ISUZU NQR 175 และ HINO 500 DOMINATOR(175) คันไหนน่าใช้กว่ากัน !!

ธุรกิจการขนส่งในประเทศไทยนั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจนั้นขับเคลื่อนไปได้นะครับ ซึ่งการใช้ยานพาหนะในการขนส่งถือเป็นปัจจัยหลัก เช่น รถกระบะ รถหกล้อเล็ก หกล้อใหญ่ รถสิบล้อ โดยการเลือกยานพาหนะต่าง ๆ มาใช้นั้นจะคำนึงถึงจำนวนของสินค้า ความสะดวกให้การวิ่ง ถ้าในชั่วโมงเร่งด่วน มีสิ่งของที่ต้องการขนย้ายในปริมาณขอ รถ 6 ล้อ 1 คัน แต่ดันติดเวลาไม่สามารถวิ่งได้ อาจจะต้องใช้ตัวเลือกในการขนสินค้าแทน  เช่นการนำรถกระบะ มาวิ่ง 2 คัน ซึ่งจะเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาของเวลานั่นเอง

HINO 500 DOMINATOR(175) และ ISUZU NQR 175 รุ่นไหนน่าใข้กว่ากัน

ในวันนี้ Chobrod.com เราไม่ได้มาพูดถึงเรื่องของการบรรทุกหรอกนะครับ เราจะมาพูดถึงเรื่องรถบรรทุก 6 ล้อนั่นเอง ซึ่งเราจะขอเปรียบเทียบยี่ห้อรถบรรทุก 6 ล้อระหว่าง สองค่ายใหญ่นั่นก็คือ ISUZU และ HINO นั่นเอง สำหรับรถบรรทุกทั้งสองยี่ห้อนี้เป็นที่นิยมใช้ในธุรกิจต่าง ๆ แต่หลัก ๆ ก็คือการขนส่งนั่นแหละครับ เนื่องจากทั้งสองค่ายนั้นมีรุ่นย่อยเยอะมาก เราจะขอยกมาเพียงรุ่นเดียว ที่แรงม้าพอ ๆ กันอย่าง HINO 500 DOMINATOR(175) และ ISUZU NQR 175 ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้เป็นรถบรรทุก 6 ล้อขนาดกลางที่มี 175 แรงม้า

ISUZU NQR 175

ISUZU NQR 175

ที่เพิ่งออกรุ่นใหม่มาในช่วงกลางปี 2018 ที่ผ่านมาด้วยการที่ถูกกล่าวยกย่องให้เป็น Isuzu King of Trucks ทำให้รุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างแพรหลาย เริ่มจาก ขุมพลังเครื่องยนต์ Isuzu Super Commonrail ให้กำลังในรูปของแรงบิดที่เหมาะสม ประหยัดน้ำมัน พร้อมระบบส่งกำลังสมบูรณ์แบบ เข้าเกียร์ง่าย แม่นยำ ให้อัตราทดสัมพันธ์ต่อเนื่องทุกอัตราเร่ง ช่วยประหยัดน้ำมันและให้กำลังฉุดลากสูงเพื่องานบรรทุกหนักโดยเฉพาะ เครื่องยนต์รหัส 4HK1-TCC เครื่องยนต์ขนาด 5,193 ซีซี 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 - 2,000 รอบ/นาที (ในรุ่น NQR) แชสซีส์มีขนาดใหญ่ แข็งแกร่ง ทนทาน รองรับการขนส่งที่หลากหลาย ความสามารถในการบรรทุกที่หลากหลาย GVW. 9.5 ตัน ในรุ่น NQR 175 แรงม้า

ISUZU NQR 175

เครื่องยนต์รหัส 4HK1-TCC เครื่องยนต์ขนาด 5,193 ซีซี 175 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 - 2,000 รอบ/นาที

เกียร์อีซูซุ รุ่น MZZ6F 6 เกียร์เดินหน้า พร้อมโอเวอร์ไดรฟ์ เสื้อเกียร์อะลูมิเนียม รองรับแรงบิดได้สูงให้กำลังต่อเนื่อง

ดูเพิ่มเติม​
>> เปิดตัว All New Toyota Hiace 2019 ชูจุดเด่น 17 นั่ง พร้อมระบบความปลอมภัยแบบจัดเต็ม
>> BMW X3 M, X4 M อเนกประสงค์หรูแรงพิเศษ การันตีความแรงระดับ 500 ม้า

Hino 500 Dominator

Hino 500 Dominator

เครื่องยนตร์รหัสJ05E-TC คอมมอนเรล ไดเร็กอินเจ็คชั่น 175 แรงม้า /แรงบิด 500 นิวตันเมตร

ในส่วนของความปลอดภัย

ISUZU NQR 175

มาตรฐานในส่วนต่าง ๆ ของ ISUZU NQR 175 นั้นถือว่าไม่เป็นสองรองใครเลยทีเดียวเริ่มจาก แชสซีส์ขนาดใหญ่เพราะเพลาหลัง แข็งแรง ทนทานต่อการบรรทุกหนักทุกประเภทโดยเฉพาะ ในส่วนของระบบเบรกนั้นเลือกใช้แบบไฮดอรลิกแรงดันสูง Dydraulic Booster Barke (HBB) ที่จับคู่กับเบรกไอเสีย ในส่วนของภายในรถนั้นจัดของใหม่เข้าไปเป็น แอร์แบค ที่ทำงานสอดคล้องกับเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับและ ช่วยผ่อนแรงแบบอัตโนมัติ พร้อมกับพวงมาลัยแบบยุบตัวได้เพื่อลดแรงกระแทกเมื่อประสบอุบัติเหตุ ที่มีในเฉพาะด้านคนขับ ส่วนของหัวเก๋งนั้นใช้โครงสร้างแบบพิเศษเป็นแบบประกบปิดและประตูเสริมคานเหล็กคู่ มั่นใจตลอดการขับ

สวยงาม กระชับมือ ปรับได้ 4 ทิศทาง

Airbag ทำงานร่วมกับเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติด้านคนขับ

ระบบแอร์สมบูรณ์แบบ Full Mode Control

*สนใจซื้อรถบรรทุก Suzuki Carry มือสอง, รถบรรทุก Hino มือสองราคาสวยๆ กดดูที่นี่ได้นะครับ

HINO 500 DOMINATOR(175)

ความปลอดภัยมาตรฐาน ขับเคลื่อนกระทำที่เพลาหน้าและเพลาหลัง เพลาหน้า ทำจากคานเหล็กรูปตัว I โค้ง รับน้ำหนักตามรุ่นย่อยของรถ เพลาหลังลอยตัวทั้งหมด เฟืองทดเดี่ยว รับน้ำหนักตามรุ่นย่อยของ จึงมั่นใจได้ในสมรรถนะ ระบบสั่นสะเทือน เป็นแบบแผ่นแหนบ และ โช้คอัพทั่งหน้า พวงมาลัยเพื่อช่วยให้ปลอดภัยเป็นแบบยุบตัวได้เมื่อเกิดการปะทะ พร้อมถุงลมนิรภัย ระบบเบรกไฮดรอลิก ประกอบด้วยก้ามเบรกแบบตัวนำคู่ กระทำทุกล้อ ควบคุมด้วย สองวงจรอิสระ หม้อลมสุญญากาศช่วยเบรก เบรกมือแบบกลไกแบ่งตัวเบรก กระทำที่เพลากลาง เสริมด้วยเบรกไอเสียที่ทำงานด้วยสูญญากาศควบคุมด้วยไฟฟ้าแบบยูโร 3

ระบบเบรกแอร์โอเวอร์ไฮดรอลิก (AOH)

เบรกไอเสีย 

อุปกรณ์ดักความชื้น (Air Dryer)

 จุดเด่นของ ISUZU NQR 175

• ความจุกระบอกสูบมากกว่าฮีโน่เล็กน้อย (อีซูซุ 5,193 cc. | ฮีโน่ 5,123 cc.)
• น้ำหนักรถเปล่าเบากว่าฮีโน่ (อีซูซุ 2,780 กิโลกรัม | ฮีโน่ 3,040 กิโลกรัม)
• เกียร์ดีกว่าฮีโน่ เป็นโอเวอร์ไดร์ฟ 1-6 แบบ ซิงโครเมซ (ฮีโน่ ไดเร็กไดร์ฟ 2-6 แบบ ซิงโครเมซ)
• ระยะต่อตัวถังยาวกว่าฮีโน่เล็กน้อย (อีซูซุ 5,672 มม. | ฮีโน่ 5.635 มม.)

  ISUZU NQR 175 มีระบบเบรกแบบไฮดรอลิกแรงดันสูง HBB

 ISUZU NQR 175 มาพร้อมเพลาหลัง แกร่งสุด ทนสุด เพื่อการบรรทุกหนักโดยเฉพาะ

 จุดเด่นของ HINO 500 DOMINATOR(175)

• สามารถทำแรงม้าสูงสุดได้เท่ากับอีซูซุที่รอบเครื่องต่ำกว่า (ฮีโน่ 175/2,500 | อีซูซุ 175/2,600) และสามารถทำแรงบิดสูงสุดได้ดีกว่าเล็กน้อย ที่รอบเครื่องต่ำกว่า (ฮีโน่ 51.0/1,500 | อีซูซุ 50.9/2,000)
• อัตราส่วนการอัดเครื่องยนต์ ฮีโน่ J05E-TC ทำได้ดีกว่า อีซูซุ 4HK1-TCC (ฮีโน่ 18.0 | อีซูซุ 17.5)
• ความเร็วสูงสุดดีกว่า (ฮีโน่ 121 กม./ชม. | อีซูซุ 115 กม./ชม.)
• สมรรถนะรถในการไต่ทางชัน ทำได้ดีกว่า (ฮีโน่ 39.7(21.7) %(องศา) | อีซูซุ 29.0(16.2) %(องศา))
• สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากกว่า GVW (ฮีโน่ 10,200 กิโลกรัม | อีซูซุ 9,500 กิโลกรัม)
• อัตราทดเฟืองท้ายต่ำกว่าประหยัดน้ำมันกว่า (ฮีโน่ 3.9 | อีซูซุ 4.1)
• ยางเรเดียลฮีโน่ชั้นยางมากกว่า 2 ชั้น (ฮีโน่ 8.25R16-16 ชั้น | อีซูซุ 8.25R16-14 ชั้น)
• ระบบเบรกดีกว่า ของฮีโน่เป็นระบบลมดันน้ำมันไฮดรอลิก ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบเบรกสูญญากาศ
• รัศมีวงเลี้ยวฮีโน่เลี้ยวได้แคบกว่า คล่องตัวกว่าในบริเวณพื้นที่จำกัด (ฮีโน่ 7.5 เมตร | อีซูซุ 8.4 เมตร)
• แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่กว่า (ฮีโน่ 120 แอมป์ | อีซูซุ 70 แอมป์ )
• เครื่องกำเนิดไฟฟ้ามีขนาดใหญ่กว่า (ฮีโน่ 60แอมแปร์ | อีซูซุ 50แอมแปร์)
• รับประกันนานกว่า (ฮีโน่ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง | อีซูซุ 2 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
• มีคูปองเช็คระยะให้ถึง 100,000 กิโลเมตร (อีซูซุแล้วแต่ตกลง)
• รูปลักษณ์การออกแบบหัวเก๋งสวยงามกว่า พร้อมกระจังโครเมียมที่ข้างไฟเลี้ยว และไฟ LED Daytime running light

>> เช็คด่วน!!! ตำรวจเเละเทศกิจ กวดขันเข้มผู้ใช้ทางเท้าผิดประเภท
>> งบ 5 แสน เล่นกระบะ 4 ประตูยกสูงรุ่นไหนดี

เฟรมแชสซีขึ้นรูปชิ้นเดียวขนาดใหญ่

หัวเก๋งยกได้ พร้อมระบบล็อกนิรภัย 2 ชั้น

สรุป

เมื่อพิจารณารายละเอียดทั้งหมดแล้วจะพบว่า ISUZU NQR175 เปรียบเทียบ จะมีจุดเด่นในเรื่องน้ำหนักรถเบา เกียร์ดีกว่า ในขณะที่ HINO FC Dominator จะเด่นในเรื่องเครื่องยนต์ที่ทำกำลังได้เท่ากันในรอบที่ต่ำกว่า ความแข็งแรงของตัวรถและการรับน้ำหนักที่ดีกว่า สามารถไต่ทางชันได้ดีกว่า ความเร็วสูงสุดที่มากกว่า ระยะวงเลี้ยวที่แคบกว่าคล่องตัวกว่า อัตราทดเฟืองท้ายที่ต่ำกว่าประหยัดน้ำมันมากกว่า แบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่า ระบบเบรกที่ดีกว่า และชั้นยางเรเดียลที่มากกว่าอีซูซุ 2 ชั้น มีคูปองเช็คระยะฟรี 100,000 กิโลเมตรและการรับประกันสินค้าถึง 5 ปี ซึ่ง ISUZU พึ่งเปลี่ยนตามมา รวมไปถึงการออกแบบหัวเก๋งที่ดูทันสมัยกว่า ออพชั่นครบกว่าเช่น คิ้วโครเมียมด้านข้างและไฟ LED ทั้งนี้ยังมีในคอมเม้นจากในอินเตอร์เนตนั้นยังบอกเป็นเสียงเดียวอีกว่า ถ้าหากต้องการใช้ในทางขึ้นเขาลงเขา นั้นให้เลือกทาง HINO จะเหมาะกว่า แต่ถ้าทางปกตินั้นควรเลือกใช้ ISUZU จะเหมาะกว่าเช่นกันนั่นเอง

ต้องการซื้อรถมือสองสภาพดี เชิญเข้าดูที่ตลาดรถตรงนี้