ท้าชน! ศึกรถครอบครัว KIA Grand Carnival 2018 ปะทะ Mitsubishi Xpander 2018

ประชัน KIA Grand Carnival VS Mitsubishi Xpander

สำหรับตลาดรถครอบครัวของปี 2018 ที่คึกคักมาตั้งแต่ช่วงต้นปี เพราะทั้ง Mitsubishi และ Toyota ก็ได้เปิดตัวรถครอบครัวโฉมใหม่มาได้อย่างน่าตื่นเต้นกับภาพลักษณ์ใหม่ และแน่นอนว่า KIA เจ้าตลาดกลุ่มรถครอบครัวเองก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน และได้เปิดตัว KIA Grand Carnival รถครอบครัว 11 ที่นั่งมาให้จับจองเป็นเจ้าของกัน สำหรับ Chobrod ก็ได้ยก KIA Grand Carnival และ Mitsubishi Xpander 2018 มาเปรียบเทียบให้เห็นกันไปเลยว่าใครโดดเด่นเรื่องไหน เพราะทั้ง 2 รุ่นนี้ ก็โดดเด่น และน่าจับจองเป็นเจ้าของทั้งคู่

Exterior Design

KIA Grand Carnival 2019

โฉมภายนอกของ KIA Grand Carnival กับดีไซน์ใหม่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Tiger Nose Grille

มาดูกันที่รูปลักษณ์ภายนอกของทั้ง 2 รุ่นนี้กันก่อนเลยค่ะ เริ่มกันที่ KIA Grand Carnival แม้จะเป็นรถ MPV ขนาดใหญ่ แต่หน้าตาของรถคันนี้ใกล้เคียงกับรถยนต์นั่งมาก และยังเสริมความสปอร์ตแบบเฉียบคมในหลายจุดที่โดดเด่นบนตัวถังภายนอกทั้งกรอบโคมไฟหน้าที่ออกแบบมาอย่างลงตัว และดูไม่น่าเบื่อ ด้วยการสร้างมิติ และเล่นทรวดทรงการออกแบบที่สวยงาม สอดรับกับกระจังหน้าโครเมียมขนาดใหญ่แบบ Tiger Nose Grille และกรอบโคมไฟตัดหมอกด้านล่าง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วทำให้รถดูสูงขึ้น ขณะที่กระจกรอบคันที่เชื่อมต่อกันทุกบาน ทำให้ตัวรถดูไม่ทึบแบบรถตู้ทั่วไป ช่วงท้ายมีขนาดค่อนข้างใหญ่ มาพร้อมสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3 ที่ตำแหน่งบนสุดของตัวรถ ไฟท้ายออกแบบมาอย่างสวยงามลงตัว ด้านบนของกันชนหลังติดขอบยางสำหรับกันรอยในกรณีที่ต้องการขนสินค้าเข้าออกจากประตูบานหลังมาให้ ขนาดตัวรถยาว 5,115 มม. กว้าง 1,985 มม. สูง 1,740 มม. ระยะฐานล้อ 3,060 มม. ระยะห่างพื้น 171 มม. ความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร ล้อแม็ก 18 นิ้ว ยาง 235/60 (เว้นรุ่น LX ล้อขนาด 17 นิ้ว)

ดูเพิ่มเติม
>> ไขความลับ KIA Grand Carnival กับความเฉียบคมของงานดีไซน์
>> เมื่อ Kia Grand Carnival ปะทะกับ Toyota innova Crysta​
 

Mitsubishi Xpander 2018

Mitsubishi Xpander 2018 กับดีไซน์หนักแน่น ดูดุดัน ด้วย Dynamic Shield อันเป็นเอกลักษณ์

ภายนอกของ Mitsubishi Xpander มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ของ Mitsubishi โดยยังคงเอกลักษณ์ด้านหน้าแบบ Dynamic Shield ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ Mitsubishi Pajero Sport ไฟหน้าได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็น 2 ชั้น โดยชั้นบนเป็นไฟหรี่ LED ชั้นล่างเป็นไฟหลักแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ฮาโลเจน พร้อมด้วยไฟเลี้ยวขนาดใหญ่ และในรุ่น GT มีไฟตัดหมอกทรงกลมให้ด้วย ตัวถังด้านข้างออกแบบให้มีเส้นสายดูชัดเจน ช่วยเพิ่มมิติตัวถังให้ดูบึกบึนแข็งแรง เสา D-Pillar ถูกออกแบบให้มีแถบสีดำเพื่อเพิ่มความต่อเนื่องจากด้านข้างไปยังประตูหลัง โดยรวมทำให้ตัวรถดูทันสมัยมากขึ้น ขณะที่ไฟท้ายเป็นแบบ LED ดีไซน์รูปตัว L มาพร้อมไฟถอยหลังแบบ LED เช่นกัน ขณะที่ไฟเบรกและไฟเลี้ยวยังคงเป็นหลอดไส้ธรรมดา ส่วนไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ถูกติดตั้งไว้กับสปอยเลอร์ มาพร้อมล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 16 นิ้ว

Interior Design

ที่นั่ง 11 แบบสามารถปรับได้อย่างอิสระ

พื้นที่ว่างระหว่างเบาะโดยสารกว้าง นั่งได้สบาย

ต่อกันที่ภายในของ KIA Grand Carnival กว้างขวางด้วยเบาะอเนกประสงค์ 11 ที่นั่ง ที่ยังคงความหรูหราเช่นเคย แม้จะดูคล้ายรุ่นก่อนหน้า แต่ก็มีรายละเอียดที่เพิ่มเข้ามาอีกมากมายทั้งคอนโซลหน้าที่ใช้วัสดุแบบซอฟต์ทัช นุ่มมือ มาตรวัดแบบวงกลม 2 ช่อง ในรูปแบบ Supervision Cluster ที่ช่วยให้อ่านมาตรวัดได้ง่ายขึ้น พร้อมจอแสดงผลตรงกลางขนาด 7 นิ้ว แบบ TFT ระบบเครื่องเสียงจอสัมผัส 8 นิ้ว เชื่อมต่อ AUX, USB, iPod เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto และ Bluetooth และติดตั้งจอ LCD สำหรับผู้โดยสารตอนที่สองอีกด้วย ห้องโดยสารของ KIA Grand Carnival ขึ้นชื่อเรื่องความกว้างใหญ่โตอลังการกับ 11 ที่นั่ง เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมเมโมรี่กระจกข้างฝั่งคนขับ 2 ตำแหน่ง ฝั่งคนขับมีโหมดปรับดันหลังเพิ่มมา เสริมออปชันระบบเป่าลมเย็นออกมาจากเบาะ ซึ่งเป็นลมจากระบบปรับอากาศที่ดูดผ่านตัวเบาะขึ้นมา ทำให้รู้สึกเย็นสบายตัวเวลาเข้ามานั่ง นอกจากนี้หากอยู่ในช่วงหน้าหนาวก็มีระบบเป่าลมร้อนมาให้ด้วย

ที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ สามารถเพิ่มพื้นที่ได้ด้วยการ พับเบาะลง

ในรูปแบบปกติเบาะจะจัดวาง 6 ที่นั่งแบบกำลังสบาย แต่หากมีผู้โดยสารเพิ่มมาก็สามารถเปิดเบาะตรงกลางระหว่างที่นั่งได้อีก 2 ตำแหน่ง และหากต้องการเพิ่มที่นั่งก็สามารถดึงเบาะที่พับเก็บอยู่ตอนหลังสุดขึ้นมาได้ แต่อาจต้องปรับระยะเบาะตอนที่สอง และสามให้พอมีระยะที่พอว่างขาในตอนที่สี่ สำหรับขนาดตัวถังถือว่าเป็นรถที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ไม่เพียงแต่ทำให้มีระยะห่างระหว่างเบาะแต่ละตอนแล้ว ด้วยระยะห่างจากพื้นที่ไม่มากจนเกินไปก็ช่วยให้ผู้สูงวัย หรือเด็กสามารถเดินขึ้น – ลงได้สะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย

ภายในตกแต่งด้วยโทนสีเบจ ให้ความรู้สึกเรียบหรู

เบาะ 3 แถว สามารถปรับได้อย่างอิสระ

ภายในห้องโดยสารของ Mitsubishi Xpander ตกแต่งโดยเน้นโทนสีเทา-ดำ เบาะนั่งของทั้ง 2 รุ่นย่อยเป็นแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยรุ่น GT ถูกหุ้มด้วยวัสดุหนัง ขณะที่ GLS-LTD หุ้มด้วยผ้า ตัวเบาะนั่งผู้ขับขี่สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ แต่จะยกขึ้นลงได้เฉพาะช่วงรองสะโพกเท่านั้น ขณะที่ตัวเบาะช่วงหน้าที่ไว้ซัพพอร์ตต้นขาจะไม่สามารถขยับขึ้น-ลงได้ ต่างจากรถรุ่นอื่นๆ ที่มักจะยกขึ้น-ลงได้ทั้งเบาะ ส่วนเบาะนั่งฝั่งผู้โดยสารปรับได้ 4 ทิศทางตามปกติ เบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับพับแบบ 40:20:40 ได้ โดยไม่มีที่วางแขนมาให้ หากต้องการจะวางแขน ต้องพับส่วน 20 ลงมา จึงจะได้เป็นที่วางแขนขนาดพอเหมาะ แต่ก็จะมีช่องว่างทะลุไปยังเบาะนั่งแถวที่ 3 อยู่ แม้ว่าตำแหน่งที่นั่งตรงกลางของเบาะนั่งแถวที่ 2 ไม่มีพนักพิงศีรษะมาให้อีกต่างหาก แต่จุดเด่นของเบาะนั่งแถวที่ 2 อยู่ตรงที่สามารถขยับขึ้นหน้า-หลังได้ ทำให้สามารถเข้าออกแถว 3 ได้สะดวกมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มพื้นที่วางขาสำหรับผู้โดยสารแถวหลังสุดได้ ส่วนเบาะนั่งแถวที่ 3 สามารถปรับพับแบบ 50:50 มีพนักพิงศีรษะให้ 2 ตำแหน่ง และสามารถปรับเอนได้พอประมาณ

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก

จอ Infotainment พร้อมกล้องหลัง และตัวช่วยขณะถอยรถ

ปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานของรถ มีการจัดวางใหม่โดยอยู่ในตำแหน่งเดียวกับเกียร์

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก KIA Grand Carnival ได้เพิ่มหน้าจอแสดงข้อมูล MID (Multi Information Display) ขนาดใหญ่ เพิ่มการควบคุมผ่านทางแผงสวิตช์บนก้านพวงมาลัยฝั่งขวา สวิตช์ควบคุมโทรศัพท์ บนก้านพวงมาลัยฝั่งซ้าย เปลี่ยนจากแบบสี มาเป็นแบบเรืองแสงชุดเครื่องเสียง เปลี่ยนมาใช้หน้าจอ Monitor สี แบบ Touch Screen รุ่น LX ยังเป็นแบบ 7 นิ้ว แต่ EX และ SXL เป็นแบบ 8 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการ Apple CarPlay และ Andriod Auto ติดตั้งแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย Wireless Charger มาให้ พร้อมช่องเสียบ USB และ AUX อยู่ติดกัน แผงคันเกียร์ปรับตำแหน่งสวิตช์ต่างๆ ใหม่ โดยยังคงรักษา สวิตช์ Heater อุ่นเบาะคู่หน้า แยกฝั่งเบาะซ้าย – ขวา เลือกปรับความร้อนได้ 3 ระดับ ทั้งคู่ รวมทั้งสวิตช์เปิด – ปิด ระบบ Heater อุ่นพวงมาลัย ระบบโปรแกรมการขับขี่ Active ECO System เน้นความประหยัดน้ำมัน โดยควบคุมการทำงานของลิ้นคันเร่ง ระบบเกียร์ และระบบปรับอากาศ นอกจากนี้สวิตช์เปิด – ปิด เซ็นเซอร์ช่วยกะระยะขณะถอยหลังเข้าจอด ทั้งด้านหลังรถ และด้านหน้า

ประตูอัตโนมัติแบบเลื่อนได้ ไฮไลท์สำคัญของ KIA Grand Carnival

การออกแบบให้ทุกที่นั่งได้รับความสะดวกสบายสมชื่อความเป็นรถครอบครัว เริ่มด้วยประตูสไลด์ไฟฟ้า ประตูท้ายไฟฟ้า สามารถสั่งเปิด-ปิดด้วยรีโมทคอนโทรล พร้อมระบบต้อนรับเมื่อเดินเข้าใกล้ตัวรถ กระจกข้างและไฟ "Welcome Light" ที่มือจับประตูจะสว่างขึ้น ระบบปรับอากาศแยกการสั่งผู้โดยสารตอนหน้าและตอนหลัง รวมถึงแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา นอกจากนี้ผู้โดยสารตอนหลังยังสามารถปรับได้ตามต้องการที่ชุดควบคุมระบบที่ติดตั้งอยู่ด้านแผงหลังคาด้านขวา พร้อมกับระบบฟอกอากาศ Cluster Ionizer มีออปชั่นตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายแบบเช่น ที่วางแก้วน้ำ เบาะพับเก็บได้ กล่องใส่ของใต้ที่วางแขนคอนโซลกลางขนาดใหญ่ ที่วางแก้วน้ำที่หิ้วถุงใส่กาแฟแบบ 2 แก้ว ที่วางแก้วน้ำผู้โดยสารในทุกๆ แถว จุดชาร์จไฟ DC12V ด้านข้างที่นั่งข้างคนขับ สวิตช์เลือกระบบเปิด-ปิดไฟหน้า พร้อมโหมด AUTO สะดวกด้วยชุดควบคุมระบบเปิด-ปิดประตูสไลด์ซ้าย-ขวา สวิตช์หลังคาซันรูฟทั้งตอนหน้า และหลัง

หน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว

พอร์ต USB และ AUX ใต้เครื่องเสียง

จาก รีวิว Mitsubishi Xpander ก็มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกจัดให้แบบเต็มๆ ไม่แพ้กันเลย ทั้งกระจกข้างปรับพับด้วยไฟฟ้า, มาตรวัดขับขี่แบบ High Contrast พร้อมจอ MID แบบ TFT สีขนาด 4.2 นิ้ว, พวงมาลัยหุ้มหนังมัลติฟังก์ชั่น 3 ก้าน ปรับขึ้น-ลง เข้า-ออกได้, Cruise Control, ปุ่มรับ-วางสารโทรศัพท์บนพวงมาลัย, กุญแจ KOS พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, กระจกหน้าต่างขึ้น-ลงอัตโนมัติฝั่งคนขับ, ระบบปรับอากาศแบบแมนนวล พร้อมฮีทเตอร์, ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบอิสระ ติดตั้งเหนือเพดาน เครื่องเสียงของรุ่น GT เป็นแบบหน้าจอสัมผัสขนาด 6.2 นิ้ว รองรับ DVD/MP3 และ Bluetooth ได้ พร้อมพอร์ต USB และ AUX ติดตั้งอยู่บนตัวฟร้อนท์ ซึ่งข้อเสียอยู่ที่จะมีสายเกะกะบ้างเวลาใช้งานพอร์ตเหล่านี้ โดยเครื่องเสียงชุดนี้เป็นของโซนี่ มาพร้อมลำโพงทั้งหมด 6 จุด ซึ่งคุณภาพเสียงถือว่าพอใช้ได้ มีเบสให้สัมผัสได้อยู่เล็กๆ และยังสามารถปรับอีควอไลเซอร์ได้เองด้วย ด้านความอเนกประสงค์ของ Xpander มีที่วางแก้วน้ำให้ทั้ง 3 แถว ระหว่างเบาะนั่งคู่หน้าเป็นกล่องเก็บของพร้อมฝาปิดแบบสไลด์ แต่น่าเสียดายตรงที่มันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้วางแขนแต่อย่างใด เหนือเพดานติดตั้งราวจับมาให้ 5 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟขนาด 12 โวลต์มีให้ 3 ตำแหน่ง (แผงคอนโซลหน้า, ในกล่องเก็บของระหว่างเบาะหน้า และบริเวณเบาะนั่งแถวที่ 3 รวมถึงช่องเก็บของหลังเบาะผู้โดยสารด้านหน้า ถูกออกแบบให้มีช่องเล็กๆ ที่สามารถเสียบไอแพดหรือสมาร์ทโฟนได้

ระบบความปลอดภัย

ความปลอดภัยครบครันด้วยถุงลมนิรภัยรอบคัน

ระบบแจ้งเตือนระยะใกล้รถคันข้างหน้าจนเป็นอันตราย

ระบบความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญของรถครอบครัว KIA Grand Carnival ยังคงระบบพื้นฐานเอาไว้เต็มคัน ได้แก่ ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BAS ระบบเบรกมือไฟฟ้า ระบบควบคุมการทรงตัว ESC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน HAC กล้องมองหลังปรับตามองศาการเลี้ยว เซ็นเซอร์รอบคัน กุญแจ Smart key เซ็นเซอร์ปลดล็อคเมื่อเกิดการชน และระบบปรับกระจกมองข้างลงต่ำในขณะถอยจอดเพื่อช่วยให้มองเห็นด้านข้างได้ชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ก็ได้เพิ่มระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Detector ถุงลมนิรภัยด้านข้างและม่านนิรภัย ระบบล็อคประตูอัตโนมัติตามความเร็วที่ตั้งไว้ และระบบป้องกันประตูสไลด์หนีบในรุ่น SXL อีกด้วย

โครงสร้างนิรภัยทำจากเหล็กที่มีแรงดึงสูง มั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย

ในการเก็บเสียงอย่างดี ช่วยลดการสั่นสะเทือนเบนซิน DOHC MIVEC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า

ช่วงล่าง และระบบกันสะเทือนถูกออกแบบพิเศษให้การเกาะถนนที่ดี เพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่

ขุมพลังของ Mitsubishi Xpander เป็นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ พร้อมปุ่ม Overdrive รองรับเชื้อเพลิงทางเลือกสูงสุด E20 ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และเหล็กค้ำหัวโช๊ค ด้านหลังแบบทอร์ชั่นบีม ติดตั้งพวงมาลัยไฟฟ้า EPS พร้อมระบบเบรกด้านหน้าแบบดิสก์ ด้านหลังแบบดรัม ทำให้การดูดซับแรงสะเทือนทำได้ค่อนข้างดี ในขณะที่ความมั่นคงขณะความเร็วสูงก็ทำได้ดีเช่นกัน

สรุป

KIA Grand Carnival ความครบครันของรถครอบครัว แต่ต้องแลกมาด้วยราคาสูง

จากรีวิว KIA Grand Carnival ถือได้ว่าทำได้ดีในเกือบทุกด้านเลยทีเดียว ในขณะที่ Mitsubishi Xpander ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน เพียงแต่อาจต้องวัดจากลักษณะการใช้งานของผู้ขับขี่เป็นหลักเสียมากกว่า เพราะ KIA Grand Carnival มีพื้นที่กว้างขวาง จึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ หรือครอบครัวที่มักเดินทางโดยมีสัมภาระจำนวนมาก แต่ Mitsubishi Xpander มีขนาดเล็กกว่าอาจรองรับจำนวนผู้โดยสาร หรือบรรจุของได้ในปริมาณที่น้อยกว่า สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกเรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลค่ะว่าจะชอบแบบเรียบๆ เพรียวลมแบบ KIA Grand Carnival หรือชอบแบบโฉบเฉี่ยว ดุดันสไตล์ Mitsubishi Xpander มากกว่า ขุมพลังต้องให้ KIA Grand Carnival เป็นผู้ชนะไป เพราะทำอัตราเร่ง และความเร็วได้ดีกว่า ในส่วนของเรื่องอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และระบบความปลอดภัยก็ต้องยกให้ KIA Grand Carnival เช่นกัน ด้วยราคาที่สูงกว่าก็ย่อมได้มากกว่าไป

Mitsubishi Xpander ความคุ้มค่าในราคาที่ไม่ถึง 1 ล้านบาท

มาดูกันในเรื่องของราคากันบ้างดีกว่าค่ะต้องบอกว่าราคาต่างกัน 2 เท่ากว่าๆ เลยนะคะ สำหรับ 2 ตัวนี้ โดยราคารุ่นท็อปของ Mitsubishi Xpander (รุ่น GT) อยู่ที่ 849,000 บาท และรุ่น GLS-LTD อยู่ที่ 779,000 บาท แต่ KIA Grand Carnival รุ่นล่างสุด (LX MY18) ราคาพุ่งไปที่ 1,622,000 บาท รุ่น EX MY18 อยู่ที่ 1,991,000 บาท และรุ่น SXL MY18 อยู่ที่ 2,292,000 บาท ก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่าราคาเจ็บๆ ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด หากใครจะเลือกรุ่นไหนก็ต้องแล้วแต่งบในกระเป๋ากันเลยนะคะ และเช่นเคยค่ะอย่าพลาดข่าวสารเรื่องราวเกี่ยวกับรถดีๆ ที่ Chobrod.com นะคะ

ดูเพิ่มเติม
>> ซื้อรุ่นไหนดีระหว่าง.. Kia Grand Carnival 2018 กับ Honda Odyssey 2018??
>> ครบไหม!!! เช็คความปลอดภัยของ Kia grand carnival 2018​

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่
ต้องการซื้อรถกระบะสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี