หลายคนไม่รู้ว่าการผ่อนรถนั้นนอกจากการผ่อนแบบปกติแล้ว ยังมีอีกระบบที่เรียกว่าการผ่อนแบบบอลลูนด้วย แต่จะแตกต่างกันอย่างไรนั้นต้องไปอ่านกันเลย
ช่วงปีใหม่โบนัสออกก็คงมีหลายคนเตรียมออกรถใหม่ออกบ้านใหม่กันให้พรึ่บ และคำนวณยอดผ่อนกันยาวๆ ไป แต่รู้มั้ยว่านอกจากผ่อนแบบปกติแล้ว ยังมีระบบผ่อนอีกแบบที่เรียกว่า ผ่อนแบบบอลลูน ซึ่งมักใช้กับการผ่อนรถเป็นหลัก แล้วต่างจากผ่อนแบบธรรมดาอย่างไรนั้น วันนี้ทาง unseencar จึงได้นำเรื่องของการผ่อนรถทั้ง 2 แบบมาฝากกัน
หลักการของการผ่อนแบบบอลลูนคือ ผ่อนเดือนละน้อยๆ แล้วจ่ายเกินก้อนในงวดสุดท้าย สมมติโดยคร่าวๆ ว่าเราซื้อรถราคา 2 ล้านบาท วางเงินดาวน์ 500,000 บาท จากนั้นผ่อนเดือนละประมาณ 20,000 บาท เป็นระยะเวลา 60 เดือน จากนั้นในงวดสุดท้ายต้องจ่ายเงินอีกราว 800,000 บาท
การผ่อนรถแบบบอลลูนนิยมใช้ในการผ่อนรถยุโรปที่มีราคาสูง หรือสำหรับรถยนต์ญี่ปุ่นก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่จะไม่เห็นความแตกต่างของยอดผ่อนรายเดือนมากนัก
การผ่อนรถแบบบอลลูน มีข้อดีคือ ยอดผ่อนต่อเดือนน้อย ช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น ซึ่งหากทำงานที่มีรายได้ประจำ ผ่านไปราว 5-6 ปี ก็มีโอกาสที่เงินเดือนละโบนัสจะเพิ่มขึ้น จนสามารถเก็บเงินก้อนมาจ่ายในงวดสุดท้ายได้ ส่วนข้อเสียคือแม้ยอดผ่อนต่อเดือนจะน้อย แต่หากลองคำนวณแล้วจะพบว่า ยอดผ่อนแต่ละเดือนนั้นเป็นเงินต้นค่อนข้างน้อย และเป็นดอกเบื้ยเยอะกว่า (คล้ายการจ่ายบัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดขั้นต่ำ ซึ่งยอดที่จ่ายมักเป็นดอกเบี้ยมากกว่าเงินต้น) ส่วนการผ่อนแบบธรรมดานั้นมีข้อดีที่เป็นที่รู้กันอยู่คือยอดผ่อนคงที่ และมักเป็นระบบที่นิยมมากกว่า
ตารางผ่อนแบบทั่วไป
ตัวอย่างราคาผ่อนแบบบอลลูนของ Mercedes Benz
หากวินัยทางการเงินไม่ดี อาจต้องมาเสียใจกับสินค้าเงินผ่อนในภายหลังได้นะ
รู้แบบนี้แล้วก็ลองเช็คสภาพการเงิน และวางแผนการเงินของตัวเองดีๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะเลือกผ่อนแบบไหน และก่อนจะเลือกผ่อนรถ ก็ต้องอย่าลืมเรื่องการมีวินัยทางการเงินด้วยนะ เพราะเมื่อผ่อนแล้วจะมีภาระผูกพันไปอีกหลายปี
อ่านเพิ่มเติม