ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นการมาของ BMW X2 ไม่ได้ทำให้รู้เกิดความประทับใจอะไรนัก พร้อมกับคำถามในใจอีกมากมายว่าทำไม เมื่อมีรุ่น X1 อยู่แล้ว BMW จะยังอุตส่าห์มี X2 อีกเพื่ออะไร ในสไตล์ครอสโอเวอร์เหมือนๆ กัน แต่เมื่อยิ่งมองที่ตัวรถของ X2 พร้อมกับรับรู้ซึ่งรายละเอียดต่างๆ มากขึ้น ก็ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป และรู้ว่าทำไม BMW ถึงต้องปล่อย X2 คันนี้ออกมา
Five Fact : BMW X2 พรีเมี่ยมครอสโอเวอร์น่าขับ กับ 5 เรื่องที่คุณต้องรู้
ในตลาดที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด กับประเภทรถที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกอย่าง SUV และ CUV Crossover ในโลกแห่งยนตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง ผ่านไปทุกวินาทีที่เข้าสู่อนาคต แน่นอนว่าแค่รูปแบบพื้นฐานเท่านั้น อาจยังไม่สามารถตอบโจทย์ของผู้ซื้อได้มากพอ แต่ต้องมากที่สุด และนั่นคือที่เหตุผลของการมาใน BMW X2 เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ BMW X1 ให้ไม่ได้ ความสดใส มีชีวิตชีวา ที่กลุ่มเป้าหมายคือวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวเลขอายุจริง หรือจะเป็นหัวใจที่ยังซ่าอยู่ก็ตาม ใบเบิกทางที่น่าสนใจของผู้ที่ต้องการเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ภายใต้โลโก้ BMW รวมไปถึงการเป็นอีกทางเลือกของสาวก BMW ตัวจริงก่อนหน้า ในโหมดที่สดใส มีสไตล์ยิ่งขึ้น
และ Chobrod Five Fact ในสัปดาห์นี้ เราจะพาไปดูกับ 5 สิ่งที่น่าสนใจใน BMW X2 ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกัน
1. มากับโครงสร้างแพลตฟอร์มใหม่ UKL
UKL แพลตฟอร์มโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาสำหรับรถขนาดเล็ก ขับเคลื่อนล้อหน้าโดยเฉพาะของ BMW (แต่มี Mini ร่วมใช้ด้วย) ซึ่งจุดเด่นก็คือสามารถจัดสรรเนื้อที่ภายในห้องโดยสารให้ดีขึ้นกว่าได้ แม้ตัวรถภายนอกเท่ากัน รวมไปถึงการจัดอ๊อพชั่นอุปกรณ์ที่ต้องใช้ภายในห้องโดยสารให้กับรุ่นย่อยต่างๆ ก็ทำได้หลากหลายมากขึ้น ใช้กับของรุ่นอื่นๆ ในค่ายได้ง่าย และสำคัญที่สุดคือ เป็นการลดต้นทุนการผลิตอีกทางหนึ่งนั่นเอง ซึ่ง BMW X2 คือ 1 ใน 12 โมเดลที่ทาง BMW วางแผนไว้ว่าจะให้ใช้โครงสร้าง UKL แพลตฟอร์มนี้อยู่แล้วด้วย
UKL แพลตฟอร์มที่ BMW วางไว้ใช้ร่วมกันใน 12 รุ่นของค่าย และค่ายในเครืออย่าง MINI
2. X2 คือครอสโอเวอร์ที่เล็กสุดของ BMW
อย่าให้ชื่อรุ่นมาหลอกคุณ แม้เพียงฟังครั้งแรกกับชื่อรุ่นใหม่กับตัวเลขที่มากกว่า BMW X2 เชื่อว่าหลายคนคงต้องคิดว่ามันจะต้องเป็นครอสโอเวอร์ที่ใหญ่กว่า X1 อย่างแน่นอน แต่ความจริงโดยรวมแล้วนั้น BMW X2 มีขนาดเล็กกว่ารุ่น X1 แม้ X2 จะมากับราคาที่แพงกว่าเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งก็มีหลายๆ อย่างที่ดูพิเศษกว่า
และในตลาด Subcompact Crossover เมืองไทย ผู้สนใจที่จากเดิมมองแค่รถ Mass อย่าง Honda HR-V, Toyota C-HR หรือแม้กระทั่ง Subaru XV แต่ถ้าอยากลองสัมผัสอารมณ์ความเป็นครอสโอเวอร์แบบยุโรป อาจต้องกลั้นใจขึ้นอีกนิดกับการซื้อ X2 ด้วยราคา X1 ที่แพงกว่าแล้ว ถ้าขยับไป X2 ที่ราคา 2.99 ล้านบาท จึงเกิดเป็นคำถามว่า จะมีผู้ซื้อมากแค่ไหนที่ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อให้ได้รถที่พื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารใกล้เคียงกัน ระหว่าง X1 กับ X2 นอกเสียจากจะมองว่ามันคือรุ่นเดียวกัน แตกต่างที่อ๊อฟชั่น ความสวย และสไตล์การออกแบบที่สดใหม่กว่า
จริงๆ แล้ว X2 เล็กกว่า X1 มีแค่เรื่องความกว้างเท่านั้นที่มากกว่า
เทียบมิติตัวถังของ BMW X1 และ X2
3. รุ่น M Sport เพิ่มความพิเศษด้วยความสปอร์ตสมชื่อ
แม้ว่า BMW จะสร้าง X2 ให้ออกมาดูมีความสปอร์ตแบบเจนจัด ชัดแจ้งอยู่แล้ว แต่ทางค่ายใบพัดฟ้าขาว ไม่ได้หยุดอยู่เพียงเท่านั้น ในเมื่อบารมีของคำว่า M Perfomance ที่ BMW มีอยู่ ยังสามารถเพิ่มความเร้าใจให้กับตัวรถได้อีก ด้วยแพคเกจชุดแต่ง M Sport X ที่จะช่วยให้รถ SUV ในตระกูล X2 คันนี้เพิ่มความสปอร์ตที่เร้าใจกว่ารุ่นธรรมดา กันชนหน้าทรงใหม่ เพิ่มช่องดักลมที่ใช้สีเงิน Frozen Grey ตกแต่งตัดกับสีตัวรถ และ Skirts ข้างกับซุ้มล้อที่ใช้สีเงิน Frozen Grey นี้ตกแต่งเพิ่มความโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ให้ตัวรถรอบคัน ล้อก็เป็นวัสดุอัลลอยน้ำหนักเบาลาย Y-spoke ในแบบฉบับของ M ขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง 225/45 R19 รวมไปถึงภายในก็จะได้รับการอัพเกรดเพิ่มความสปอร์ตให้พร้อมกันอีกด้วย
ดูเพิ่มเติม:
>> 10 ตำนานรถพลัง M ที่ดีที่สุดของ BMW
>> โชว์แล้ว BMW X2 sDrive20i M Sport X 2018 ใหม่ ในงานมอเตอร์โชว์
ความพิเศษในรุ่น M Sport มีมาให้ทั้งภายในและภายนอก
4. ความแรงไม่ธรรมดา ระดับม้า 200 อัพ
แม้จะมองเป็นรถกึ่งสายลุย แต่ในทางเรียบเรื่องความแรงของ X2 ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนแต่อย่างใด เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นรถจากค่าย BMW สมรรถนะ Performance ต้องมี ความแรงต้องได้ กับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 7.7 วินาที และความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น่าจะพอเห็นภาพว่า BMW X2 คันนี้ ความแรงไม่ธรรมดาเลย จากขุมกำลังเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบขนาด 2.0L BMW Twin Power Turbo ที่ผลิตแรงม้าสูงสุดได้อยู่ที่ 192 แรงม้า ใน 5,000-6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 280 Nm ขับเคลื่อนด้วยล้อหน้ากับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic DCT 7 Speed แบบคลัตซ์คู่ พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกปรับได้แค่ปุ่มกด Driving Experience Control โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 โหมดคือ
เครื่องยนต์ Twin Turbo กับม้าอีกเกือบ 300 ตัว เรื่องทางเรียบ ไว้ใจได้
5. ซ่อนกิมมิคความเป็น BMW ยุคเก่าเอาไว้ด้วย
มนต์ขลังในรถ BMW เป็นที่รู้กันดีสำหรับสาวกค่ายนี้ ที่มักจะสร้างความแตกต่าง และซ่อนเสน่ห์บางอย่างไว้ในตัวรถอยู่เสมอ โลโก้ใบพัดสีฟ้าที่บริเวณเสา C ซ้ายขวาถูกประทับไว้เด่นตระหง่าน ขนาดกำลังดี ที่รุ่นส่วนใหญ่ของค่ายอย่างมากก็จะมากับแค่โลโก้แบรนด์เพียงแค่ด้านหน้า กับฝาท้ายเท่านั้น แต่ใน X2 ให้มาอีก 2 จุด ซึ่งไม่ได้เห็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว พาให้นึกถึงโมเดลในตำนานของค่ายอย่างใน BMW E9 รถขึ้นแท่นระดับคลาสสิก ที่ปัจจุบันจะหาชมได้ยากยิ่ง แต่ X2 คันนี้ก็นำเสน่ห์ที่คล้ายกัน กลับมาอยู่ในรถรุ่นปัจจุบันอีกครั้งได้อย่างลงตัว เมื่อยิ่งมอง BMW X2 คันนี้ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่ามันคือรถสำหรับครอบครัว BMW อย่างแท้จริงที่ควรมีไว้สำหรับคนรักรถค่ายนี้เป็นที่สุด
โลโก้ที่เสา C จุดเด่นย้อนยุค พาให้กลับไปนึกถึงรุ่นคลาสสิคของ BMW
และทั้งหมดคือ Five Fact ของ BMW X2 ครอสโอเวอร์ที่น่าสนใจที่สุดในโลกตอนนี้ และเชื่อได้เลยว่าต้องเป็นหนึ่งในรถครอสโอเวอร์ที่คุณจะปรารถนา ใคร่เป็นเจ้าของรุ่นหนึ่งอย่างแน่นอน กับราคาที่จำหน่ายในประเทศไทยในรุ่น BMW X2 sDrive20i M Sport X อยู่ที่ 2.99 ล้านบาท อาจจะมองว่าสูงกว่าในตลาดรถประเภทนี้เทียบกับหลายๆ รุ่น หลายๆ ค่าย แต่ถ้ามองอีกแง่ ก็เหมือนเป็นการกรองผู้ซื้อ ให้เห็นว่าคนที่ชอบและรักใน BMW จริงๆ ถ้าจะซื้อรถในแบบครอสโอเวอร์ไซส์กระทัดรัดสักคัน ควรจะซื้อคันไหน
Chobrodขอฝากความรู้เกี่ยวกับรถยนต์ไว้เพียงเท่านี้และอย่าลืมแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องรถยนต์ของคุณให้เราด้วยโดยการให้ Comment ด้านล่างนี้ได้เลย
ดูเพิ่มเติม:
>> เผยกลางปี BMW X2 รุ่น FWD บุกอเมริกาแน่!!!
>> ส่อง 5 โมเดลทีเด็ดบูธ BMW งาน Motor Show 2018