รถมือสองสีแดง ขายได้ราคาต่ำกว่ารถสีอื่น จริงหรือไม่???

หลายๆท่านอาจจะสงสัยว่า รถสีแดง ขายได้ราคาต่ำกว่ารถสีอื่น และวันนี้ทางเราจะมีคำตอบมาให้ครับ สำหรับการขายรถมือสอง ไม่ว่าจะขายโดยตรงหรือเว็บไซต์ขายรถต่างๆ เรื่องกดราคาเนื่องจาก สีรถ เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะเอารถสีไหนไปขาย หากผู้รับซื้อต้องการจะกดราคาคุณก็ต้องโดนอยู่ดี
  เกี่ยวกับเรื่องสีรถเมื่อนำไปขาย ทุกๆท่านอาจจะฟังคำแบบนี้กันบ่อยๆ ว่า
สีขาว – สีดูแลยาก เวลาทำสีไล่ยาก
สีบรอนด์เงิน – สีคนแก่
สีทอง – วัยรุ่นไม่ชอบ สีคนแก่
สีเทาเข้ม – สีก่ำกึ่ง จะดำก็ไม่ดำจะเทาก็ไม่เทา
สีน้ำเงิน – สีดูแล้วรถเก่าเร็ว
สีแดง – ขายต่อยาก ที่มีอยู่ตอนนี้ตั้งหลายคันก็ยังขายไม่ได้เลย
สีดำ – สกปรกง่าย ล้างบ่อย
 
เมื่อเอาไปขาย ไม่ว่ารถของคุณจะสีอะไร คุณจะต้องได้ยินข้ออ้างเหล่านี้แน่นอน

>> รถสีขาว ดีหรือร้ายกันแน่!
>> ผู้นำสีพ่นรถยนต์คาดเลือกสีเทา (Gallant Gray) เป็นสีรถแห่งปี 2017

มีการสำรวจความนิยมของ สีรถ สำหรับผู้ใช้รถในทวีปอเมริกาเหนือมานับตั้งแต่ยุค 80 ถึง 90  เชื่อหรือไม่ว่าครั้งหนึ่งในยุคนั้น รถสีแดง คือสียอดฮิตที่มีผู้ใช้มากที่สุดก่อนจะมาถูกทำลายสถิติด้วยสีขาวที่กลายเป็นสียอดฮิตมีคนใช้มากที่สุดนับตั้งแต่เข้าปี 2000 จวบจนถึงปัจจุบัน
  การขายรถบนเว็บไซต์ขายรถ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีและได้หลายคนนิยมใช้ เพราะนอกจากเรื่องคุณจะขายรถได้เร็วแล้ว ยังได้รับราคาดีและสูงเท่าที่ควร เว็บไซต์ Chobrod ก็เป็นหนึ่งในนั้นะครับ หากคุณอยากขายรถสามารถลงประกาศขายได้ที่นี่นะครับ
  วันนี้ทางเราบังมี วิธีขายรถมือสองในอินเตอร์เน็ต ให้ขายได้เร็ว มาฝาก

1. ตั้งราคาที่เหมาะสม

อาจใช้วิธีเอารถเข้าไปที่เต็นท์รถตีราคา และดูราคาจากเว็บรถมือสองต่างๆ เปรียบเทียบจากรถปีเดียวกัน รุ่นเดียวกัน แล้วตั้งราคาในใจเอาไว้ ถ้ารถของเราสภาพดีและไม่ได้เร่งรีบที่จะขายก็อาจจะตั้งราคาไว้สูงๆ หน่อย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นรถตลาด สภาพดี และเป็นสีที่ได้รับความนิยม ใช้เวลาไม่นานมากก็ขายได้แล้ว

การประเมินราคา ควรมองความนิยมของรถรุ่นนั้นว่าเป็นที่นิยมในตลาดหรือไม่ ถ้าตลาดมีความต้องการสูงก็อาจจะต่อรองได้บ้าง โดยส่วนใหญ่ค่าเสื่อมราคาจะลดลงตามอายุของรถ หรือถ้ารถรุ่นนั้นมีโฉมใหม่ออกมาแล้วก็จะต้องปรับราคากันอีกครั้ง
  2. ภาพถ่ายชัดเจน

ถ้าอยากให้ภาพถ่ายชัดเจนก่อนถ่ายควรล้างรถดูดฝุ่นให้สะอาดเอี่ยมที่สุด ทั้งภายนอก ภายใน และห้องเครื่อง ถ่ายภาพให้เห็นสภาพรวมของรถ ได้แก่ ด้านหน้า ด้านหลัง ข้างรถ เครื่องยนต์ ช่วงล่าง และรูปลักษณ์ภายใน เช่น เบาะ คอนโซล หน้าปัด วิทยุ พวงมาลัย ฯลฯ

3. บอกรายละเอียดให้หมด

เอารถไปตรวจเช็คสภาพ หาประวัติการซ่อมและแจ้งข้อมูลเหล่านั้นให้ครบ เช่น คุณทำอะไรกับรถแล้วบ้าง รถมีปัญหาอะไรอยู่ไหม เพื่อที่คนซื้อจะได้รู้ว่าถ้าซื้อไปแล้วจะต้องไปทำอะไรต่อ เคยโดนชนหน้า ชนหลังมาหรือเปล่า บอกให้หมด ดีกว่ามาโดนสาปแช่งทีหลัง

4. จริงใจ อย่าโปรโมทเกินจริง

บางครั้งคนที่โทร ติดต่อมาอาจจะอยู่ไกล ต้องเสียค่ารถ เสียเวลามาดูรถที่คุณประกาศขาย ยิ่งคุณโปรโมทรถเกินจริงเท่าไร คนซื้อก็ยิ่งคาดหวังสูง หากมาเห็นสภาพจริงแล้วไม่เป็นอย่างที่คิดก็จะเสียความรู้สึกกันเปล่าๆ ควรบอกรายละเอียดไปตามตรง แสดงความจริงใจในการซื้อขาย
 
ขอให้ทุกๆท่านมีความสุขและพอใจสำหรับทางเลือกของตัวเองนะครับ