ไม่ควรเสี่ยง! ออกรถชื่อคนอื่น อาจเสียเงินฟรี ท้ายที่สุดกลับไม่ได้ครอบครองรถ

ทุกคนที่ซื้อรถใช้เอง เชื่อว่าไม่มีใครอยากจะใช้ชื่อคนอื่นในการซื้อหรอก แต่ก็มีบ้างที่มีความจำเป็นบางอย่าง ทำให้ไม่สามารถออกรถในชื่อของตัวเองได้ จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่ใกล้ชิดและไว้ใจได้ ในการช่วยเป็นผู้ออกรถให้ และตกลงว่าตนจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งค่างวดรถด้วยตัวเอง แต่คนที่คุณคิดว่าไว้ใจได้ มั่นใจแค่ไหนว่าไว้ใจได้จริง ? มีความเสี่ยงมากมาย ที่จะเกิดขึ้นต่อบุคคลที่ส่งรถชื่อคนอื่น และนี่คือเหตุผลที่ไม่ควรซื้อรถใช้เองในชื่อของอื่น

ออกรถชื่อคนอื่น​ เสียเงินมากมาย แต่สุดท้ายไม่ได้ครอบครอง

เป็นความเสียหายร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นได้ และก็มีเคยเกิดขึ้นกันมาแล้ว สำหรับกรณีที่ผู้ใช้รถทำการส่งค่างวดรถจนครบ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้รับการโอนคืนให้เป็นชื่อของตนเอง ปัญหาอาจเกิดจากเจ้าของชื่อเกิดความโลภขึ้นมาบังตา คิดจะรวบทรัพย์สินที่ตนไม่ได้เป็นผู้จ่ายตั้งแต่แรกมาเป็นของตัวเอง ซึ่งเมื่อถึงเวลานี้ จะอ้างความไว้ใจก็คงใช้ไม่ได้กับคนโลภ

หรือเกิดกรณีที่มีปัญหาความขัดแย้งขึ้นมาระหว่างการส่งค่างวด และอีกฝ่ายเกิดตุกติก คิดไม่ซื่อขึ้นมา เรียกรถที่ส่งค่างวดไปแล้วบ้างคืน โดยการอ้างกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้องในเอกสารขึ้นมา และสุดท้ายถ้าต่อรองกันไม่ได้ก็กลายเป็นว่าที่ผ่านมาเหมือนเช่ารถใช้เสียอย่างนั้น เสียเงินไปมากมาย สุดท้ายไม่ครอบครองเฉยเลย

เสียสิทธิ์ที่พึงได้ เมื่อไม่ได้เป็นเจ้าของชื่อรถ

หากมีสิทธิพิเศษ โปรโมชั่นดี ๆ หรือกิจกรรมเกี่ยวกับรถ ทางไฟแนนซ์หรือบริษัทค่ายรถยนต์ จะส่งข้อเสนอเหล่านี้ไปยังแก่ชื่อเจ้าของรถ แม้แต่เรื่องของเอกสารการชำระเงินเองก็ตาม ซึ่งทางผู้ใช้รถก็ต้องเป็นฝ่ายที่ต้องติดตามสถานนะด้วยตัวเอง ถ้าเป็นเรื่องของการจ่ายเงิน แน่นอนว่าคุณคงได้รับการติดต่อจากเจ้าของชื่อ แต่หากเป็นข้อเสนอต่าง ๆ ผู้ทีได้รับข้อมูลอาจละเลย ไม่ได้สนใจ และนั่นก็จะทำให้คุณพลาดตรงนี้ไปด้วย และไม่แน่ว่าเขาอาจจะเก็บไว้ใช้สิทธิ์เอง ซึ่งก็ใช่เรื่องที่ผิด แต่ก็นั่นทำให้คุณเองเสียสิทธิ์ที่พึงจะได้จากการที่เป็นผู้ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้เสมอมา

ดูเพิ่มเติม
>> จะเคลมได้ไหม? เคลมได้หรือเปล่า โดนน้ำท่วมประกันรถยนต์จ่ายให้เท่าไหร่?
>> 3 เรื่องที่ควรรู้ ก่อนซื้อประกันภัยรถยนต์ออนไลน์

ออกรถชื่อคนอื่น เกิดความยุ่งยาก ถ้าหากต้องเคลมประกัน

ถึงแม้ประกันส่วนใหญ่ จะครอบคลุมและดูแลในส่วนของรถเป็นหลัก มากกว่าจะโฟกัสไปที่ว่าใครเป็นผู้ขับขี่ แต่นั่นก็คือความยุ่งยาก เมื่อการเคลมประกัน และการรับเบี้ยประกันหลังได้รับการเคลม ทางบริษัทจะผ่านบัญชีเจ้าของชื่อรถเท่านั้น เพราะการทำประกันภัยรถยนต์จำเป็นที่ต้องใช้ชื่อผู้เอาประกันภัยเป็นชื่อเดียวกับชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์รถยนต์เท่านั้น

เมื่อเกิดกรณีจำเป็นที่ต้องติดต่อประกัน จึงจะมีความซับซ้อนยุ่งยาก เพราะประกันอาจจะเล่นแง่ หาข้อโต้แย้งมางัดได้ ว่าผู้ขับขี่ไม่ใช่ชื่อเจ้าของรถ เผลอ ๆ อาจต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายด้วยตัวเอง หากพบว่าฝ่ายผิดคือทางคุณ ซึ่งถ้าหากไม่อยากให้มีปัญหา ให้ศึกษาเรื่องการทำประกันแบบระบุชื่อเอาไว้ก็ได้โดยระบุชื่อของผู้ใช้รถตัวจริงเพิ่มไปสำหรับผู้เอาประกัน เพื่อลดขั้นตอนความยุ่งยากที่จะเกิดขึ้น

เจ้าของกรรมสิทธิ์เสียชีวิต มีสิทธิ์ไม่ได้ครอบครองในที่สุด

และนี่คือความเสี่ยงที่ถ้าหากเกิดขึ้นมา จะเป็นเรื่องที่ต้องลุ้นไปกับความสำนึกของจิตใจมนุษย์ก็ว่าได้ เพราะหากผู้ที่คุณยืมชื่อเขามาออกรถ เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาอย่างที่ไม่มีใครอยากให้เกิด นั่นคือเกิดเสียชีวิตและหมดสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตอยู่ต่อ ซึ่งจะทำให้มีผลกระทบร้ายแรงมาก สำหรับผู้ที่รับผิดชอบในการซื้อรถในชื่อของคนอื่นที่เสียชีวิตไปแล้ว

ปัญหาอย่างแรกเลยคือ มีโอกาสสูงมากที่รถที่ส่งค่างวดอยู่จะสืบตกไปอยู่กับทางครอบครัวของเจ้าของกรรมสิทธิ์ ถ้าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ไม่ใช่ปัญหา แต่หากคุณคือคนนอก สิทธิ์ของรถก็จะหลุดลอยไปในทันที และนั่นคือช่วงเวลาที่คนต้องไปเผชิญหน้าและรับบททดสอบจิตใจมนุษย์ นั่นเพราะว่าทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต มีสิทธิ์เต็มที่ที่จะได้รับสืบทอดทรัพย์สินชิ้นใหญ่นี้ตกไปแทบจะในทันที

คุณอาจต้องเหนื่อยที่ต้องยื่นต่อรองและพิสูจน์ให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบว่า รถคันที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เสียชีวิตนั้น คุณเป็นผู้รับผิดชอบในการส่งค่างวดอยู่ ซึ่งหากคุณเองต้องเจอเข้ากับกลุ่มบุคคลที่ขาดสำนึก นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่คุณต้องเหนื่อยขึ้นเป็นอีกเท่าตัว เพราะสิทธิ์การครอบครองรถนั้น ฝั่งญาติผู้เสียชีวิตได้รับประโยชน์ไปเต็ม ๆ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ที่ผ่านมาก็เหมือนว่าคุณได้ช่วยส่งรถเขาไปฟรี ๆ เหมือนเช่ารถมาขับเล่นนั่นเอง

ประกันชีวิตช่วยได้แค่ไหน ? หากเจ้าของชื่อรถเสียชีวิต

ยังรวมไปถึงเรื่องของสิทธิ์ประกันชีวิตด้วย ที่โดยส่วนมาก ทางไฟแนนซ์หลาย ๆ ที่ จะมีการเสนอให้ทำร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นคุณเองนี่แหละ ที่เป็นคนส่งให้กับเจ้าของชื่อรถ และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อยากฝากให้ผู้ที่กำลังยืมชื่อคนอื่นมาผ่อนรถให้ตนเองนั้นคิดให้ดี ๆ เพราะเมื่อสุดท้ายแล้ว ผลประโยชน์จะไม่ได้ตกมาที่คุณสักบาท

จะเป็นข้อดีก็ว่าได้ หากรถนั้นยังส่งไม่หมด เพราะประกันชีวิตส่วนนี้จะจัดการเรื่องส่วนต่างให้ และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่อาจมีหลายฝ่ายมาทวงถามหาความเหมาะสม เพราะการที่เจ้าของชื่อรถเสียไป ในขณะที่ผู้ที่รับผิดชอบส่งต่อ จะได้รับเงินจากประกันทำให้ไม่ต้องส่งค่างวดที่เหลือ แต่ก็นั่นแหละ ปัญหานี้มันก็จะมีเรื่องของญาติผู้เสียชีวิตมาเกี่ยวข้อง และเป็นประเด็นที่ต้องช่วงชิง ถามหาสิทธิประโยชน์กันไม่จบสิ้น จนสุดท้าย ก็กลายเป็นความขัดแย้งที่บทสรุปอาจไปจบตรงที่คุณจะไม่ได้อะไรเลยก็ได้ เพราะไม่มีสิทธิ์ตั้งแต่แรก

จะเห็นได้ว่ามีความเสี่ยงและความยุ่งยากมากขนาดไหน กับการใช้ชื่อคนอื่นมาออกรถให้ตัวเอง และการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดที่ขอแนะนำตอนนี้ คือขอให้มีการสร้างสัญญาขึ้นมาระหว่างผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์และผู้ใช้รถอย่างเป็นทางการ มีหลักฐานและพยานที่ชัดเจน รวมไปถึงจัดกับหลักฐานการโอนรถและจดบันทึกเก็บเอาให้ดูน่าเชื่อถือ เป็นการป้องกันเบื้องต้นที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว สำหรับการใช้ชื่อคนอื่นมาออกรถให้กับคุณ

ดูเพิ่มเติม
>> ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ สิ่งประกันมักชอบปกปิด
>> มีเงินก้อน จะโปะหรือปิดค่างวด จ่ายเกินยอดคุ้มกันหรือเปล่า?
 

ติดตามข่าวสารรถยนต์ คลิกที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสองราคาดีเชิญเข้าดูที่ ตลาดรถรถมือสองตรงนี้