Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport ซื้อคันไหนดี

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 14 ก.ค 2561
แชร์ 224

จากก่อนหน้านี้ Chobrod เคยได้มีโอกาสนำเสนอการเปรียบเทียบ PPV “ทางเลือก” ระหว่าง Isuzu Mu-X กับ Mitsubishi Pajero Sport ไปแล้ว และล่าสุดกับการมาใหม่ของ Everest ก็ได้เปิดตัวโฉมไมเนอร์เชนจ์ฉบับปี 2018 พร้อมกับราคาขายที่ดันตัวเองให้ขึ้นไปเป็นรถ PPV ที่ราคาแพงที่สุดได้ทันที จึงทำให้อยากนำเสนอการเปรียบเทียบกันระหว่างสองรุ่นนี้ขึ้นมาในทันใด ระหว่าง Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport

เปรียบเทียบ Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport ซื้อคันไหนดี

เปรียบเทียบ Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport ซื้อคันไหนดี

ทำไมถึงต้องเป็นสองรุ่นนี้? อาจจะใช่ ถ้ามองในแง่ความเป็นรถกระบะ สองรุ่นนี้อาจจะเทียบได้อยากในเรื่องความไว้วางใจเมื่อเปรียบกับ Toyota หรือ Isuzu แต่กับตลาด PPV ทั้งสองรุ่นนี้ ไม่ได้มาเล่นๆ อัดแน่นในความเด่นด้านต่างๆ มาให้ครบ ชนิดที่ขนาดในรถเก๋งคันแพงหลายรุ่นยังต้องอาย (ก็แน่แหละ! ราคาเกินล้านครึ่งกันทั้งนั้น)

เมื่อฝั่งหนึ่งกับการมาใหม่ ไมเนอร์เชนจ์ครั้งสำคัญ ที่ได้ขุมกำลังใหม่แบบเดียวที่อยู่ในกระบะสมรรถนะสูงราคาแพงสุดในไทย Ranger Raptor ซึ่งนั่นก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ดันให้ Everest กลายเป็น PPV ที่ราคาสูงที่สุดในตลาดได้ด้วยเช่นกัน และกับความสดใหม่ครั้งนี้ แม้ความแตกต่างที่ภายนอกจะไม่มากอะไรนัก แต่ก็รู็สึกได้ว่าการไมเนอร์เชนจ์นี้มันพิเศษเสียจริงๆ ผิดกับอีกฝั่ง Pajero Sport ที่สวยดูดี และลงตัวจนทางค่ายคงไม่อยากจะปรับอะไรเพิ่มแล้ว ปล่อยไหลขายไปยาวๆ ก็ทำยอดขายได้น่าประทับใจ แม้ขุมกำลังจะไม่ใช่ทีเด็ดอะไรของรุ่นนี้นัก แต่ความพิเศษของรุ่นนี้ คือเรื่องของออพชั่นอุปกรณ์หลายๆ อย่างที่ให้มาอัดแน่นเทียบกับราคาแล้วคุ้มค่า ถึงขนาดที่เจ้าตลาดยังให้ไม่ได้ 

ดุเพิ่มเติม
>> 
10 สโลแกนจากยี่ห้อรถยนต์ดังที่คนไทยนิยมชมชอบมากที่สุด !
>> ราคา Ford Everest (ฟอร์ด เอเวอเรสต์) 2018 เดือนกรกฎาคม 2561

สวยทั้งคู่สำหรับทั้งสองรุ่น ต้องดูที่รายละเอียดว่าจะต่างกันมากน้อยแค่ไหน
สวยทั้งคู่สำหรับทั้งสองรุ่น ต้องดูที่รายละเอียดว่าจะต่างกันมากน้อยแค่ไหน

สวยทั้งคู่สำหรับทั้งสองรุ่น ต้องดูที่รายละเอียดว่าจะต่างกันมากน้อยแค่ไหน

แล้วคันไหนคือ PPV ที่ใช่สำหรับคุณ ระหว่าง Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport ไปดูหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 

1.เปิดราคา Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport 
การเปรียบเทียบในครั้งนี้ จะทำการเปรียบเทียบโดยใช้เป็นรุ่นท็อป ที่อ๊อพชั่น อุปกรณ์จัดเต็มมาให้ทั้งสองรุ่น ฝั่ง Everest จะเป็นรุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 และฝั่งของ Pajero Sport จะเป็นรุ่น 2.4 GT-Premium 4WD ส่วนเรื่องราคามีดังนี้ 

  • Ford Everest 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 A/T ราคา 1,799,000 บาท
  • Mitsubishi Pajero Sport 2.4 GT-Premium 4WD ราคา 1,529,000 บาท 

รุ่นใหม่ ราคาใหม่สำหรับ Ford Everest ที่ราคาล้านแปดทอนหนึ่งพัน สูงไปไหมจะเทียบกับรุ่นท็อปของฝั่ง Mitsubishi Pajero Sport และคำนวนตัวเลขดูแล้ว Everest แพงกว่าเกือบ 3 แสนบาท! กับความเป็นตัวท็อปทั้งคู่ ยอดขายก่อนหน้า ขายได้ไม่ห่างกันมากนัก ทำไม? Everest ถึง “กล้า” ที่จะขายแพงกว่าห่างกันมากขนาดนี้ และ Pajero Sport ที่ราคาถูกกว่ามากมาย จะให้อะไรที่ไม่เหมือนกับ Everest ไปดูกัน

*** ดูเพิ่มเติมราคา Ford Everest 2020 มือสองที่มีขายในประเทศไทย

2.เปรียบเทียบภายนอก Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport 
Ford Everest

ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่มากมายอะไรนักถ้ามองในเรื่องภายนอก เล็กน้อยเท่านั้นที่ด้านหน้ากับกระจังหน้าลายโครเมี่ยมใหม่ ที่ภายในตัวกระจังมาเป็นแบบเส้น 3 ชั้น พร้อมกับกันชนทรงใหม่ ดูเรียบง่ายขึ้น แต่ทำออกมาได้เข้ากับตัวกระจังอย่างลงตัวตามอารมณ์ PPV อเมริกันสไตล์ ดูบึกบึน แข็งแกร่ง ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลายใหม่ แบบ 6 ก้านคู​่ก็คือหนึ่งความแปลกตาที่ดีขึ้น  เพิ่มความสะดวกสบายด้วยการเปิดประตูฝาท้ายแบบ “เตะเปิด” Hands-Free Tailgate กวาดเท้าด้านล่างกันชนหลัง ที่เป็นแบบไฟฟ้า คือลูกเล่นสำคัญที่ทำให้รุ่นนี้เหนือกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน และสัญลักษณ์ Bi-Turbo ที่แก้มข้างด้านหน้า บ่งบอกความพิเศษในเรื่องของขุมกำลัง ที่ใครคิดจะวัดความแรงกับ Everest คันนี้ ก็อาจจะต้องคิดใหม่ให้ดีเสียก่อน 

ดุดัน น่าเกรงขาม พร้อมฟังก์ชั่นเหนือระดับ ครบทุกองศาการใช้งาน มีให้ใน Everest

ดุดัน น่าเกรงขาม พร้อมฟังก์ชั่นเหนือระดับ ครบทุกองศาการใช้งาน มีให้ใน Everest

ดุดัน น่าเกรงขาม พร้อมฟังก์ชั่นเหนือระดับ ครบทุกองศาการใช้งาน มีให้ใน Everest

ดุดัน น่าเกรงขาม พร้อมฟังก์ชั่นเหนือระดับ ครบทุกองศาการใช้งาน มีให้ใน Everest

Mitsubishi Pajero Sport
ใช่ที่ Pajero Sport คันนี้ จุดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นในเรื่องของภายนอก ที่ได้รับการยอมรับว่ามันช่างสวยจริงๆ ซึ่งความลงตัวจากดีไซน์ “Dynamic Shield” แบบฉบับของ Mitsubishi นั้น แสดงถึงคำตอบในนิยามการออกแบบได้ดีมากๆ จนเรียกได้ว่า ดีกว่าเวอร์ชั่นกระบะด้วยซ้ำไป สวย ล้ำ หรู และดูแพง ผสานไว้หมดครบทุกซึ่งอารมณ์ที่ผู้ซื้อต้องการ ได้มาจากการใช้โครเมี่ยม สีดำ และลายรังผึ้งภายในกระจังด้านล่าง เส้นสายของตัวไฟวิ่งกลางวัน และไฟตัดหมอก เข้ากันได้ดีครบหมด เมื่อมองที่รอบคันกับเส้นสายการออกแบบยาวไปถึงไฟท้ายแบบแนวตั้งที่เป็นแบบ Spectrum LED ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความแตกต่างแม้จะเป็นรถที่มีพื้นฐานมาจาก Triton เหมือนกันแต่กลับไม่ทิ้งคราบของอารมณ์เดิมไว้ มีให้แต่ความรู้สึกพิเศษที่มากกว่าที่ได้จากรถคันนี้

Mitsubishi Pajero Sport สปอร์ตล้ำ และลงตัวที่สุดในด้านดีไซน์

Mitsubishi Pajero Sport สปอร์ตล้ำ และลงตัวที่สุดในด้านดีไซน์

Mitsubishi Pajero Sport สปอร์ตล้ำ และลงตัวที่สุดในด้านดีไซน์ 

เปรียบเทียบมิติตัวรถของ Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport

  • ความยาวตัวถัง (mm.) :: Everest(4893), Pajero Sport(4785)
  • ความกว้างตัวถัง (mm.) :: Everest(1862), Pajero Sport(1815)
  • ความสูงตัวถัง (mm.) :: Everest(1836), Pajero Sport(1800)
  • ระยะฐานล้อ (mm.) :: Everest(2850), Pajero Sport(2800)

มองเทียบที่ลายละเอียดของขนาดทั้งสองรุ่นจะเห็นว่า Everest ใหญ่กว่าในทุกมิติ ที่สำหรับคนซื้อ PPV สายลุยขับสี่สักคัน เรื่องความใหญ่อลังการแบบอเมริกันสไตล์อย่าง Everest น่าจะตอบโจทย์ได้ดี และยังส่งผลในเรื่องความกว้างของภายในห้องโดยสารได้อีกด้วย แต่กระนั้นความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัยของ Pajero Sport ก็ถือเป็นหนึ่งจุดขายสำคัญที่ทำให้การตัดสินใจของผู้ซื้อหลายๆ คน “เขว” ได้เหมือนกัน เพราะเรื่องความสวยของรุ่นนี้มั่นช่างลงตัวไปซะทุกจุดเสียจริงๆ 

สรุปรวมเรื่องของภายนอก สองแบบสองอารมณ์ที่เรื่องดีไซน์ แต่ต่างชัดเจนที่เรื่องของขนาดตัวรถ อีกทั้งกับระบบ “เตะเปิด” แบบไฟฟ้าที่สะดวกให้อารมณ์ความเป็นรถยุโรป ยกนี้จึงต้องยกให้เป็นฝ่าย Everest เป็นฝ่ายเข้าวินไปอย่างเฉียดฉิว 

3.เปรียบเทียบภายใน Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport 
Ford Everest

แม้เวอร์ชั่นขายในปี 2018 จะเป็นการมาใหม่แบบไมเนอร์เชนจ์ แต่เรื่องดีไซน์ของภายในก็ไม่แตกต่างจากโฉมก่อนไมเนอร์ฯ อะไรมากนัก มีเพียงแค่การเพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก กับการมา (ได้เสียที) ของระบบ ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button ของที่ต้องมีในรถยุคนี้ กับฐานเกียร์หัวเกียร์แบบใหม่เพื่อรับกับระบบเกียร์ใหม่ นอกนั้นแล้วที่เคยเป็นไฮไลท์ความเจ๋งของ Everest ก็ยังมีไว้ให้อยู่ครบทั้ง หลังคากระจก, เบาะนั่งปรับไฟฟ้าทั้งสองฝั่งคู่หน้าหรือเบาะแถว 3 เลื่อนปรับไฟฟ้า ยังมีอยู่ครบ!

 

ดูหรูภายใต้อารมณ์ดีไซน์ที่ดุดัน สำหรับ Everest

ดูหรูภายใต้อารมณ์ดีไซน์ที่ดุดัน สำหรับ Everest

ดูหรูภายใต้อารมณ์ดีไซน์ที่ดุดัน สำหรับ Everest

อุปกรณ์ภายในห้องโดยสารของ Frod Everest กันดีกว่าว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
  • หลังคาแก้ว Panoramin Sunroof ปรับไฟฟ้า
  • ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control System -ACC)
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะแถวที่ 3 ปรับไฟฟ้า Power Fold
  • กระจกไฟฟ้าหน้า-หลัง พร้อมระบบเปิด-ปิดสัมผัสเดียวด้านคนขับ
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
  • ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วน
  • ช่องต่อไฟ 12V จำนวน 4 จุด
  • ระบบ Infotainment หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว วิทยุ, CD, MP3 
  • รองรับการเชื่อมต่อ AUX, USB 2 จุด, SD Card, Bluetooth, Apple Car Play, Andriod Auto
  • ระบบสั่งการด้วยเสียง SYNC 3 และ Wi-Fi
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • ลำโพง 9 ตำแหน่ง พร้อม SubWoofer 

Mitsubishi Pajero Sport 
ตั้งแต่การเปิดตัวมาของ Pajero นี้ตั้งแต่เมื่อปี 2015 และปรับเพิ่มอ๊อพชั่นอีกครั้งเมื่อต้นปี 2017 อีกจุดเด่นดังที่ต้องยอมรับคือความพิเศษในอุปกรณ์ที่ให้มา ชนิดที่เรียกได้ว่าเจ้าตลาดยังต้องอาย เช่น เบรกมือไฟฟ้า, Paddle Shift หรือระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร Nanoe เป็นอาทิ ผ่านเรื่องดีไซน์ที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นกระบะเล็กน้อย เพิ่มความหรูหราในการตกแต่งให้มากขึ้น ผสมกับความล้ำที่ได้รับต่อเนื่องมากจากภายนอก ด้วยการใช้สีเงินเมทัลลิกตกแต่งเด่นเห็นได้ชัด มีแซมด้วยสี Gloss Black บ้างเล็กน้อยบางจุด 

 Pajero Sport ภายในให้ความล้ำสมัย สวยไม่แพ้ภายนอก

 Pajero Sport ภายในให้ความล้ำสมัย สวยไม่แพ้ภายนอก 

อุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Mitsubishi Pajero Sport

  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น พร้อม Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์แบบ Manual
  • ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control System -ACC)
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง  
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา Dual Zone
  • ระบบฟอกอากาศ Nanoe
  • ช่องจ่ายไฟ 220 โวลต์
  • ช่องต่อ USB จำนวน 2 ตำแหน่ง
  • ช่องชาร์จไฟ 12V 3 ตำแหน่งงหน้าและหลัง
  • ช่องเสียบไฟ 220V  
  • เครื่อเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับวิทยุ AM/FM, DVD, CD, MP3, Bluetooth
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • จอภาพแบบ Wild Screen เพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลังพร้อมเครื่องเล่น DVD และรีโมทควบคุม พร้อมหูฟังอินฟาเรด
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง 

เรื่องของภายในดีเด่นไปคนละแบบ Pajero Sport กับระบบความบันเทิงสำหรับคนนั่งหลัง จัดให้กับจอภาพ Wild Screen เพดานพร้อมหูฟังอินฟาเรด ได้สุนทรีตลอดการเดินทาง แต่อีกฝั่งอย่าง Everest จะเป็นหลังคาแก้ว หรูหราสวยงาม Everest ได้เด่นกว่าในเรื่องฝาท้ายเปิด-ปิดที่ใช้ไฟฟ้า รวมทั้งแถวที่ 3 ก็เลื่อนปรับแบบไฟฟ้าด้วย และระบบสั่งการด้วยเสียง Sync3 ส่วนฝั่ง Pajero Sport เด่นสุดน่าจะมีเรื่องของเบรกมือไฟฟ้า และ Paddle Shift ช่วยเปลี่ยนเกียร์ให้การขับขี่สนุกยิ่งขึ้น ส่วนลูกเล่นหลักๆ มีให้ไม่แพ้กัน ทั้งเบาะนั่งปรับไฟฟ้าคู่หน้า, ขนาดหน้าจอสัมผัส, ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry, ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button, Cruise Control ที่เป็นแบบ Adaptive สูสีใกล้เคียงกันทั้งคู่ ยกนี้มองที่อ๊อฟชั่นแล้ว ไม่มีใครแพ้ใคร แต่ด้วยราคาที่ประหยัดกว่าหลักแสน! จึงทำให้ Mitsubishi Pajero Sport เป็นฝ่ายเข้าวินไปในยกนี้ 

4.เปรียบเทียบเครื่องยนต์ Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport 
Ford Everest

ต้องบอกว่าในหัวข้อนี้ Everest ถือว่าเป็นไฮไลท์เลยก็ว่าได้ กับตัวท็อป 2.0 Bi-Turbo Titanium+ 4×4 จะได้เครื่องยนต์ตัวใหม่ สุดในคลาสบรรดา PPV ด้วยกันที่ไม่มีรุ่นไหนแรงเกิน และดุดันเทียบเท่าจาก Ranger Raptor กับเครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0L พร้อมเทอร์โบคู่ ที่ทำงานร่วมกัน ตัวหนึ่งเป็น High-Pressure เทอร์โบแรงดันสูง และอีกตัวจะเป็น Low-Pressure เทอร์โบแรงดันต่ำ รีดกำลังม้าออกมาได้มากถึง 213 ตัว กับแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 500 Nm ผ่านการขับเคลื่อนแบบสี่ล้อ Full-Time ที่จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 10 Speed และ Manual Mode +,– ปรับได้หัวเกียร์ พร้อมมีระบบ Terrain Management System มาให้

เครื่องยนต์ใหม่กับความแรงมากที่สุดในคลาส คือจุดขายสำคัญใน Everest

เครื่องยนต์ใหม่กับความแรงมากที่สุดในคลาส คือจุดขายสำคัญใน Everest

Mitsubishi Pajero Sport 
กับขุมกำลังดีเซลรหัส 4N15 4 สูบเรียง พร้อมระบบแปรผันวาล์ว MIVEC ขนาดใหญ่กว่าอยู่ที่ 2.4L พ่วงด้วยเทอร์โบแปรผัน VG-Turbo และ Intercooler รีดกำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 181 แรงม้าพร้อมแรงบิดกว่า 430 Nm ส่งผ่านกำลังแบบขับเคลื่อนสี่ล้อแลล Super Select 4WD Version II ที่ให้มาพร้อมระบบ Dift Lock เฟืองท้าย จากเกียร์อัตโนมัติ 8 Speed 

เครื่องยนต์ซีซีมากกว่า แต่เรี่ยวแรงไม่เท่า Everest

เครื่องยนต์ซีซีมากกว่า แต่เรี่ยวแรงไม่เท่า Everest

คงต้องยอมในเรื่องนี้กับความสดใหม่ และดุดันของเครื่องยนต์ ระดับเดียวกับกระบะสมรรถนะสูงคันแพงอย่าง Ranger Raptor เมื่อถูกนำมาอยู่ใน Everest แล้ว ยิ่งช่วยเพิ่มพิษสงให้กับรถรุ่นนี้ได้มาก คันใหญ่โหดๆ แล้วเครื่องยนต์ยังดุกว่า รวมถึงเรื่องของอัตราทดเกียร์ที่ให้มาถึง 10 Speed ขนาด Pajero Sport ที่ว่าให้มาเยอะแล้วถึง 8 Speed ยังต้องยอม ใครใคร่อยากควบปีศาจในคราบหรู ต้องเลือกเลยกับ Everest แต่ถ้าใครเห็นพ้องพอเพียงแค่ม้าระดับ 181 ตัวที่เรี่ยวแรงใช่ว่าจะขี้เหร่ก็ไปทาง Pajero Sport ได้เช่นกัน แต่ถึงยังไงแม้ราคาจะแรงกว่า แต่กับความแรงระดับที่น่ารอง ยกนี้จึงต้องให้กับความสดใหม่ และความแรงที่มามากกว่า เป็น Ford Everest ที่ได้เข้าวิน  

5.เปรียบเทียบความปลอดภัย Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport 
Ford Everest

ความปลอดภัยที่จัดมาให้แน่นกว่าเดิมในเรื่องของ Active Safety ที่การไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดมีการเพิ่มระบบช่วยเบรก  AEB(Autonomous Emergency Braking) เข้ามา จากเดิมแค่เตือนเปลี่ยนมาเป็นช่วยเบรกเพื่อความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่น่าสนใจใน Everest ยังมีอีกเพียบได้แก่ 

  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านนิรภัย, หัวเข่าคนขับ) 
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System
  • ระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information System
  • ระบบแจ้งอาการเหนื่อยล้าผู้ขับขี่ Driver Alert System
  • ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในเลน Lane Keeping System
  • ระบบตรวจจับรถขณะออกจากช่องจอด Cross Traffic Alert
  • ระบบตรวจจับลมยาง Tire Pressure Monitoring System
  • ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน Emergency Assistance
  • ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ Active Park Assist
  • ระบบเบรกใช้เป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง

ความปลอดภัยที่ Everest ให้มา เต็มระบบกว่า ครบครันสมราคา

ความปลอดภัยที่ Everest ให้มา เต็มระบบกว่า ครบครันสมราคา

ความปลอดภัยที่ Everest ให้มา เต็มระบบกว่า ครบครันสมราคา 

Mitsubishi Pajero Sport 
ก็ไม่ยิ่งหย่อนกับระบบความปลอดภัยด้วย Active Safety มีมาให้เช่นกัน รวมไปถึงเรื่องของจำนวนถุงลม ที่ให้มาแบบสามารถปกป้องผู้โดยสารได้ทั้งคัน แม้จะนั่งอยู่ตรงไหนของห้องโดยสาร เอาเป็นว่าไปดูในเรื่องของความปลอดภัยของรุ่นนี้กันว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง 

  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ที่คู่หน้า, ด้านข้างแถวหน้า, หัวเข่าคนขับ และม่านถุงลมนิรภัยที่ยาวถึงแถว 3
  • เบรกมือไฟฟ้า
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว FCM
  • ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งกระทันหัน UMS
  • ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา BSM 
  • ระบบเบรกใช้เป็นแบบดิสก์เบรกทั้งหน้าและหลัง

ความปลอดภัยใน Pajero Sport  มองไปก็แค่เทียบเท่ามิราจ รถตัวเล็กของค่ายเท่านั้น

ความปลอดภัยใน Pajero Sport  มองไปก็แค่เทียบเท่ามิราจ รถตัวเล็กของค่ายเท่านั้น

แม้จะมากับระบบความปลอดภัยที่ใช้การช่วยของกล้องและเรดาห์เข้ามา เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุหรือความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งคู่ แต่รายละเอียดของ Everest เด่นกว่าอย่างเห็นได้ชัด Pajero Sport มีให้มาแต่ไม่เด่นเท่า Everest ดังนั้นในยกนี้ แม้จะต้องจ่ายแพงกว่ากับเรื่องความปลอดภัย ที่ประนีประนอมไม่ได้ ยกให้ฝั่งที่ให้มากกว่าอย่าง Ford Everest เป็นฝ่ายเข้าวินไป 

6.สรุปซื้อคันไหนดีระหว่าง Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport
กับความนิยมในเรื่องแบรนด์ที่ใกล้เคียงกันทั้งคู่ จึงตัดออกไปในความสูสีของเรื่องนี้ ที่น่าสนใจคือราคาที่แพงกว่าเกือบ 3 แสนบาท ตัวเลขที่แทบจะซื้อรถอีกโคคาร์ได้อีกคัน ซึ่งจุดที่ทำให้ Everest ไมเนอร์เชนจ์แพงกว่า หลักๆ คงเป็นเรื่องของ เครื่องยนต์อันสุดแสนจะดุดัน ม้า 213 ตัว แรงบิด 500 Nm เกียร์ 10 Speed มาทรงเดียวกับกระบะตัวโหดคันละล้านเจ็ดอย่าง Ranger Raptor ซึ่งเชื่อว่ามีผู้ซื้อหลายคนอยากลิ้มลองกับพลังการขับเคลื่อนใหม่ที่มาในครั้งนี้ 

และกับ Pajero Sport อาจดูเหมาะสมกับราคาเมื่อเทียบกับสิ่งที่ให้มาในด้านต่างๆ แบบ “พอเพียง” ใช้งานครบๆ ตามอเนกประสงค์ของความเป็น PPV ก็จริง แต่คำถามคือ ตัวผู้ซื้อพอใจแค่ไหนสำหรับรถประเภทนี้? แค่ได้มาซึ่งความเป็น PPV ก็พอแล้ว หรือ! อยากก้าวไปให้ถึงขั้น “สุดกว่า” ที่แน่นอนว่าคุณต้องแลกด้วยการจ่ายเงินเพิ่ม เพื่อได้มาซึ่งความเป็น PPV ราคาแพงที่สุดในตลาดเมืองไทยตอนนี้ 

ถามว่าคุ้มไหม? ก็มองได้เป็นเหรียญสองด้าน ตามความเป็นจริง บางคนอาจจะคิดว่าเพื่อเครื่องยนต์และเกียร์กับช่วงล่างที่พิเศษขึ้นของ Everest ฉันต้องจ่ายเพิ่มถึงเกือบ 3 แสนเลยหรือ? ซื้อ Pajero Sport ดีกว่าหรืออาจไปมองไปที่รุ่นรองลงมาของ Everest ที่ราคาใกล้เคียงกับ Pajero Sport เพื่อทดแทน แต่ก็ไม่ได้ระบบขับสี่

ดุเพิ่มเติม
>> 
ราคา Mitsubishi Pajero Sport 2018 เดือนพฤษภาคม 2561
>> 10 อย่างใหม่ใน Mitsubishi Pajero Sport 2018

เลือกซื้อตามปัจจัยที่จะใช้แล้วนำมาตัดสินใจ ตอบได้เลยว่าน่าซื้อทั้งคู่ แต่จะให้สุด! ต้อง Everest

เลือกซื้อตามปัจจัยที่จะใช้แล้วนำมาตัดสินใจ ตอบได้เลยว่าน่าซื้อทั้งคู่ แต่จะให้สุด! ต้อง Everest

เลือกซื้อตามปัจจัยที่จะใช้แล้วนำมาตัดสินใจ ตอบได้เลยว่าน่าซื้อทั้งคู่ แต่จะให้สุด! ต้อง Everest

แต่กับบางคนที่อารมณ์ความพิเศษสำคัญกว่าก็ยอมจ่ายได้ และสำหรับการเปรียบเทียบโดยรวมทุกด้านแล้ว Chobrod มองว่า ถ้าจะเลือกกับความเป็นรถหรู PPV ทั้งที เหตุผลอะไรที่จะไม่ไปให้ถึงขั้นสุดกว่า ทั้งเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และความปลอดภัยละ เมื่อรถในคลาสนี้ สิ่งที่ผู้ซื้อต้องการคือ “ความพิเศษที่เหนือกว่า” รถทั่วไปในทุกด้านอยู่แล้ว ก็ควรเลือกคันที่ดีที่สุดไปเลย ดังนั้นเมื่อมองคันที่ดีที่สุด คำตอบในคำถามที่ว่า Ford Everest กับ Mitsubishi Pajero Sport ซื้อคันไหนดี คงจะเป็น Ford Everest เป็นคำตอบสุดท้าย 

และนี่คือหนึ่งความคิดเห็นจากเรา เพื่อให้คุณนำไปประกอบการตัดสินใจระหว่างสองรุ่นนี้ ไม่นับเรื่องแบรนด์หรือบริการหลังการขายเข้ามาเกี่ยว ซึ่งแต่ละคนอาจมีความชอบหรือประสบการณ์ที่แตกต่าง ส่งผลให้การตัดสินใจต่างกัน บางคนอาจจะมองว่าจ่ายแพงกว่าทำไมในเมื่อเครื่องยนต์ ไม่ใช่ความสำคัญก็เลือก Mitsubishi Pajero Sport ซึ่งไม่ผิด แต่บางคนไม่ซีเรียสเรื่องราคา แต่ว่าขอให้ได้เครื่องยนต์แรงๆ พร้อมความปลอดภัยสูงสุดที่รถหนึ่งคันจะให้ได้ ความสะดวกสบายครบครันก็ไปทาง Everest ได้เช่นกัน  และสำหรับคุณละ คำตอบคือรุ่นไหน และเพราะอะไร บอกกับเรา Chobrod ให้ได้รู้หน่อยที่คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย 

แท็ก Ford Everest