Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan คันไหนน่าซื้อมากกว่ากัน

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 24 พ.ค 2561
แชร์ 8

เก๋งไซส์มาตรฐานขนาดกำลังพอดี ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก อย่างในตลาดซีดานขนาด C-Segment รุ่นที่ไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง Toyota Corolla Altis กับอีกรุ่นมาแรงอย่าง Mazda3 รุ่นไหนน่าซื้อมากกว่ากัน วันนี้ Chobrod จะพาไปหาคำตอบกับการเปรียบเทียบระหว่าง Toyota Corolla Altis กับ Mazda3

เปรียบเทียบ Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan คันไหนน่าซื้อมากกว่ากัน

เปรียบเทียบ Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan คันไหนน่าซื้อมากกว่ากัน 

 

Toyota Corolla Altis หรือที่เรียกติดปากกันว่า Toyota Altis เก๋งซีดานยอดนิยมที่ทำตลาดในเมืองไทยมาอย่างยาวนานของค่ายสามห่วง Toyota แค่ชื่อก็มั่นใจได้ในเรื่องการใช้งาน พิสูนจ์ให้เห็นได้ทั้งจากผู้ใช้ในแบบรถส่วนตัว และที่เห็นกันบ่อยในแบบรถยนต์สาธารณะหรือ Taxi และถ้าต้องมาเจอกับการเปรียบเทียบแบบจริงจังทั้งเรื่องดีไซน์ของภายนอก ภายใน ความแรงของเครื่องยนต์ และอ๊อพชั่นความปลอดภัยที่มีมาให้ใน Mazda3 แล้วนั้น ใครจะโดดเด่น น่าซื้อมากกว่ากัน ไปหาคำตอบพร้อมๆ กันได้เลย  

1.เปิดราคา Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan
การเปรียบในครั้งนี้ รุ่นที่เราจะนำมาเปรียบเทียบจะมองไปที่รุ่นแพงที่สุด ท็อปสุดของแต่ละรุ่น เพื่อดูว่าทั้ง Altis และ Mazda3 เมื่อจัดเต็มสุดสเปคทั้งเรื่องเทคโนโลยี ทั้งอุปกรณ์การใช้งานในด้านความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ค่ายไหนจะให้มามากกว่ากัน โดยทาง Altis จะเป็นรุ่น 1.8 V Navi Telematics CVT ส่วน Mazda3 ที่ตลาดทั้งโฉม Sedan สี่ประตู และในแบบ Hatchback ก็มีมาให้เลือกด้วย ซึ่งถ้าจะเทียบกับ Altis ก็ต้องเป็นในแบบซีดานสี่ประตูกับรุ่นย่อย   2.0 SP AT
เปรียบเทียบราคา Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan

  • Toyota Corolla Altis 1.8 V Navi Telematics CVT ราคา 1,093,000 บาท * 
  • Mazda3 2.0 SP AT ราคา 1,149,000 บาท*

*อัพเดทราคาเดือน พฤษภาคม 2018

รุ่นท็อปจากทั้งสองรุ่น ราคาต่างกันมองว่ามากก็ได้ ไม่มากก็ได้

รุ่นท็อปจากทั้งสองรุ่น ราคาต่างกันมองว่ามากก็ได้ ไม่มากก็ได้

แตกต่างกันเกินครึ่งแสนของรุ่นท็อปในทั้งสองรุ่น Mazda3 กับขนาดเครื่องยนต์ตัวท็อปที่ใหญ่กว่านิดหน่อยขนาด 2.0L เมื่อเทียบกับตัวท็อปใน Altis ที่เครื่องยนต์ 1.8L อะไรที่ทำให้รถในคลาสเดียวกัน รุ่นท็อปเหมือนกัน ซีซีเครื่องยนต์ต่างกันเล็กน้อยแต่ทำราคาต่างกันมาอยู่ถึง 56,000 บาท คงต้องดูที่รายละเอียดของอุปกรณ์ภายนอก ภายใน ความปลอดภัย และเครื่องยนต์ที่แต่ละรุ่นให้มาอีกครั้งว่าต่างกันมากแค่ไหน Mazda ตั้งแพงเกินจริงกับไปหรือเปล่าหรือ Altis อ๊อฟชั่นน้อยจนขายราคาถูกกว่าได้ ในข้อนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าใครทำราคาได้ดีกว่ายกให้เสมอกัน 

2.เปรียบเทียบภายนอก Toyota Corolla Altis กับ Mazda3
Toyota Corolla 
Altis
กับรุ่นย่อย 1.8 V Navi Telematics ที่เพิ่งถูกเพิ่มมาใหม่ไม่นานมานี้ อัพเดทอุปกรณ์ประจำปี 2018 ภายนอกไม่แตกต่างจากเดิมตั้งแต่ไมเนอร์เชนจ์ไปเมื่อปลายปี 2017 ดีไซน์ที่เรียบง่ายแฝงมากับความโฉบเฉี่ยวด้วยกันจังหน้าโครเมี่ยมที่ด้านหน้า พร้อมไฟหน้าแบบ Bi-Beam LED Projector ปรับระดับและเปิด – ปิด อัตโนมัติ มากับไฟ Daytime Running ในโคม ข้อดีที่มากับการไมเนอร์เชนจ์ครั้งล่าสุดนี้ โดดเด่นที่สุดก็คงจะเป็นในเรื่องของกันชนหน้า ที่ดีไซน์มากับช่องดักลมขนาดใหญ่ พร้อมกับเส้นสายให้อารมณ์คล้ายกับรถยุโรปได้ไม่น้อย ซ่อนด้วยไฟตัดหมอกที่ด้านล่าง มองไล่มาที่ด้านข้างตัวรถก็จะเห็นไฟเลี้ยวที่ถูกฝังไว้กับกระจกมองข้าง เส้นมิติและลวดลายที่ข้างรถมีไม่มาก ออกไปในทางเรียบหรูจากมือเปิดประตูโครเมี่ยมสีเดียวกับตัวรถ แล้วคาดด้วยโครเมี่ยมเป็นเส้นตัด จรดถึงไฟท้าย LED แบบ Light Guiding ที่ผสมโคมเมี่ยมคาดกลางด้วยเช่นกัน ล้อที่ใช้เป็นล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว 

Altis เน้นความเรียบ(หรู) เป็นหลักในการดีไซน์ภายนอก

Altis เน้นความเรียบ(หรู) เป็นหลักในการดีไซน์ภายนอก 

Mazda3 Sedan
เพิ่งปรับปรุงเพิ่มอุปกรณ์ รวมถึงราคาเมื่อไม่นานมานี้เช่นกันสำหรับ Mazda3 แต่ในเรื่องของภายนอก ไม่ได้มีการปรุงแต่งอะไรให้เปลี่ยนไป ยังคงเดิมซึ่งดีไซน์ที่ลงตัว ที่เน้นไปทางความโฉบเฉี่ยวเร้าใจคล้ายเมื่อตอนเปิดตัวโฉมนี้ครั้งแรกเมื่อปี 2014 ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์พร้อมไฟ Daytime Running ไว้ในโคมเช่นกัน พร้อมระบบอัจฉริยะ Adaptive LED Headlamps (ALH) ด้านเข้าจะเห็นกับเส้นพริ้วไหวของลวดลายตัวรถตามสไตล์การออกแบบของ Mazda มาสุดกับไฟท้าย แบบ LED ที่ดีไซน์โคมคล้ายกับไฟหน้า ส่วนล้อที่ใช้เป็นล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 

Mazda3 ภายนอกมากับความเร้าใจ และอารมณ์ความสปอร์ตเป็นหลัก

Mazda3 ภายนอกมากับความเร้าใจ และอารมณ์ความสปอร์ตเป็นหลัก

Mazda3 ภายนอกมากับความเร้าใจ และอารมณ์ความสปอร์ตเป็นหลัก 

ซึ่งการไมเนอร์เชนจ์ของรุ่นนี้ออกมาเมื่อปีที่แล้ว 2017 แต่การเปลี่ยนแปลงไม่ได้ดูมากมายจนน่าตื่นเต้น อาจเป็นเพราะดีไซน์ของ Mazda3 โฉมนี้ ทาง Mazda คงรู้สึกพอใจ เห็นว่าลงตัวแล้วกับเส้นสายการดีไซน์โดยรวม ใช้เพียงแค่การเพิ่มอุปกรณ์ และเทคโนโลยีใหม่ใส่ไปให้ตัวรถ ให้ทันยุคสมัยเป็นพอ (รวมถึงเพิ่มราคาขายด้วย)

เทียบมิติตัวถัง Toyota Altis VS Mazda3 Sedan

  • ความยาวตัวถัง (mm.) :: Altis(4,620), Mazda3(4,580)
  • ความกว้างตัวถัง (mm.) :: Altis(1,775), Mazda3(1,795)
  • ความสูงตัวถัง (mm.) :: Altis(1,460), Mazda3(1,450)
  • ระยะฐานล้อ (mm.) :: Altis(2,700), Mazda3(2,700)

อย่าดูถูก Altis เพราะเพียงแค่ได้เห็นบ่อยๆ บนท้องถนน ซึ่งเมื่อได้เห็นในแบบที่ไม่ใช่ Taxi ก็ต้องยอมรับว่าดีไซน์รุ่นนี้สวยไม่เบา ให้อารมณ์ความเรียบหรู น่าค้นหา ส่วนทางด้านของ Mazda3 ก็มาในอารมณ์สปอร์ตเร้าใจแบบเต็มขั้น พลันจะมองในเรื่องความหรูหราก็มาได้เช่นกัน ถ้าได้สองแบบสองอารมณ์ต้องยกให้ Mazda3 ที่เส้นสายการออกแบบ และมิติลูกเล่นหนาบางที่มากกว่า แต่ถ้าเน้นความเรียบง่าย แต่ถ้าถามถึงความหรูหราในบางจุด Altis ก็มีให้เช่นกัน ยกนี้ต้องแล้วแต่คนชอบว่าพอใจในดีไซน์แบบไหน พอเพียงไม่ขี้เหร่ไปทาง Altis แต่ถ้าอยากสปอร์ตแบบเต็มขั้นมองไปทาง Mazda3 ให้เสมอกันตามความพอใจในแต่ละคน
3.เปรียบเทียบภายใน Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan
Toyota Corolla Altis
กับภายในที่แปลกหูแปลกตาไปเล็กน้อย จากตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกจนโฉมไมเนอร์เชนจ์นี้ ที่ช่องแอร์ด้านข้างของแดชบอร์ดถูกเปลี่ยนมาเป็นแบบวงกลม เปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นเหลี่ยม การออกแบบของแผงคอนโซลที่ตั้งชันเพื่อช่วยในเรื่องการใช้งาน ปุ่มกดสั่งการต่างๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น การตกแต่งที่มาในแบบโทนสีดำตัดกับสีเงินเมทัลลิกพร้อมวัสดุประกอบเนื้อดี ยิ่งทำให้รถรุ่นนี้ดูน่าขับ และสำหรับในรุ่น 1.8 V Navi Telematics CVT นี้ ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วถึงการเข้ามาของระบบ Telematics ที่จะช่วยให้รถฉลาดขึ้นทั้งในด้านความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการใช้งานด้วยผู้ช่วยจากนอกรถ ซึ่งฟังก์ชั่นที่น่าสนใจก็มีตั้งแต่ Find My Car เช็คตำแหน่งตัวรถผ่าน Application Find My Car ได้, Parking Alert ระบบการแจ้งเตือนเมื่อรถถูกสตาร์ทหรือเคลื่อนที่, Stolen Vehicle Tracking ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์เมื่อเกิดการโจรกรรม, SOS ระบบประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้ ไปดูกันดีกว่าว่าอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจของ Altis ในรุ่น 1.8 V Navi Telematics CVT มีอะไรบ้าง

  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมความบันเทิงจากวิทยุ AM/FM CD MP3 WMA DVD
  • ระบบนำทาง Navigator
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
  • ระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร Nanoe
  • ม่านบังแดดหลัง
  • เบาะหุ้มหนังสีดำ

ความเรียบหรูถูกส่งต่อมาให้ที่ภายในของ Altis พร้อมอุปกรณ์จำเป็นครบครัน

ความเรียบหรูถูกส่งต่อมาให้ที่ภายในของ Altis พร้อมอุปกรณ์จำเป็นครบครัน

ความเรียบหรูถูกส่งต่อมาให้ที่ภายในของ Altis พร้อมอุปกรณ์จำเป็นครบครัน

ความเรียบหรูถูกส่งต่อมาให้ที่ภายในของ Altis พร้อมอุปกรณ์จำเป็นครบครัน

ดูเพิ่มเติม:
>> 
คนเชื่อมต่อรถ เทรนด์โลก ใกล้ความจริง! “Connected Car รถยนต์อัจฉริยะ”
>> แท็กซี่ไร้คนขับ "Silent revolution on the road"

Mazda3 Sedan
ในฝั่งของ Mazda3 ความสำคัญในเรื่องของผู้ขับขี่ และตัวรถที่ต้องสื่อสารถึงกันได้นั้น ถูกวางไว้เป็นหลักของการออกแบบภายในตั้งแต่แรกเริ่มใน Mazda3 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทัศนวิสัยในการขับขี่ ตำแหน่งการนั่งที่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ง่าย ทั้งจากการวางตำแหน่งของปุ่มสั่งการทำงาน ตำแหน่งของเบาะนั่ง และรูปทรงของเบาะที่ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับสรีระเป็นอย่างดี ความโดดเด่นในเรื่องของอุปกรณ์ที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือ หน้าจอแสดงข้อมูล Active Driving Head-up Display แบบสี ที่นอกจากประโยชน์ในการแสดงข้อมูลให้กับผู้ขับแล้ว ยังสื่อถึงความล้ำหน้าที่มากกว่ารถทั่วไปยุคนี้ รวมไปถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้วที่มาในรูปแบบจอแยกตั้งชัน และปุ่มควบคุม Center Commander ที่นอกจากจะช่วยในเรื่องการใช้งานคำสั่งต่างๆ ที่ทำได้สะดวกใกล้มือแล้ว อารมณ์ที่ได้รับเมื่ออยู่หลังพวงมาลัยของ Mazda3 คันนี้ เมื่อประกอบรวมกับการตกแต่งด้วยโทนสีดำ ตัดแซมด้วยสีเงินเมทัลลิกเพื่อความหรูหรา ดำเคฟล่าเพิ่มความสปอร์ต และวัสดุที่ใช้เกรดคุณภาพ ยิ่งทำให้นึกถึงว่ากำลังนั่งอยู่บนรถยุโรปคันหรู โดยอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจใน Mazda3 คันนี้ มีดังต่อไปนี้

  • เบาะนั่งคนขับปรับด้วยมือ 6 ทิศทาง
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift
  • หน้าจอแสดงข้อมูล Active Driving Head-up Display แบบสี
  • หน้าจอ Center Display ระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
  • รองรับความบันเทิง วิทยุ AM/FM CD MP3 และเชื่อมต่อแบบไร้สาย Bluetooth
  • ระบบนำทาง Navigator 
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Recognition
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone แยกซ้าย-ขวา
  • พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
  • ปุ่มควบคุม Center Commander
  • เบาะหุ้มหนังสีดำ
  • ระบบกล้องรอบคัน 360 องศา

ของเล่น และฟังก์ชั่นอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจของ Mazda3 ไม่ธรรมดา

ของเล่น และฟังก์ชั่นอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจของ Mazda3 ไม่ธรรมดา

ของเล่น และฟังก์ชั่นอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจของ Mazda3 ไม่ธรรมดา

ของเล่น และฟังก์ชั่นอุปกรณ์ภายในที่น่าสนใจของ Mazda3 ไม่ธรรมดา 

ล้ำกว่า ดูดีกว่าในเรื่องดีไซน์ภายใน และอุปกรณ์ฟังก์ชั่นระบบในการใช้งานให้มาแบบครบๆ สำหรับทางฝั่งของ Mazda3 แต่ก็ใช่ว่า Altis จะออกแบบมาไม่สวยไม่ดีแต่อย่างใด ดีไซน์ และเรื่องอุปกรณ์ที่ให้มา ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมทันยุค โดยเฉพาะการมาของระบบ Telematics ในรุ่นล่าสุดนี้ที่ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ Altis จากที่ดูน่าเบื่อ กลายมาเป็นรถกึ่งๆ Smart Car เลยก็ว่าได้ แต่การใช้งานจริงจะบ่อยสักแค่ไหน? นั่นคือคำถาม ซึ่งถ้าตามเนื้อผ้าไม่อิงค่ายโหนแบรนด์แล้วละก็ ยกนี้ผู้เขียนขอยกคะแนนให้กับ Mazda3 เป็นฝ่ายชนะไป ด้วยเรื่องดีไซน์โดยรวมที่ได้เปรียบ สวย เรียบหรูไปในทางสากลที่ดูดีแบบรถยุโรป รวมไปถึงเรื่องอุปกรณ์ที่ให้มาแบบครบๆ จบในรุ่นไม่ต้องหาเติมเพิ่มที่ร้านไหน 

4.เปรียบเทียบเครื่องยนต์ Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan
ในรุ่น 1.8 V Navi Telematics CVT จะมาพร้อมกับขุมกำลังเบนซินขนาด 1.8L รหัส 2ZR-FBE DOHC Dual VVT-i ให้กำลังม้าสูงสุดอยู่ที่ 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที กับแรงบิด 177 Nm ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัจฉริยะอัตโนมัติ CVT-i  ส่วนทางฝั่งของ Mazda3 มากับขนาดเครื่องยนต์ที่มากกว่า และม้าที่มากกว่าอยู่ที่ 165 ตัว จากเครื่องยนต์ Skyactiv-G เบนซิน 4 สูบ 2.0L Dual S-VT Direct Injection พร้อมแรงบิดอยู่ที่ 210 Nm ที่ 4,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานด้วยเกียร์ อัตโนมัติ Skyactiv- Drive แบบ 6 Speed พร้อม Manual Mode 

เครื่องยนต์ 1.8L ของ Altis ทำผลการทดสอบได้น่าประทับใจ สู้เครื่อง 2.0L ได้แบบสบายๆ

เครื่องยนต์ 1.8L ของ Altis ทำผลการทดสอบได้น่าประทับใจ สู้เครื่อง 2.0L ได้แบบสบายๆ 

เทียบน้ำหนัก และสมรรถนะของ Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan

  • น้ำหนัก (กิโลกรัม) :: Altis(1,290), Mazda3(1,297) 
  • ความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (วินาที) :: Altis(10.9), Mazda3(10.7)
  • ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ (กิโลเมตรต่อชั่วโมง) :: Altis(185), Mazda3(186)

เครื่อง Skyactiv จำนวนม้าเยอะกว่า แต่ใช้งานจริงวิ่งได้แรงไม่เท่าไร!

เครื่อง Skyactiv จำนวนม้าเยอะกว่า แต่ใช้งานจริงวิ่งได้แรงไม่เท่าไร!

จากกำลังของเครื่องยนต์แม้จะห่างกันในเรื่องแรงม้าที่ทาง Mazda3 มีให้มากกว่าถึง 20 กว่าตัวพร้อมเครื่องยนต์ใหญ่กว่าเล็กน้อย ด้วยน้ำหนักตัวรถที่ใกล้เคียง แต่ผลการทดสอบการขับขี่ ตัวเลขออกมากลับไม่ค่อยเห็นความแตกต่างสักเท่าไร ทั้งในเรื่องความเร็วสูงสุดที่ทำได้ และที่สำคัญคือเรื่องอัตราเร่งแซง 0-100 เป็น Toyota ที่แรงม้าน้อยกว่า แต่กลับสามารถทำเวลาได้สูสีรถที่เครื่องยนต์ใหญ่กว่าได้ 

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตีนต้นของ Altis นั้นจัดจ้านแสบสันอยู่พอสมควร สามารถไล่จี้ข่มรถเครื่องยนต์ใหญ่กว่าได้ไม่ยาก สรุปรวมมองในยกนี้ แม้แรงม้าที่ให้มามากกว่าของ Mazda3 อาจทำให้ตื่นเต้นเมื่อได้อ่านโบวชัวร์ แต่ผลการทดสอบการขับขี่ในเรื่องตัวเลขทำให้ Altis กลับมาดูดีได้ แม้เครื่องยนต์จะเล็กกว่า แรงม้าน้อยกว่าในทันใด สามารถทำเวลาได้เทียบเท่ากับ Mazda3 แบบสบายๆ ยกนี้จึงต้องเป็นของ Altis ที่เป็นฝ่ายเข้าวินในเรื่องของเครื่องยนต์ 

5.เปรียบเทียบความปลอดภัย Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan
Toyota Corolla Altis

ในเรื่องระบบความปลอดภัย Altis จัดเต็มในด้านนี้มาให้แบบไม่ธรรมดา รวมถึงระบบ Telematics ที่พูดไว้ถึงก่อนหน้าในส่วนของภายใน ซึ่งเข้ามาช่วยเรื่องระบบป้องการโจรกรรมรถได้หลายฟังก์ชั่น นอกจากนี้ในเรื่องระบบความปลอดภัยที่สนใจใน Altis ยังมีอะไรอีกบ้าง ไปดูกัน  

ถุงลม 7 ใบ มาตรฐานรถจาก Toyota ในยุคนี้

ถุงลม 7 ใบ มาตรฐานรถจาก Toyota ในยุคนี้ 

  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ด้านข้าง, ม่านด้านข้าง, หัวเข่าด้านคนขับและด้านข้างเบาะหลัง
  • กระจกมองข้าง ปรับตำแหน่งอัตโนมัติเมื่อถอยหลัง Reverse Link
  • กระจกมองหลัง ปรับลดแสงอัตโนมัติ EC Mirror
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
  • ระบบกุญแจ Immobilizer และเตือนการโจรกรรม TDS
  • กล้องมองภาพขณะถอยจอด

Mazda3 Sedan
โดดเด่นเหนือกว่าด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE จากเรดาห์และกล้องที่ช่วยเตือน ช่วยเบรก ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุหรือบรรเทา และ G-Vectoring Control หรือ GVC ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง เพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับตัวรถ ช่วยให้ตัวรถโคลงน้อยลง และเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนบนสภาพพื้นผิวที่ลื่นได้ดีขึ้น ซึ่งทั้งสองระบบนี้เพิ่งถูกเพิ่มเข้ามาให้กับ Mazda3 เมื่อครั้งไมเนอร์เชนจ์ล่าสุดในปี 2017 โดยระบบความปลอดภัยที่น่าสนใจของ Mazda3 มีดังต่อไปนี้ 

  • ถุงลมนิรภัยคู่หน้า พร้อมม่านถุงลม 
  • ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง G-Vectoring Control
  • Mazda Radar Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ พร้อมปรับระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้า
  • Smart Brake Support ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ    
  • Driver Attention Alert ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะขับขี่    
  • Lane-Keep Assist System ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน 
  • Lane Departure Warning System ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
  • Smart City Brake Support ระบบช่วยเบรกรถอัตโนมัติ
  • Smart City Brake Support-Reverse ระบบช่วยเบรกรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง
  • Advanced Blind Spot Monitoring ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
  • Rear Cross Traffic Alert ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
  • กุญแจ Immobilizer และสัญญาณกันขโมย Burglar Alarm
  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS)
  • ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (DSC)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และ ลื่นไถล (TCS)
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HLA) 
  • ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อเบรกกะทันหัน (ESS)

ทุกระบบความปลอดภัยใน i-ACTIVSENSE จะช่วยปกป้องรถให้เกิดอุบัติเหตุได้ยากขึ้น

ทุกระบบความปลอดภัยใน i-ACTIVSENSE จะช่วยปกป้องรถให้เกิดอุบัติเหตุได้ยากขึ้น

ในหัวข้อนี้ Altis โดดเด่นที่จำนวนถุงลมที่มีให้มามากกว่าถึง 7 ใบ และระบบป้องกันรถหายจาก Telematics  แต่ในเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่จริงๆ ยังไม่มีระบบไหนที่น่าสนใจมากนัก ผิดกับ Mazda3 ที่แม้ถุงลมจะน้อยให้มาแค่คู่หน้า และม่านถุงลมทั้งสองข้าง แต่ด้วย i-ACTIVSENSE ภายใต้ชื่อความปลอดภัยนี้ อัดแน่นด้วยระบบมากมายที่สามารถเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ ได้ด้วยตัวรถจะคอยเตือนคอยช่วยผู้ขับให้อีกหนึ่งแรงถึงอันตรายจะเกิดขึ้นได้ ยกนี้ชัดเจนต้องให้ Mazda3 เป็นฝ่ายเข้าวินอย่างใสสะอาด 
บทสรุปเลือกรุ่นไหนดี Toyota Corolla Altis กับ Mazda3 Sedan คันไหนที่ควรซื้อ

ให้คุณเลือกรองเท้าผ้าใบสักคู่เพื่อใส่เล่นกีฬา คู่หนึ่งถูกกว่า พอใส่ได้ วิ่งไม่เจ็บ กระโดดลงมาแล้วไม่ลื่น กับอีกคู่ที่แพงกว่านะ รูปทรงสวยกว่า แต่ใส่สบายกระชับเท้า พื้นนุ่มกว่า พอวิ่งแล้วรู้สึกเบา เวลากะโดดแล้วรู้สึกว่าทำได้สูงกว่าอีกคู่ คุณจะเลือกคู่ไหน?

ก็เหมือนให้คุณเลือกระหว่างรถสองรุ่นนี้ Altis ให้คุณกับความเป็นเก๋งมาตรฐานได้ครบครันเช่นเดียวกับรองเท้าที่พอใส่ได้ แต่ Mazda3 คือรองเท้าอีกคู่ที่แพงกว่ามากับความสวยพร้อมฟังก์ชั่นอุปกรณ์ที่มีให้มากกว่ารองเท้าทั่วไปจะให้ได้ 

คุณชอบรองเท้าแบบไหน แบบพอใช้งานหรือแบบสวยใส่สบาย

คุณชอบรองเท้าแบบไหน แบบพอใช้งานหรือแบบสวยใส่สบาย

คุณชอบรองเท้าแบบไหน แบบพอใช้งานหรือแบบสวยใส่สบาย 

สิ่งที่ Altis จะมอบให้ได้คือเรื่องอรรถประโยชน์ของความเป็นรถยนต์สำหรับใช้งานที่รถตัวท็อปสักคันจะสามารถ ภายนอกและภายในสวย ดูไม่เชยแต่ก็เรียบจนไม่ Wow! เครื่องยนต์แรงม้าไม่ดุดัน แต่ก็พอใช้งานไหวอยู่สู้ได้ ความปลอดภัยที่ Toyota เหมือนจะมักง่าย คิดไปที ไม่รู้จะใส่ความปลอดภัยอะไรก็ยัดๆ ถุงลมมาให้เยอะเอาไว้ก่อน เช่นเดียวกับที่ทำให้กับ Yaris และ Yaris ATIV แต่สุดท้ายมองที่รายละเอียดก็ไม่ต่างกับรถในคลาสอื่นของค่ายเดียวกัน หรือเทคโนโลยีที่ Toyota ประเทศไทยจะให้กับผู้บริโภคได้สุดๆ มีแค่นี้? ซึ่งทำให้รู้สึกว่าดูถูกผู้บริโภคมากเกินไปหน่อย

ผิดกับอีกฝ่ายอย่าง Mazda3 ที่ทางค่าย Mazda ต่างพยายามดิ้นรนเพื่อในแบรนด์ไปตรึงตราตรึงใจคนไทย ด้วยการอัดอ๊อพชั่นเทคโนโลยีไม่ต่างกับรุ่นนี้ที่จำหน่ายอยู่ทั่วโลก บ้านอื่นเมืองอื่นได้อุปกรณ์ฟังก์ชั่นไหน คนไทยต้องได้ใช้ด้วย จึงเป็นจุดแข็งที่ทำให้รถค่ายนี้ยอดขายดีเติบโตขึ้นทุกปี แต่ก็แน่นอนว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จในวันเดียว ความมั่นใจจากลูกค้าที่ Toyota สร้างไว้จนลอยตัวทำรุ่นไหนออกมาก็ขายดี คือสิ่งที่ Mazda ยังคงต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้ไปถึง ณ จุดนั้น 

และสำหรับ Mazda3 ก็ทำได้ดีในเรื่องออพชั่นที่อัดแน่นมาให้เต็มคัน แม้ราคาที่แพงกว่า 56,000 บาท ลองแบ่งตามสัดส่วนใช้วิเคราะห์ว่ารุ่นไหนน่าซื้อกว่ากัน จ่ายแพงกว่า 2 หมื่นในเรื่องดีไซน์ภายในและภายนอก 2 หมื่นในเรื่องอุปกรณ์ความบันเทิงที่ให้มามากกว่า อีกหมื่นกว่าบาทให้ในเรื่องความปลอดภัยซึ่งเทียบกับเทคโนโลยีที่ให้มาถือว่าถูกมากที่ต้องจ่ายแพงกว่า สรุปรวมแล้วเทียบกันระหว่าง Toyota Corolla Altis และ Mazda3 คันไหนน่าซื้อกว่ากัน ผู้เขียนขอเลือกเป็นรองเท้าที่แพงกว่าหน่อยก็แล้วกัน  

และสำหรับคุณละระหว่างสองรุ่นนี้ รุ่นไหนที่น่าซื้อมากกว่ากัน และเพราะอะไร อย่าลืมบอกกับเรา chobrod หน่อยที่คอมเม้นท์ด้านล่างนี้ได้เลย