Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander กับอนุกรม Mini MPV คันไหนน่าซื้อกว่า

 Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander กับอนุกรม Mini MPV คันไหนดีน่าซื้อกว่า 

นิยามความต้องการของ Mini MPV ในไทยอาจจะไม่ดังเปรี้ยงป้าง เป็นที่นิยมเท่าเพื่อนบ้าน อาทิเช่นอินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์ แต่ก็ถือว่าเป็นกลุ่มตลาดขนาดไม่ใช่เล็กเหมือนกันเมื่อมองที่ตัวเลขยอดขายในแต่ละปี เราจะพาไปดูเจ้าตลาดอันดับ 1 ของยอดขายในรถกลุ่มนี้กันว่าเป็นรุ่นไหนที่กำลังครองตลาดอยู่ใน 3 ปีย้อนหลัง (ปี 2015-2017)  

ยอดขายรถกลุ่ม Mini MPV 

• ปี 2015 (รุ่น,คัน) : Honda Mobilio ขายได้ 5826 คัน (Toyota Sienta ยังไม่เปิดตัว)
• ปี 2016 (รุ่น,คัน) : Toyota Sienta ขายได้ 2356 คัน
• ปี 2017 (รุ่น,คัน) : Toyota Sienta ขายได้ 6426 คัน

ด้วยความน่าเชื่อถือในแบรนด์เป็นที่ตั้งคือพลังอันแรงกล้าพาให้ Toyota Sienta ที่มากับพรีเซ็นเตอร์คนสวย “ปู ไปรยา” ทะยานขายดีเป็นเจ้าตลาดไม่เห็นฝุ่นอันดับอื่น ๆ โฟกัสเฉพาะในปีที่ผ่านมา 2017 ที่ Toyota Sienta ได้ขายแบบเต็ม ๆ ปีเป็นปีแรก ตัวเลขงดงามดั่งนวนิยาย ทิ้งห่างอัน 2 และ 3 อย่าง Honda Mobilio อดีตเจ้าตลาด และ Suzuki Ertiga ตามลำดับอยู่มากโข แสดงให้เห็นถึงความนิยมในรถรุ่นนี้ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว

ดูเพิ่มเติม
>> EfficientGrip Performance ยางเพื่อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจาก Goodyear​ 
>> นึกถึงยางรถยนต์และช่วงล่างให้นึกถึง.. “ศูนย์บริการทรัพย์สมบูรณ์ยางยนต์”
 

เมื่อการมาของ Mitsubishi Xpander จะทำให้ยอดขายของ Toyota Sienta ต้องรอชมกันยาวๆ 

แต่นวนิยายเรื่องนี้กำลังจะจบลงหรือเปล่าเมื่อล่าสุดกับการมาของ Mitsubishi Xpander ที่กำลังจะเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้  รุ่นใหญ่สุด Hot! ที่สร้างแรงกระเพื่อม สร้างปรากฎการณ์ให้ตลาดรถประเภทนี้มาแล้วทั่วอาเซียน ยอดจองมีออกมาอย่างถล่มถลายจนแทบผลิตไม่ทันคือคำตอบที่ชัดเจน ภายใต้นิยามใหม่ที่สอดแทรกความเป็น Crossover เข้ามาช่วยคืออาวุธหลักที่หวังจะโค่นแชมป์อย่าง Toyota Sienta  ฝ่ายไหนที่เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุดในมุมมองของ Chobrod.com วันนี้เรามีคำตอบ 

1.เปิดราคา
ดูราคาในตอน ณ ตอนนี้ทางฝั่งของ Mitsubishi Xpander ยังไม่มีการเผยราคาขายอย่างเป็นทางการออกมารอเปิดตัวเลขอย่างเป็นทางการจริง ๆ วันที่ 17 สิงหาคม แต่เรามีตัวเลขราคาที่แอบไปหาข้อมูลมาจะพบว่า Mitsubishi Xpander ราคาจะเริ่มต้นที่ 779,000 บาท ส่วนอีกฝั่ง Toyota Sienta ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 750,000 สำหรับในรุ่น 1.5G AT แต่ในการเปรียบเทียบครั้งนี้จะเทียบกับรุ่นท็อปราคาแพงสุดในแต่ละรุ่นไปเลย ซึ่งมีรายละเอียดราคาดังต่อไปนี้ 

เปรียบเทียบราคา Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander 

• Toyota SIENTA 1.5V AT ราคา 865,000 บาท
• Mitsubishi Xpander GT AT ราคาคาดการ 849,000 บาท

ตัวเลขที่ออกมาสูสีเลยทีเดียว แต่ในเรื่องรายละเอียดจะต่างกันแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นส่วนของเครื่องยนต์ ภายนอกภายใน และระบบความลปอดภัยต้องรออ่านรายละเอียดที่ด้านล่าง  สำหรับในยกนี้ที่ราคาไม่ห่ากันมากจึงให้เสมอกันไปก่อน

2.เปรียบเทียบภายนอก Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander 
Toyota Sienta
รถที่จะพร้อมสนุกกับคุณไปทุก Activity และการเดินทาง เติมเต็มให้สีสันชีวิตมีมากกว่า ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ว่า “All New SIENTA Bring it ALL สนุกเต็มที่ ชีวิตเต็มสไตล์” กับการสะท้อนภาพลักษณ์ที่สดใสและพร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว เส้นสายตัวรถที่ใส่สีดำด้านเดินรอบคันตั้งแต่ด้านหน้ากันชน ขึ้นไปเสา A จรดลงที่ไฟท้ายแบบช่วยเพิ่มมิติให้ตัวรถดูน่าสนใจ ลืมไปซึ่งนิยามของความเป็นรถ Mini MPV น่าเบื่อ ๆ สู่นิยามใหม่ที่สนุกมากกว่าเดิม 

Toyota Sienta สะท้อนภาพลักษณ์ที่สดใสและพร้อมตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว

จุดเด่นที่ภายนอกของ Toyota Sienta

• ไฟหน้า Bi-Beam LED พร้อมไฟวิ่งกลางวัน
• ไฟท้าย LED Light Guiding
• ไฟเลี้ยวที่กระจกแบบ LED
• ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
• ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
• ประตูเปิดแบบสไลด์ (เปิดปิดด้วยไฟฟ้า)

Mitsubishi Xpander 
มากับสโลแกนที่ว่า “นิยามใหม่ของ Crossover” อาจจะฟังดูงง ๆ ไปสักหน่อยว่ามันคือรถ MPV แต่ทำไมทางค่ายถึงใช้คำนี้ แต่ด้วยดีไซน์ของรถรุ่นนี้ที่ต้องการสื่อถึงอารมณ์ของรถครอสโอเวอร์มากที่สุด จึงไม่ผิดถ้าใครที่เห็นภายนอกของ Mitsubishi Xpander คันนี้ในตอนแรกแล้วเข้าใจผิดว่าไม่ใช่รถ MPV 7 ที่นั่งอย่างที่เคยเป็นมา เพราะตัวรถเส้นสายถูกออกแบบมาทำให้ดูสูงกว่าจนคล้ายเป็นรถครอสโอเวอร์ หน้าตาอยู่ภายใต้นิยาม Dynamic Shield อันงดงามเป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi เช่นเดิม เหลี่ยมสันมีมากกว่าแต่ก็ไม่ทำให้รู้สึกถึงความล้าสมัยแต่อย่างใด สื่ออารมณ์ถึงความดุดันได้เป็นอย่างดี ล้ำสมัยเหมือนถอดมาจากรถต้นแบบ Mitsubishi XM อย่างไงอย่างงั้น

Mitsubishi Xpander คือนิยามใหม่ของ Crossover หรือจะเป็นอีกนิยามของ Mini MPV ก็ได้

จุดเด่นที่ภายนอกของ Mitsubishi Xpander 

• ไฟหน้าแบบ LED พร้อมโคมไฟ LED Daytime Running และไฟตัดหมอกด้านล่าง
• กระจังหน้าโครเมี่ยม Dynamic Shield
• ไฟท้ายแบบ LED
• ล้อขนาด 16 นิ้ว 

เปรียบเทียบมิติตัวรถ Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander

• ความยาวตัวถัง (mm.) ::   Sienta (4235), Xpander (4475)
• ความกว้างตัวถัง (mm.) ::  Sienta (1695), Xpander (1750)
• ความสูงตัวถัง (mm.) :: Sienta (1695), Xpander (1700)
• ระยะฐานล้อ (mm.) :: Sienta (2750), Xpander (2775)

สองแบบสองอารมณ์จากทั้งสองรุ่นที่สื่อออกมาก  ใน Toyota Sienta สิ่งที่คุณจะได้รับคือความสดใสซาบซ่า จนเหมือนว่าดีไซน์จะเหมาะกับ “เมีย 2018” ให้คุณผู้หญิงเสียมากกว่าด้วยซ้ำ คุณสามีถ้าขับรุ่นนี้ออกไปรับลูกที่โรงเรียนก็อาจจะทำให้โดนทักได้ว่านำรถแฟนมาขับรับลูกหรือเปล่า ด้วยความอรชรอ้อนแอ้นของดีไซน์ที่มันช่างมีมากเสียเหลือเกิน ดีเด่นที่สุดคงจะเป็นเรื่องของประตูนั่งหลังที่เป็นแบบสไลด์ ใช้งานสะดวกเหมาะกับความเป็นรถครอบครัวยุคนี้เป็นที่สุด แต่อาจไม่เหมาะกับคุณผู้ชายและต่างจากอารมณ์ของคู่เปรียบเทียบอย่าง Mitsubishi Xpander ที่เปลี่ยนอารมณ์จากรถ Mini MPV ธรรมดาให้ดูน่าสนใจยิ่งกว่าด้วยอารมณ์ครอสโอเวอร์เต็มขั้น ใครจะขับก็ได้ไม่ต้องเขินอายด้วยดีไซน์ “ล้ำ” ขึ้นไปอีกระดับ  สรุปรวมข้อนี้ที่เรื่องภายนอกจึงต้องยกให้ Mitsubishi Xpander เป็นฝ่ายเข้าวินด้วยดีไซน์ที่กลาง ๆ ขับได้ทั้งครอบครัวและเผ็ดดุเร้าใจกว่า ไม่หวานจนเกินไป 

3.เปรียบเทียบภายใน Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander 
Toyota Sienta
ส่วนว้าวโค้งยังคงต่อเนื่องจากภายนอกสู่ดีไซน์แผงคอนโซลของภายในผ่านการตกแต่งด้วยโทนสีดำเป็นหลักตัดกับสีแดงเลือดหมูกับชิ้นส่วนหุ้มเบาะและแผงประตูมีตัดด้วยสีเงินเมทัลลิกเล็กน้อยหน้าจอ Infotainment ขนาด 7 นิ้วดีไซน์มาแบบตั้งโดด ๆ เป็นจุดเด่นที่ทำให้ภายในของ Toyota Sienta ดูดีตามตามสมัยของรถยุคนี้

โฉบเฉี่ยวต่อเนื่องจากภายนอก สำหรับเรื่องดีไซน์ภายในของ  Toyota Sienta แถมฟังก์ชั่นการใช้งานก็ครบมากกว่าอีกด้วย 

อุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Toyota Sienta 

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น (ควบคุมเครื่องเสียงและข้อมูลการขับขี่)  
• วัสดุเบาะนั่งหนังและวัสดุกึ่งสังเคราะห์
• เบาะคนขับปรับได้ 6 ทิศทาง, คนนั่งปรับได้ 4 ทิศทาง
• พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง
• Push Start และ Smart Entry 
• มาตรวัดระยะทางแบบ Optitron
• จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
• ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติตอนหน้า ตอนหลังแบบธรรมดา
• เครื่องเสียงเล่นแผ่น DVD เป็นหน้าจอแบบสัมผัส 7 นิ้ว
• อุปกรณ์ความบันเทิงด้านหลัง จอ LED ขนาด 8 นิ้ว
• ลำโพง 6 จุด
• เบาะนั่งแถวที่ 2 และ 3 แยกพับ 50 : 50  

Mitsubishi Xpander 
ภายในใช้โทนการตกแต่งสีดำตัดกับสีเงิน ที่ดีไซน์จะเรียบง่ายกว่า มีความเหลี่ยมสันประกอบ เพิ่มความหวือหวาให้มากขึ้นจากวัสดุที่ใช้ตกแต่งคอนโซลเป็นวัสดุสี Gloss Black และสีเงินเมทัลลิก การใช้งานเพียบพร้อมตอบโจทย์ดี ลูกเล่นของเบาะหลังทำได้อเนกประสงค์ตามการใช้งาน ครบเครื่องทุกนิยามความเป็น MPV “เนื้อดี” สักคันสำหรับครอบครัวได้อย่างไม่ยากเย็น 

เรียบง่ายไม่หวือหวาเหมือนดีไซน์ภายนอก เน้นการใช้วัสดุที่ทำให้ตัวรถดูพิเศษยิ่งขึ้น

อุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Mitsubishi Xpander

• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น (ควบคุมเครื่องเสียง)
• ระบบ Cruise Control 
• วัสดุเบาะนั่งหนังและวัสดุกึ่งสังเคราะห์
• ระบบกุญแจอัจฉริยะ Keyless Operation System (KOS)
• ปุ่ม Push-Start
• หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบ สี 3 มิติ
• ระบบปรับอากาศด้านหลัง (เป็นแบบมือหมุน)
• เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 6.2 นิ้ว พร้อมเชื่อมต่อทุกความบันเทิง USB, Bluetooth
• ลำโพง 6 จุด
• เบาะนั่งแถวที่ 2 แยกพับ 60 : 40 (ตรงกลางพับเป็นที่วางแขน), เบาะนั่งแถวที่ 3 แยกพับ 50 : 50

ลูกเล่นกับดีไซน์ที่ตื่นตาตื่นใจของ Toyota Sienta อาจจะตกพร่องไปด้วยวัสดุที่นำมาใช้ยังไม่ทำให้รู้สึกพิเศษเท่า Mitsubishi Xpander นัก การมาของวัสดุสี Gloss Black ตัดกับสีเงินเล็ก ๆ ช่างทำให้ภายในของรถคันนี้ดูพิเศษกว่าคู่แข่งอย่างปฎิเสธไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่ระบบปรับอากาศยังไม่เป็นแบบดิจิตอล รวมถึงไม่มีจอด้านหลังมาให้เหมือน Toyota Sienta จึงทำให้ถูกตัดคะแนนตรงนี้ไป เป็นอันว่าสรุปรวมแล้วกับสิ่งที่ให้มาและขาดไปของทั้งสองรุ่นในเรื่องของอุปกรณ์ภายใน Chobrod ให้เสมอกันไปในยกนี้ “กินกันไม่ขาด” ผู้ซื้อเลือกตามความสำคัญของแต่ละอุปกรณ์ที่ต้องการได้เลยในแต่ละรุ่น 

เปรียบเทียบเครื่องยนต์และสมรรถนะ Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander 
Toyota Sienta
มากับเครื่องยนต์เบนซินรหัส 2NR-FE 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5L DUAL VVT-i จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์แบบ EFI แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 108 แรงม้าพร้อมแรงบิด 140 Nm ผสานการทำงานกับด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 Speed ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันสูงสุด E20 เบรกเป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหน้า-หลัง

แม้จะดูสดใส แต่เรื่องความแรงไว้ใจได้ ไม่ธรรมดาแน่นอนสำหรับ Toyota Sienta

Mitsubishi Xpander 
จะใช้เป็นเครื่องยนต์ MIVEC เบนซินรหัส 4A91 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5L กำลังสูงสุดอยู่ที่ 105 แรงม้า กับแรงบิด 141 Nm จับคู่การทำงานด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 Speed ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้า สามารถรองรับน้ำมันสูงสุด E20 ได้ เบรกด้านหน้าเป็นแบบดิสก์และหลังเป็นดรัมเบรก

Mitsubishi Xpander ภายนอกโฉบเฉี่ยวแต่เครื่องยนต์เหมือนยังล้าสมัยที่อัตราเร่งไม่ค่อยจะปลื้มคนเท้าหนักสักเท่าไร

เปรียบเทียบด้านสมรรถนะระหว่าง Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander

• น้ำหนักตัวรถ (กิโลกรัม) : Sienta (1320), Xpander (1240)
• ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (วินาที): Sienta (12.7), Xpander (15.6)
• ความเร็วสูงสุด (กิโลเมตรต่อชั่วโมง) : Sienta (180), Xpander (160)

แรงม้าแม้ต่างกันไม่มาก แต่ผลออกมาในเรื่องสมรรถนะนั้นเห็นชัดเจนว่า Toyota Sienta แรงกว่า ตั้งแต่เรื่องของอัตราเร่ง 0-100 และความเร็วสูงสุดที่ทำได้ แม้จะแบกน้ำหนักมากกว่านิด ๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาเวลาที่ต้องตอบสนองในเรื่องอัตราเร่งตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ  เป็นอันว่ายกนี้อิงตามตัวเลขที่ทำได้เลยต้องยกให้ Toyota Sienta เป็นฝ่ายเข้าวิน

เปรียบเทียบระบบความปลอดภัย Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander
มองในเรื่องระบบความปลอดภัยถือว่าทั้งสองรุ่น Toyota Sienta และ Mitsubishi Xpander ให้มาใกล้เคียงกันมาก ถุงลมนิรภัยคู่หน้ามีทั้งคู่แต่ทางฝั่ง Toyota Sienta มีมาให้มากกว่า 1 จุดบริเวณหัวเข่าคนขับ  ระบบความปลอดภัยยามขับขี่ทั้งระบบเบรก ABS, EBD รวมไปถึงระบบควบคุมการทรงตัวมีมาให้ทั้งคู่  อัพเดทความปลอดภัยในตรงยุคขึ้นมาหน่อยอย่างระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชันและกล้องมองหลังก็มีมาให้ทั้งคู่ 

Toyota Sienta ได้เปรียบว่านิด ๆ ที่จำนวนถุงลมมีมากกว่า 1 จุด

ใจความสำคัญในเรื่องอ๊อพชั่นความปลอดภัยทั้งสองรุ่นไม่มีใครยอมแพ้ใคร และรุ่นใหม่ที่อุตส่าเปิดตัวมาทีหลังแล้วอย่าง Mitsubishi Xpander ก็ไม่เสริมเติมเข้ามาให้ดึงดูดน่าสนใจกว่าคู่แข่งเลย  สรุปว่าในยกนี้ก็คงต้องให้เสมอกันไปอีกยกไม่มีใครเด่นกว่าหรือด้อยกว่าใคร 

สรุปรวม Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander ซื้อคันไหนดี 
ถ้าไม่นับว่ารุ่นไหนเปิดตัวก่อนหลัง ตัดไปด้วยเหตุผลเรื่องยี่ห้อ เทียบเรื่องการออกแบบของทั้งสองรุ่นเป็นเหมือนสาวสวยที่คุณผู้ชายต้องเลือก  ฝั่งหนึ่งสดใสซาบซ่า ร่าเริงเหมือนวิ่งอยู่บนทุ่งลาเวนเดอร์ตลอดเวลาอย่างใน Toyota Sienta ที่เปี่ยมล้นด้วยลูกเล่น การออกแบบส่วนว้าวโค้งมากมายที่ช่วยเปลี่ยนนิยามความเป็น Mini MPV ไม่ให้ดูน่าเบื่ออีกต่อไป สาวน้อยคนนี้ที่จะ “เล่น” อยู่ตลอดเวลา แรก ๆ ก็อาจทำให้คุณใจชุ่มชื้นหัวใจ แต่ในบางครั้งเรื่อง “อารมณ์” แน่นอนที่จะไม่มีใครที่จะเล่นได้อยู่ตลอดเวลาหรือบางทีอาจเล่นไม่รู้เวลาก็มี คุณจะรับได้ไหม ? เมื่อสาวน้อยคนนี้ เธอมีแค่อารมณ์เดียวจริง ๆ และกับสาวอีกคน ที่ดูมีวัยวุฒิขึ้นมาหน่อย ลุคสปอร์ตเกิร์ลเท่ ๆ หรือ Working Woman อารมณ์เล่นเป็นเด็กอาจจะน้อยกว่า แต่มีเสน่ห์บางอย่างในตัวที่ซ่อนอยู่ น่าค้นหา น่าจะเปรียบได้ชัดกับความเป็น Mitsubishi Xpander ที่เท่ทันสมัยตั้งแต่ภายนอก หรูนิด ๆ ที่ภายใน แต่จะให้มาหวานขี้อ้อนอย่างสาวน้อย Sienta ก็คงทำไม่ได้ 

Toyota Sienta เปลี่ยนนิยามความเป็น Mini MPV ยุคใหม่ให้ไม่ต้องน่าเบื่อแบบเดิม ๆ อย่างที่เคยเป็น 

เทียบเรื่องฟังก์ชั่นอุปกรณ์ ต้องบอกว่าสูสีกันมากจริง ๆ ไม่มีใครเหนือกว่าใครอย่างชัดเจน  เด่นชัดหน่อยที่การใช้งานกับประตูแบบสไลด์ไฟฟ้าใน Toyota Sienta น่าจะเป็นข้อได้เปรียบหนึ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ซื้อสนใจในรถรุ่นนี้ แต่นอกนั้นแล้วยังไม่เห็นความโดดเด่นใด ๆ ที่มีเหนือ Mitsubishi Xpander อย่างชัดเจน  ซึ่งก็เช่นกันสำหรับ Mitsubishi Xpander ที่นอกจากเรื่องความสดใหม่และดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ สวยงามสุด ๆ ที่ด้านหน้าจนแทบอยากจะเอากระบะ Triton มาแปลงหน้าใส่เสียจริง ๆ แล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ดูโดดเด่นเหนือกว่าคู่แข่ง การใช้นิยามคำโฆษณาชวนเชื่อเพื่อดึงดูดคนที่ชอบความเป็น “ครอสโอเวอร์” อาจจะทำได้เพียงตอนแรก แต่เมื่อสัมผัสตัวเป็น ๆ ซื้อไปใช้นาน ๆ แล้ว ผู้ใช้ก็จะรู้เองว่าสุดท้ายแล้ว มองยังไงก็ยังคงเป็นรถ Mini MPV ท้ายยื่นยาวกว่าเผื่อไว้สำหรับเบาะแถวสาม ไม่ใช่นิยามใหม่แห่งครอสโอเวอร์อย่างที่พูดไว้อะไรมากมายนักหรอก แค่อารมณ์มันได้มานิด ๆ 

อารมณ์ความเป็นครอสโอเวอร์ใน Xpander อาจจะมีแค่ช่วงแรกที่ได้เห็นเท่านั้น

และสรุปสุดท้ายสำหรับคำตอบระหว่างสองรุ่นนี้กับอารมณ์ร่าเริงสดใสที่มีอยู่ใน Toyota Sienta และสปอร์ตเต็มขั้นกับนิยามใหม่ที่ต้องการฉีกความน่าเบื่อของรถ Mini MPV อย่างที่เป็นมาใน Mitsubishi Xpander คำตอบจาก Chobrod รุ่นที่น่าซื้อกว่าขอเลือกเป็น Mitsubishi Xpander เมื่อคนเราคงไม่สามารถอยู่กับความร่าเริงสดใสได้ตลอดเวลา ต้องมีอารมณ์อื่น ๆ ประกอบผสมด้วยเพื่อให้ชีวิตมีรสชาติ และรสชาติที่ปรุงแต่งจนมาเป็น Mitsubishi Xpander นี้ กลมกล่อมลงตัวกว่ารสชาติที่หนักหวานอย่างเดียวของ Toyota Sienta 

และนี่คืออีกหนึ่งความเห็นเพื่อหวังให้คุณได้นำไปประกอบการตัดสินใจซื้อ เมื่อกำลังเลือกระหว่างรถสองรุ่นนี้ Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander คันไหนน่าซื้อกว่ากัน ไม่ได้อิงปัจจัยด้วยเรื่องแบรนด์ยี่ห้อหรือบริการหลังการขายที่แต่ละคนมีประสบการณ์แตกต่างกัน ซึ่งเราเชื่อว่าการตัดสินใจซื้อรถของแต่ละคนมีเหตุผลส่วนตัวแตกต่างกันมากกว่าที่กล่าวมาแค่ข้างต้น ยังไงก็สามารถใช้ข้อมูลตรงนี้ไปช่วยเสริมได้  แล้วอย่าลืมบอกกับเราด้วยว่าถ้าเป็นคุณต้องเลือกระหว่างสองรุ่นนี้ Toyota Sienta กับ Mitsubishi Xpander คุณจะเลือกคันไหนและเพราะอะไร? ที่คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย

ดูเพิ่มเติม
>> All New Toyota Sienta 2018 โฉมใหม่ เริ่มต้นเพียง 7.5 แสน
>> รีวิว Mitsubishi Xpander 2018 รถ MiniMPV 7 ทึ่นั่ง

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่  
ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดีและน่าเชื่อถือ เชิญที่นี่