Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan ซื้อคันไหนดี?

เปรียบเทียบ Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan ซื้อคันไหนดี?

โดยการเปรียบมวยเทียบกันในครั้งนี้ จะอยู่ในพิกัดของความเป็นรถเล็กอีโคคาร์ที่ราคาอาจจะไม่อีโคด้วยสักเท่าไรนัก ไม่ต้องสงสัยว่า Mazda2 ทำไมจากเดิมที่เคยลุยตลาดแข่งกับเหล่ารถ B-Segment เช่น Vios หรือ City กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5L ตอนนี้ทางค่ายก็ผันตัวเข้ามาลุยร่วมกอบโกยในตลาดสายประหยัดอีโคคาร์นี้อย่างเต็มตัวด้วยการปรับออพชั่นสเปคให้ตัวรถอยู่ในเงื่อนไขของโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 ทั้งในเรื่องมลพิษที่ปล่อยออกมา อุปกรณ์ความปลอดภัย และเครื่องยนต์ของทั้งสองขนาด 1.3L, 1.5L ใน Mazda2 ตรงหมด และการเปรียบเทียบในครั้งนี้เพื่อให้ขนาด และประเภทเครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน จึงได้นำรุ่นเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.3L ของ Mazda2 มาทำการเปรียบเทียบกับ Yaris ATIV 1.2L ซึ่งเข้าเงื่อนไขโครงการอีโคคาร์อยู่แล้วด้วยเช่นกัน

สองแบบสองสไตล์ที่ใกล้เคียงเรื่องอารมณ์ คันไหนน่าซื้อกว่าต้องไปดู

1. เคาะราคาระหว่าง Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan

รุ่นย่อยของแต่ละค่ายที่จะนำมาเทียบกันครั้งนี้จะเลือกเป็นรุ่นย่อยตัวท็อปที่ราคาสูงสุดให้เห็นถึงเรื่องอุปกรณ์ที่แต่ละรุ่นให้มากันไปเลยว่าค่ายไหนจัดเต็มให้สุดได้แค่ไหนโดยรุ่นย่อยของ Yaris ATIV จะเป็นรุ่น S ส่วนฝั่งค่าย Zoom-Zoom! Mazda2 จะเป็นรุ่น High Plus

• Toyota Yaris ATIV S 1.2 ที่ราคา 635,000 บาท
• Mazda2 Sedan 1.3 Skyactiv-G High Plus 1.3 ที่ราคา 670,000 บาท

ห่างกันไม่มากสำหรับเรื่องของราคาค่าตัว เพียงตัวเลขแค่ 35,000 บาทอาจยังไม่เห็นภาพอะไรมากนัก ซึ่งต้องมาดูเรื่องอุปกรณ์ที่ให้โดยละเอียดกันอีกครั้ง ยกนี้ยังไม่ชัดเจนกับราคาที่ต่างกันไม่มากมายให้เป็นว่าเสมอสูสีกันไป

2. เปรียบเทียบภายนอก Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan
Toyota Yaris ATIV

การออกแบบที่ต่อยอด(หรือดัดแปลง) มาจากรุ่นเดิมที่มีจำหน่ายอยู่อย่าง Toyota Vios คงทำให้อดคิดถึงไม่ได้ในทันทีที่เห็น Yaris ATIV กับการปรับกลยุทธ์เพื่อมาลุยในตลาดรถเล็กอย่างเต็มตัวของ Toyota ด้วยการเปิดตัวรถในคลาสอีโคคาร์แบบโฉมใหม่หมดถึงสองรุ่นในเวลาใกล้เคียง แสดงให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจริงในตลาดรถประเภทนี้ ผลที่ได้ก็น่าประทับใจกับการครองอันดับหนึ่งในยอดขายได้ในทันทีที่ส่งมอบรถในเดือนแรก ความโฉบเฉี่ยวคือนิยามหลักของเส้นสายในการดีไซน์ เร้าใจกว่าที่เคยมีมาอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับ Yaris รุ่นก่อนหน้า เพิ่มความสปอร์ตด้วยโคมไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ กระจังหน้ารมดำ และกันชนที่ออกแบบมากับช่องดักลมขนาดใหญ่โดดเด่นตัดด้วยเส้นสีแดงที่ล่างสุด ความขัดแย้งที่ดูลงตัวเมื่อกระจกมองข้างถูกเพิ่มความสปอร์ตด้วยการสีดำเปียโนแบล็ค พร้อมแถบสีแดงและไฟเลี้ยวตกแต่ง กับมือเปิดประตูโครเมี่ยมพร้อมระบบเปิดประตูอัจฉริยะ​ Smart Entry และมิติเส้นสายของตัวรถช่วยทำให้ด้านข้าง Yaris ATIV ดูดีไม่น่าเบื่อ ต่อเนื่องมาถึงไฟท้ายรมดำแบบ LED Light Guiding ดีไซน์ล้ำ และด้านล่างสุดที่กันชนหลังเพิ่มลูกเล่นด้วยรีเฟลคเตอร์ท้าย สะกดทุกสายตาที่ขับตาม ช่วยทำให้รถดูน่าสนใจยิ่งขึ้น
ดูเพิ่มเติม:
>> All New Toyota Yaris ATIV 2018 มาพร้อมกับแคมเปญใหม่ของแต่งเพียบสไตล์ TRD ภายในงาน Bangkok International Motor Show
>> 5 รถ Sedan น่าซื้อของปี 2017
>> เปิดตัว Toyota Rush 2018 ในฟิลิปปินส์

สปอร์ตจ๋า เกินหน้าเกินตารถในคลาสเดียวกันสำหรับ ATIV

Mazda2 Sedan
เอกลักษณ์ความเป็นรถจาก Mazda สื่อชัดผ่านกระจังหน้า Signature Wing กระจังหน้าห้าเหลี่ยม ตัดเส้นด้วยโครเมี่ยมขนาบข้างด้วยไฟหน้าที่มากับ Signature Line รับกับตัวกระจังสวยงามแบบ LED Projector Lens พร้อมไฟ Daytime Running Light ถ่ายทอดถึงพลังความพลิ้วไหวในนิยาม KODO Design ออกมาได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แฝงด้วยพลังแห่งเทคโนโลยี ความล้ำที่สัมผัสได้ทันทีที่ได้เห็น แม้รูปลักษณ์นี้จะทำตลาดมาสักพักก่อนการมาของ Yaris ATIV แต่ก็ยังดูไม่น่าเบื่อ อีกทั้ง Mazda มักจะมาพร้อมกับการอัพเดทรุ่นเพิ่มอุปกรณ์ (และราคา) อยู่เป็นนิจแทบทุกปี ไม่ทิ้งให้รุ่นรถดูเฉาแต่ยังสดใหม่น่าซื้ออยู่ตลอด ความเร้าใจกับอรรตลักษณ์ที่ชัดเจนจาก Mazda ยังต่อเนื่องมาถึงด้านข้างกับมือเปิดประตูสีเดียวกับตัวรถ ดูเข้ากันกับเส้นลวดลายข้างตัวถังที่ดูพริ้วไหวไม่ขัดตา จวบจบมาจนไฟท้ายที่ถูกจัดวางไว้ได้เข้ากับตัวถังในสไตล์ซีดานที่โดดเด่นไม่แพ้ไฟหน้า โดยรวมแล้วการออกแบบของ Mazda2 Sedan ก็สวยลงตัวไม่แพ้ในโฉม Hatchback เลยแม้แต่น้อย

โฉบเฉี่ยว เร้าใจ แฝงมาให้กับความเรียบหรู

เปรียบเทียบมิติตัวรถ Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan

• ความยาวตัวถัง (mm.) ::   Yaris ATIV(4425), Mazda2(4320)
• ความกว้างตัวถัง (mm.) ::  Yaris ATIV(1730), Mazda2(1695)
• ความสูงตัวถัง (mm.) :: Yaris ATIV(1475), Mazda2(1470)
• ระยะฐานล้อ (mm.) :: Yaris ATIV(2550), Mazda2(2570)

มิติที่ใกล้เคียงไม่ต่างกันมากอาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเมื่อยามขับขี่ใช้งาน ส่วนในเรื่องการออกแบบของทั้งสองรุ่นถือว่าสวยไม่แพ้กัน นิยามความรู้สึกที่ได้รับจาก Toyota Yaris ATIV คือความสปอร์ตที่ให้ได้มากกว่า แต่อีกฝากฝั่งของอารมณ์ที่ใกล้เคียง Mazda2 คือความโฉบเฉี่ยวเร้าใจ จะให้ฟันธงว่ารุ่นไหนสวยกว่าน่าจะต้องตามแต่ละบุคคลแล้วกัน ผู้เขียนชื่นชมในการออกแบบของทั้งสองค่ายว่าทำออกมาได้อย่างดี ยกนี้ให้เสมอกัน

3.เปรียบเทียบภายใน Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan

Toyota Yaris ATIV

คอนโซลแนวโมเดิร์นดีไซน์ใหม่ล้ำสมัย และต่อเนื่องจากความสปอร์ตที่ภายนอกถูกสานต่อมาที่ภายในได้อย่างดี แม้บางความรู้สึกจะทำให้นึกถึงว่ากำลังนั่งอยู่ใน Vios อยู่เล็กๆ ก็ตาม การตกแต่งภายในสลับด้วยการใช้สีดำเป็นหลักและใช้สีเงินเมทัลลิกตัดขอบผสมวัสดุเปียโนแบล็ค หน้าปัดมาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่อัจฉริยะแบบจอสี (TFT) เข้ากันได้ดีกับความสปอร์ตของตัวรถ แม้ตัวพวงมาลัยที่เป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นจะยังรู้สึกติดขัดในเรื่องดีไซน์ ที่การออกแบบดูเก่าไม่ค่อยเข้ากับคอนโซลนัก ส่วนด้านระบบความบันเทิงอินโฟเท็นเม้นท์มากับเครื่องเล่นวิทยุหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วรองรับ DVD, CD, MP3, MP4, WMA พร้อมช่องต่อ USB / HDMI / Micro SD Card และการเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth รวมทั้งยังรองรับบริการพิเศษจาก T-Connect ของ Toyota ลำโพงรอบคันมีมาให้ทั้งหมด 6 ตัว ครบทุกความบันเทิง และความสะดวกสบายที่ทุกคนต้องการ โดยอุปกรณ์ที่น่าสนใจภายในของ Yaris ATIV มีดังต่อไปนี้

• วัสดุตกแต่งสวิตซ์ควบคุมกระจกหน้าต่าง สีดำเงาเปียโนแบล็ค
• วัสดุตกแต่งแผงวิทยุ และสวิตซ์ระบบปรับอากาศ สีเงินเมทัลลิกพร้อมลายกราฟฟิค
• แผงประตูด้านข้างทั้ง 4 บาน หุ้มด้วยหนังและเดินตะเข็บด้ายสีแดง
• พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง ตกแต่งด้วยแถบสีเงินเมทัลลิก
• เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าลายตกแต่งด้วยลวดลาย
• ที่วางแขนพร้อมกล่องเก็บของคอนโซลกลาง หุ้มด้วยหนัง เดินตะเข็บด้ายสีแดง
• จอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT ขนาด 4.2 นิ้ว
• สวิตซ์ควบคุมหน้าจอ MID บนพวงมาลัย
• หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7 นิ้วพร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง
• ช่องเชื่อมต่อความบันเทิง HDMI / Micro SD Card
• ระบบโทรออกด้วยเสียง Voice Call Recognition
• กล้องมองภาพขณะถอยจอด
• ปุ่ม Push Start/กุญแจ Immobilizer

แม้จะมากับดีไซน์ใหม่พร้อมลูกเล่นการตกแต่ง แต่ภายในของ ATIV ยังไม่มีส่วนไหนทำให้ ว้าว! ได้

Mazda2

ทุกการใช้งานภายใน Mazda2 จะทำได้ง่ายขึ้นด้วยการออกแบบจัดวางอุปกรณ์ทุกฟังก์ชั่นให้ง่ายต่อการใช้งาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ Human-Machine Interface ทุกการแสดงผลจะอยู่ในสายตาของผู้ขับขี่ที่มองได้โดยไม่ต้องละสายตาจากถนนช่วยเพิ่มความปลอดภัย และยิ่งกว่านั้นด้วย Center Commander ปุ่มหมุนที่บริเวณคอนโซลกลางตรงตำแหน่งใกล้มือผู้ขับทำให้การสั่งการต่างๆ ทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้วหมุน รวมถึงจุดที่โดดเด่นสำคัญของ Mazda2 จนทำให้รุ่นนี้ขายดีคือลูกเล่นของหน้าจอแสดงผลการขับขี่ Active Driving Display แบบสีที่รุ่นปี 2018 มีการปรับปรุงที่ดีขึ้นในเรื่องทัศนะวิสัยการใช้งาน สกรีนใสบนสุดของคอนโซลหน้าผู้ขับที่ใช้แสดงข้อมูลสำคัญต่างๆ ในการขับขี่ เช่น บอกระดับความเร็ว, ข้อมูลระบบนำทาง Navigator และสัญลักษณ์เตือนจากระบบความปลอดภัยอัตโนมัติ ชัดเจนอ่านง่ายในระดับสายตา ผสมด้วยการออกแบบเรียบหรูเปรียบได้กับรถยุโรป หรูหราและปราณีตยิ่งกว่ารถในคลาสเดียวกัน โทนสีดำที่ใช้ในการตกแต่งในสไตล์ All Black แต่หรูหราขึ้นกับวัสดุตกแต่งที่เป็นหนังสีน้ำตาลที่คอนโซล และแผงประตู แซมด้วยสีเงินเมทัลลิก และยังเพิ่มมิติความสปอร์ตให้ไม่ดูน่าเบื่อเกินไปด้วยด้ายสีแดงเดินตะเข็บที่เบาะนั่ง หน้าจอ Center Display จอสัมผัสขนาด 7 นิ้วให้มาครบทุกรูปแบบความบันเทิงพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อออนไลน์จาก MZD CONNECT ทำให้โลกออนไลน์อยู่ใกล้คุณได้แม้ยามขับขี่ ส่วนในเรื่องลำโพงมีมาให้ทั้งหมด 6 ตัว โดยอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Mazda2 มีดังต่อไปนี้

• เบาะหนังสีทูโทน
• พวงมาลัยหุ้มด้วยหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น
• มาตรวัดรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อก
• หน้าจอ Active Driving Display แบบสี
• หน้าจอสี Center Display Touchscreen ขนาด 7 นิ้ว ช่องรองรับ SD Card, Bluetooth
• ลำโพง 6 ตัว
• ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Command
• สวิตซ์รับสาย-โทรออกที่พวงมาลัย
• ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
• ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง
• กล้องมองภาพขณะถอยจอด
• ปุ่ม Push Start/กุญแจ Immobilizer

โดเด่นในความหรูหรา น่าขับ จริงๆ สำหรับ ภายใน Mazda2 ที่ทำมาสวยไม่แพ้รถยุโรป

โดนใจจริงๆ ในเรื่องของดีไซน์จาก Mazda2 ที่พาอารมณ์ความรู้สึกของรถยุโรปมาให้อยู่ในรถระดับ 6 แสน ทั้งจากการตกแต่งของวัสดุที่เป็นหนัง และหน้าจอลอยยกแยกออกจากแผงคอนโซล ซึ่งถือเป็นลักษณะที่นิยมมากในรถหลายๆ รุ่นตอนนี้ รวมถึงลูกเล่นจากจอใสๆ ล่องหน Active Driving Display ด้านหน้าคนขับ ที่แม้บางคนจะมองว่าเกะกะกวนใจ แต่ถ้าใช้ไปชินๆ มันจะสะดวกในการใช้งานเป็นอย่างมาก และดูเท่ไม่เหมือนใครอีกด้วย แค่นี้เมื่อมองเทียบกับ Yaris ATIV ที่แม้จะมากับอุปกรณ์การใช้งานครบครันไม่น้อยหน้าและหยิบยื่นความสปอร์ตในเรื่องของดีไซน์ภายในมาเต็มสูบ แต่ก็ยังดูเหมือนจะย่ำอยู่กับที่ไม่ทำให้รู้สึกตื่นใจกับสิ่งที่ให้มาสักเท่าไร ยกนี้เอกฉันท์ชัดเจนคะแนนยกไปให้กับ Mazda2 เป็นฝ่ายเข้าวินโดยไม่ต้องสงสัย

4.เปรียบเทียบเครื่องยนต์ Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan

Toyota Yaris ATIV

ขุมกำลังของ ATIV มากับเครื่องยนต์รหัส 3NR-FE พร้อมเทคโนโลยี Dual VVT-i 4 สูบ DOHC

ขนาด 1.2L ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 86 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยกับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ที่ช่วยให้ทุกจังหวะการขับขี่ราบรื่นที่สุด เปลี่ยนเกียร์ได้นุ่มนวลอีกทั้งยังช่วยในเรื่องของความประหยัดน้ำมัน

กำลังขนาด 1.2L เพียงพอกับขนาดตัวใน Yaris ATIV

Mazda2 Sedan

จากที่เคยชินกับ Mazda2 ในเครื่องยนต์ 1.5L เบนซินเมื่อปรับรุ่นมาขึ้นชกในรุ่นที่เล็กกว่า เครื่องยนต์ก็มีการปรับเปลี่ยนด้วย โดยเปลี่ยนมาเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G ขนาด 1.3L 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว มอบกำลังสูงสุดอยู่ที่ 93 แรงม้า ที่ 5,800 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 123 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed Skyactiv Drive พร้อมโหมดเพื่อการขับขี่ที่สนุกกว่า ActiveMatic และการเปลี่ยนเกียร์แบบเร้าใจกับ Sports Paddle Shift รองรับน้ำมันสูงสุด E20 ที่ประหยัดยิ่งขึ้นด้วยระบบประหยัดพลังงานอัจฉริยะ i-ELOOP และ i-Stop

เครื่องยนต์ 1.3L ใน Mazda เด็ดกว่าที่แรงม้า และลูกเล่นต่างๆ

ด้วยขนาดเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า อีกทั้งเรื่องแรงม้าแรงบิดก็ให้มามากกว่า รวมไปถึงเรื่องอัตราทดของเกียร์อัตโนมัติ 6 Speed ใน Mazda2 ที่ดูเหมือนว่าจะได้เปรียบ ATIV แทบทุกกระบวนท่า ซึ่งแม้พื้นฐานในการใช้งานในเรื่องเครื่องยนต์ของ Toyota Yaris ATIV ที่มีมาให้จะไม่ได้แย่มากนัก แรงม้าแรงบิดพอดีพอเหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่กับผลต่างในเรื่องของราคารวมสามหมื่นกว่าบาท แค่แยกมาเป็นส่วนของเครื่องยนต์สักหมื่นเพื่อซื้อแรงม้าแรงบิด และอัตราทดเกียร์ที่เหนือกว่า และมาพร้อมกับแป้นหรรษา Padddle Shift ที่หลังพวงมาลัยมันก็ช่างเป็นเรื่องที่น่าลงทุนจ่ายแพงกว่าเป็นอย่างยิ่ง ยกนี้จึงเป็นของ Mazda2 ไปอีกหนึ่งยก

5.เปรียบเทียบความปลอดภัย Toyota Yaris ATIV กับ Mazda2 Sedan

Toyota Yaris ATIV

การเปิดตัวมาเมื่อช่วงกลางปีของรุ่นนี้ พร้อมกับระบบความปลอดภัยจากถุงลมถึง 7 จุดและให้มาตั้งแต่รุ่นราคาเริ่มต้น ถือเป็นการสร้างเสียงฮือฮาให้กับผู้สนใจได้มากไม่น้อย แต่กับรุ่นท็อปก็ไม่เห็นมีความพิเศษในเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรโดดเด่นขึ้นมา กลับมีแต่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกเสียมากกว่าที่ถูกเพิ่ม โดยอุปกรณ์ความปลอดภัยที่น่าสนใจใน Yaris ATIV มีดังต่อไปนี้

• ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ที่คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัยและหัวเข่า
• ระบบเบรก ABS
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบเสริมแรงเบรก BA
• ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC
• ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
• เบาะนั่งคู่แบบ WIL (Whiplash Injury Lessening)
• ชุดซ่อมยางฉุกเฉิน

ถุงลมถึง 7 ใบในทุกรุ่นย่อย ทำให้ ATIV โดดเด่นขายดีขึ้นมาได้ทันที

Mazda2 Sedan

ระบบความปลอดภัยที่ Mazda2 จัดไว้ให้ถือว่าอยู่ในระดับเทคโนโลยีใหม่สำหรับรถในเมืองไทย จากเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ i-ACTIVSENSE ที่แม้จะไม่ได้จัดเต็มอย่างรุ่นพี่ Mazda3 หรือ CX-5 แต่ก็ยังถือว่าเกินตัวเกินรุ่นจนน่าประทับใจ โดยอุปกรณ์ความปลอดภัยที่น่าสนใจ Mazda2 มีดังต่อไปนี้

*** ดูเพิ่มเติมราคา มาสด้า2020 มือสองที่มีขายในประเทศไทย

• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM  
• ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาในขณะถอยหลัง RCTA
• ระบบเบรก ABS  
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual Airbag
• ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC
• ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESC
• ช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน HLA
• ระบบป้องกันรถลื่นไถล TCS
• Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วคงที่

เทคโนโลยีความปลอดภัย Mazda ให้มาเกินตัวรถเล็กๆ ของ Mazda2

ถือว่าเลือกยากพอสมควรในยกนี้กับ Yaris ATIV ที่มีดีในเรื่องจำนวนถุงลมที่จัดมาให้เต็มลำ กับ Mazda2 ก็มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยที่เกินตัว แตกต่างกันที่รูปแบบความปลอดภัยเพราะถ้าเป็นถุงลมจะช่วยปกป้องหลังจากเกิดอุบัติเหตุทันที แต่ระบบเตือนก่อนการชนใน Mazda2 ชื่อก็บอกแล้วว่าเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ อยู่ที่ผู้ซื้อจะมองในแง่ไหน แต่ ณ จุดนี้ผู้เขียนขอเน้นไปที่การปกป้องเมื่อเกิดอุบัติเหตุไปแล้วที่ได้จากถุงลมนิรภัยเป็นสำคัญ ยกนี้จึงมองไปที่ Yaris ATIV เป็นฝ่ายเข้าวินไปอย่างสูสี

Yaris ATIV หรือ Mazda2 คันไหนคือที่ใช่สำหรับคุณ?

6.สรุปคันไหนดี Toyota Yaris ATIV หรือ Mazda2 Sedan

คงไม่เข้าค่ายอีโคคาร์ราคาประหยัดอีกแล้วทั้งสองรุ่นที่ราคาตัวท็อปทะลุไปเกิน 6 แสน แต่เมื่อมองที่เรื่องอุปกรณ์ที่ให้มาก็ใช่ว่าจะยิ่งหย่อนกว่าพวกรถ B-Segment เลยที่ขนาดรถใกล้เคียง เพียงแค่เครื่องยนต์เล็กกว่าเท่านั้น ซึ่งในเรื่องยอดขายของทั้งสองรุ่นก็ถือเป็นที่นิยมจากผู้ใช้อยู่มาก จนติดอันดับท็อป 5 รถขายดีในไทย และกับราคาที่ต่างกันไม่มากนักเมื่อเทียบกับสิ่งที่ให้มาของทั้งสองรุ่นถือว่าสูสีเป็นอย่างมาก เริ่มตั้งแต่ Yaris ATIV กับชื่อชั้นที่เหนือกว่าด้วยคำว่า Toyota นำหน้า ก็ทำให้ภาษีดูดีได้เปรียบแล้วเล็กๆ แถมราคายังถูกกว่า 35,000 บาทในรุ่นท็อปของทั้งคู่ ก็สามารถช่วยเรียกแขกให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า แต่กับสิ่งที่ Mazda ให้มา ที่ดูว่าเหนือกว่าในเรื่องของอุปกรณ์ และกำลังเครื่องยนต์ ภายในดูดีกว่าในสไตล์รถยุโรปคือข้อเด่นชัดที่สุด แม้จำนวนถุงลมจะน้อยกว่าที่ Yaris ATIV ให้มา แต่ก็ทดแทนมาให้ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ กับราคาที่แพงกว่าไม่มากแลกกับอารมณ์ กับสไตล์ที่เหนือชั้น สรุปฟันธงให้ชัดว่าระหว่างสองรุ่นนี้ Toyota Yaris ATIV และ Mazda2 Sedan จิ้มไปที่ทาง Mazda2 คือรุ่นรถซิตี้คาร์ซีดานระดับอีโคที่น่าซื้อมากกว่า

แล้วคุณละเลือกรุ่นไหนระหว่างสองรุ่นนี้ และเพราะอะไร เมื่อได้รู้ถึงรายละเอียดข้อดีต่างๆ ของแต่ละรุ่นแล้ว ความคิดเห็นของผู้เขียนอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งเล็กๆ ที่ช่วยคุณตัดสินใจได้ แต่ถ้าต้องเลือกจริงๆ คุณคือคนที่รู้ดีที่สุดว่าทำไมถึงเลือกรุ่นนั้นๆ บอกกับเรา Chobrod ได้เลยใต้คอมเม้นท์ด้านล่างนี้