Honda City 2018 และ Mazda 3 2018 คันไหนคุ้มกว่ากัน?

ประสบการณ์ซื้อขายรถยนต์ | 29 ต.ค 2561
แชร์ 0

วันนี้ก็เป็นคิวของ Honda City 2018 และ Mazda 3 รถเก๋งที่ได้รับความนิยมทั้งคู่มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม โดดเด่นพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยรอบคันในราคาที่เหมาะสมกับฟังก์ชั่น ว่าแต่จะมีข้อด้อยข้อเด่นอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ไปดูกันเล้ยยย

เปรียบเทียบ Honda City 2018 และ Mazda 3 2018 คันไหนควรซื้อดี?

เปรียบเทียบ Honda City 2018 และ Mazda 3 2018 คันไหนควรซื้อดี? 

Honda City และ Mazda3  เป็นรถในกลุ่มที่ใกล้เคียงกันทั้ง Honda City ที่เป็น B - Segment จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีครอบครัวเล็กๆ หรือ ผู้ที่อยู่ในวัยทำงานที่ต้องการมีรถไว้ใช้งาน ส่วน Mazda 3 2018 เป็นรถแบบ C- Segment จะเป็นรถยนต์นั่ง ที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่หรือที่หลายๆท่านนั้นชอบเรียกว่ารถยนต์ขนาดคอมแพค เหมาะสำหรับเป็นรถครอบครัว ซึ่งก็มีข้อดีและข้อเด่นที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะคิดว่าแบบนี้ดีกว่า บางคนก็อาจจะคิดว่าอีกแบบดีกว่า เรามาหาคำตอบกันว่าต่างกันอย่างไร?

ภายนอก Honda City 2018

ภายนอก Honda City 2018

1.เปรียบเทียบภายนอก

จากการ รีวิว Honda City 2018 มีการปรับไฟหน้าเป็นแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED (LED Daytime Running Lights) พร้อมไฟตัดหมอกคู่หน้า LED ส่วนกระจังหน้าเป็นแบบโครเมียม พร้อมกันชนหน้า-หลัง ดีไซน์ใหม่สไตล์สปอร์ต, ล้ออัลลอยลายใหม่เท่ห์กว่าเดิม รุ่นท็อปก็จะได้เป็น มือจับประตูด้านนอกโครเมียม เสาอากาศแบบสั้นแบบครีบฉลาม ไล่ฝ้ากระจกหน้าหลังพร้อมไล่ฝ้ากระจกข้าง มือจับเปิดประตูด้านในตกแต่งโครเมียม เป็นต้น

ภายนอก Mazda 3 2018

ภายนอก Mazda 2018

Mazda 3 2018 มาในคอนเซ็ปต์การออกแบบ “โคโดะ ดีไซน์” KODO DESIGN ที่บ่งบอกความโดดเด่น ผ่านดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ในรูปลักษณ์แห่งความสปอร์ต พรีเมี่ยม พร้อมทั้งความรู้สึกปราดเปรียวได้ในเวลาเดียวกัน สง่างามจากการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ รุ่นท็อปก็จะได้ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ Halogen, ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา, ที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง พร้อมหัวฉีดน้ำ, สปอยเลอร์หลัง บนหลังคา, กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว, เสาอากาศ แบบติดหลังคา, ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ต พร้อมปลายท่อโครเมียม

สรุปเปรียบเทียบ ข้อนี้ใครที่ชอบสไตล์เรียบๆดูเป็นรถเก๋งที่สุขุมแต่ก็มีความหรูหราแนะนำ Honda City 2018 เลยค่ะ ส่วนใครที่ชอบสไตล์สปอร์ตโฉบเฉี่ยวเร้าใจมีความปราดเปรียว และยังตกแต่งอีกเยอะแยะจนร้องว้าวแนะนำ Mazda 3 2018 เลย แต่ส่วนตัวและชอบดีไซน์ของ Mazda 3 2018 มากกว่า เพราะแต่งเยอะ ออปชั่นการตกแต่งจัดเต็ม รู้สึกว่าใส่ใจกับดีไซน์มากกว่าและมีความวัยรุ่นแบบคูลๆเอาซะมากๆ

ดูเพิ่มเติมดูเพิ่มเติม
>> 
MG3 2018 ขอท้าชน Honda Jazz 2018
​>> คุ้มค่าไหมกับการซื้อ All New MG3 2018!?

ภายใน Honda City 2018

ภายใน Honda City 2018

2.เปรียบเทียบภายใน

Honda City 2018 เพิ่มความเหนือระดับกับการออกแบบภายในที่สปอร์ตเร้าใจมากขึ้น พร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง ตอบรับความสะดวกสบายสูงสุด มีการออกแบบแผงคอนโซลสีกันเมทัลลิกดูสปอร์ตและหรูหรากว่าเดิม  พร้อมเบาะนั่งลายใหม่สไตล์สปอร์ต  และมีการเปลี่ยนไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารเป็นแบบ LED พร้อมเทคโนโลยีควบคุมอัจฉริยะ ด้วยพวงมาลัย ด้วยพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่นกับระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส พร้อมช่องเชื่อมต่อ USB และช่องเชื่อมต่อ HDMI ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย (Bluetooth) ครบครันด้วยฟังก์ชั่นระดับพรีเมียม ห้องสัมภาระด้านท้ายจุฟได้ถึง 536 ลิตร มีที่ดึงพับเบาะด้านหลัง เบาะนั่งด้านหลังปรับพับได้แบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่สำหรับวางสัมภาระได้อย่างเต็มที่

ภายใน Mazda 3 2018

ภายใน Mazda 2018

จากการ รีวิว Mazda 3 2018 ห้องโดยสารโอ่โถงสะดวกสบาย เบาะหนังโอบกระชับกึ่งบักเก็ตซีท โดดเด่นด้วยหนังสีทูโทนหรูหรา เพิ่มเสน่ห์ในแบบสปอร์ตพรีเมี่ยม ด้วยการประดับแผงอุปกรณ์และแผงประตู ด้วยวัสดุสีเงินใหม่ สลับกับสีดำวาว Piano Black ให้ความรู้สึกเช่นเดียวกับห้องโดยสารรถยุโรป พร้อมจัดวางอุปกรณ์ภายใน เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการใช้งานมากขึ้นให้คุณสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม เพิ่มพื้นที่สำหรับสัมภาระขนาดใหญ่ เพียงพับเบาะนั่งด้านหลังเป็นพื้นราบ 180 องศา หรือแยกพับซ้าย-ขวาแบบอิสระ 60:40 ตามความต้องการใช้งาน ใช้งานโซเชียลมีเดีย หรือรับ-ส่ง ข้อความ SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Bluetooth พร้อม Infotainment ที่มีให้เลือกมากมายในแอพพลิเคชั่น Aha by HARMAN รวมถึงระบบนำทาง Navigator ในจอขนาด 7 นิ้ว

สรุปเปรียบเทียบ การตกแต่งก็ออกแบบมาให้มีความสปอร์ตและสวยงาม มีความพรีเมี่ยมเช่นเดียวกันเลยค่ะ ส่วนอุปกรณ์ก็ให้มาครบครันทั้งคู่ แต่สิ่งที่ Honda City 2018 โดดเด่นกว่านั่นก็คือความกว้างของด้านหลัง มีพื้นที่เยอะ และเบาะหลังสามารถพับลงมาเพื่อเก็บของได้ รวมถึงห้องสัมภาระด้านหลังสามารถจุของได้เยอะถึง 536 ลิตร นั่นเองค่ะ

เครื่องยนต์ Honda City 2018

เครื่องยนต์ Honda City 2018

3.เปรียบเทียบเครื่องยนต์

Honda City 2018 เครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร 117 แรงม้า ผสานความนุ่มนวลด้วยระบบเกียร์ CVT พร้อมระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีดและระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist เพื่อความสมบูรณ์แบบของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับพลังงานทางเลือก E85

เครื่องยนต์ Mazda 3 2018

เครื่องยนต์ Mazda 2018

Mazda 3 2018 เทคโนโลยีตัวแรกที่เปิดตัวภายใต้ชุดเทคโนโลยี SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ก็คือระบบ G-VECTORING CONTROL ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ SKYACTIV-G – 165  แรงม้า เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซินทั้งแรงและประหยัด ด้วยอัตราส่วนการอัดสูงที่สุด 14.0:1* แหละประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.6 กม./ลิตร**

*เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร

**ผลการทดสอบตามมาตรฐาน UN R101 Combine Mode

ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟระบบช่วงล่างที่เกาะถนนมั่นคงและให้ความนุ่มนวลสบายแก่ห้องโดยสาร พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้เข้าโค้งได้แม่นยำ ทั้งปลอดภัยและประหยัดน้ำมัน เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ 6 สปีดสวิตช์ Drive Selection สามารถเลือกขับขี่ในโหมด Sport ขับสนุกไม่ต่างจากเกียร์ธรรมดา i-Stop (Idling Stop System) – ระบบที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อจอดนิ่ง ขณะที่อุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถยังคงทำงานตามปกติ และเครื่องยนต์จะทำงานอัตโนมัติทันทีเมื่อรถพร้อมออกตัว ทำให้ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น

สรุปเปรียบเทียบเครื่องยนต์ เรื่องนี้ต้องขอยกให้ Mazda 3 2018 เลยค่ะ เพราะเครื่องแรงกว่าเยอะด้วยความที่มันเป็นรถในระดับที่สูงกว่า บวกกับการขับขี่ของมาสด้าที่ช่วงล่างหนึบ ขับสนุกเร้าใจด้วยกำลังแรงม้าที่แรงกว่า อัตราเร่งก็ดี ถ้าซื้อไปเน้นขับขี่ก็รุ่นนี้เลย แต่ถ้าซื้อไปเน้นประหยัดน้ำมันก็ต้องให้ Honda City 2018 เขาล่ะ

ความปลอดภัย Honda City 2018

ความปลอดภัย Honda City 2018

4.เปรียบเทียบความปลอดภัย

Honda City 2018 มาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครันทั้งระบบเบรก ABS ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA และสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน ESS ที่มีให้ครบในทุกรุ่นพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยของรถระดับพรีเมียม อาทิ ระบบถุงลม 6 ตำแหน่ง กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมองได้ 3ระดับ โครงสร้างตัวถังนิรภัย G-Force Control หรือ G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง  และอีกหลากหลายเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ให้คุณมั่นใจในทุกการเดินทาง

ความปลอดภัย Mazda 3 2018

ความปลอดภัย Mazda 2018

Mazda 3 2018 มีจุดเด่นด้านความปลอดภัย ทั้งแบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safety) และแบบปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) จึงมั่นใจได้ในทุกเส้นทาง ทุกสถานการณ์การขับขี่ ด้วยมาตรฐานความปลอดภัย ทั้ง HLA (Hill Launch Assist)-ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน, ABS 4 ล้อ พร้อม EBD ช่วยกระจายแรงเบรก, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และท่านถุงลมนิรภัย รวม 4 ตำแหน่ง, ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของตัวของรถ, ช่วยการออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน, ช่วงป้องกันรถลื่นไถล, โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ พร้อมถุงลมและม่านถุงลมนิรภัย, สัญญาณไฟกะพริบอัตโนมัติเมื่อเบรกรถในภาวะฉุกเฉิน เพื่อส่งสัญญาณเตือนรถคันหลัง, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว DSC (Dynamic Stability Control) และอื่นๆอีกมากมาย

สรุปความปลอดภัย ถ้าเน้นเรื่องความปลอดภัยแบบจริงๆจังๆขอแนะนำไปที่ Mazda 3 2018 เลยค่ะ อันนี้คือเค้าให้มาเยอะมากกกกก! เยอะมากจริง มันมีทั้งระบบความปลอดภัย ก่อน, ระหว่าง และหลังที่จะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งเขาคิดมาเพื่อรองรับกับผู้ใช้งานและสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในทุกรูปแบบ เรียกได้ว่าใส่ใจจริงๆ ส่วนเรื่องที่โดดเด่นของ Honda City 2018  ก็คือถุงลมที่ให้มาเยอะกว่ามาสด้า 2 ตำแหน่ง นอกนนั้นมาสด้าแซงทุกอย่าง

Honda City 2018 ราคา 550,000 – 751,000 บาท

Honda City 2018 ราคา 550,000 – 751,000 บาท

Mazda 3 2018 ราคา 857,000 - 1,149,000 บาท

Mazda 2018 ราคา 857,000 - 1,149,000 บาท

5.เปรียบเทียบราคา

Honda City 2018 ราคา 550,000 – 751,000 บาท
Mazda 3 2018 ราคา 857,000 - 1,149,000 บาท

สรุปการเปรียบเทียบราคา ก็อย่างที่เห็นนะคะว่า Honda City 2018 มีราคาที่ถูกกว่านั่นก็เพราะว่ามันอยู่คนละเซกเม้นท์กัน ราคามันจึงต่างกันเป็นอย่างมาก ใครที่อยากประหยัดก็เลือกฮอนด้าไปเลยเพราะออปชั่นต่างๆก็ให้มาเยอะ มีความเพอร์เฟคตามราคาของมันอยู่แล้ว ส่วน Mazda 3 2018 ก็มีราคาที่สูงกว่ามาก ด้วยความที่ให้ทุกอย่างมาจัดหนักจัดเต็มจริงๆ

สรุปเลยแล้วกันนะคะว่าใครที่เงินถึงก็เอา Mazda 3 2018 ไปโล้ดดด เพราะครบถ้วนกระบวนความทุกอย่างทั้งรูปลักษณ์ภายนอก ภายใน ความปลอดภัยและเครื่องยนต์ ใครชอบรถสวยเครื่องแรงก็เลือกอันนี้เลย ส่วนคนที่อยากประหยัดทั้งเงิน ประหยัดทั้งน้ำมันก็มองมาที่ Honda City 2018 เพราะมันก็สวนในระดับที่ดีเลย ออปชั่นภายในให้มาเยอะกว่า ตกแต่งสวย แม้จะเครื่องยนต์และความปลอดภัยไม่เท่าอีกรุ่นแต่มันก็ถือว่าครบและให้มาตามมาตรฐานจ้าา ยังไงก็ลองพิจารณากันดูเนอะ วันนี้ Chobrod ขอฝากบทความไว้เท่านี้ ครั้งต่อไปจะเปรียบเทียบรถรุ่นไหนให้ดูอีก ติดตามกันด้วยน้าาาา

ดูเพิ่มเติม
>> 
เมื่อ Honda City 2018 มาเจอกับ Hyundai Accent 2018
>> ส่องข้อดี-ข้อเสียของ Honda City 2018 จะมีอะไรบ้างนะ?

ติดตามข่าวสารรถยนต์ เชิญที่นี่ 
ค้นหาข้อมูลรายละเอียดสามารถเข้าดูวีวิวรถ เชิญที่นี่