถ้าเป็นเวลาที่โรงเรียนกำลังสอน ให้งดใช้เสียงสัญญาณและห้ามให้เกิดเสียงรบกวนด้วยประการใด ๆ 

54. ระวังคนข้ามถนน : ทางข้างหน้ามีทางสำหรับคนข้ามถนน หรือมีหมู่บ้านราษฎรอยู่ข้างทาง ซึ่งมีคนเดินข้ามไปมาอยู่เสมอ ให้ชะลอความเร็ว และระมัดระวังคนข้ามถนน ถ้ามีคนกำลังเดินข้ามถนนให้หยุดให้คนเดินข้ามถนนไปได้โดยปลอดภัย 

55. ระวังสัตว์ : ทางข้างหน้าอาจมีสัตว์ข้ามทาง ให้ชะลอความเร็ว และระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ 

56. ระวังเครื่องบินบินต่ำ : ทางข้างหน้าเข้าใกล้สนามบินและอาจมีเครื่องบินบินลงในระดับต่ำ หากเห็นเครื่องบินกำลังขึ้นหรือลงผ่านทางข้างหน้า ให้หยุดรถให้เครื่องบินผ่านไปได้โดยปลอดภัย 

57. เขตห้ามแซง (ใช้ติดตั้งด้านขวาของทาง) : ทางช่วงนั้นมีระยะมองเห็นจำกัด ผู้ขับรถไม่สามารถมองเห็นรถที่สวนมาในระยะที่จะแซงรถอื่น ๆ ได้ 

58. ระวังอันตราย : ทางข้างหน้ามีอันตราย เช่น เกิดอุบัติเหตุ ทางทรุด เป็นต้น ให้ขับรถให้ช้าลงให้มาก และระมัดระวังอันตรายเป็นพิเศษ 

59. สลับกันไป : ทางข้างหน้าจำนวนช่องจราจรลดลงผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้าลง และให้ขับรถสลับกันไปด้านละคันอย่างระมัดระวัง

60. เตือนแนวทางต่าง ๆ : ทางตอนนั้นมีการเปลี่ยนแปลงแนวทางตามทิศทางที่ชี้ไป ผู้ขับรถจะต้องขับรถให้ช้าลงและเดนิรถด้วยความระมัดระวัง 

ผู้ใช้รถทุกคนจำเป็นที่จะต้องรู้ความหมายของป้ายและสัญลักษณ์จราจร เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่เผลอไปละเมิดหรือฝ่าฝืนจนสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ร่วมทางคนอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้สอบใบขับขี่ได้อีกด้วย 

อ่านเพิ่มเติม >>