จากผู้นำแต่เพียงผู้เดียวมาอย่างยาวนาน สู่การเป็นผู้ตามอยู่ที่อันดับสามของตลาดในไทยตอนนี้ ตั้งแต่ต้นปี 2018 ทำให้ Honda HR-V ต้องมีการเคลื่อนไหว เพื่อกระตุ้นให้ยอดขายกลับมาปังอีกครั้ง ด้วยการเตรียมเปิดตัวเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ที่ประเทศไทยในวันที่ 27 มิถุนายน 2018 ตามติดที่ก่อนหน้า Vezel ไมเนอร์เชนจ์รุ่นเดียวกันเวอร์ชั่นขายในญี่ปุ่นเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน
Five Fact : รีเฟรชความใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขาย กับ HR-V ไมเนอร์เชนจ์ 2018
และถ้าใครอยากทำความรู้จักเกี่ยวกับ Honda HR-V ไมเนอร์เชนจ์ 2018(หรือชื่อ Vezel ในญี่ปุ่น) Subcompact SUV ที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่ง คู่แข่งอย่างเป็นทางการในตลาด Crossover ของ Toyota C-HR ทั้งในประเทศ และตลาดโลก วันนี้ Chobrod Five Fact จะพาคุณไปดูความน่าสนใจของรถรุ่นนี้ว่ามีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
1.หน้าตาใหม่ที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2013 และมาใหม่ในโฉมไมเนอร์ฯ เมื่อช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา Honda HR-V กับการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ที่ส่วนของด้านหน้าทั้งหมด กระจัง กันชน และไฟหน้ารูปแบบที่ไม่ได้ดึงอารมณ์จากมนต์เสน่ห์ที่มีอยู่เดิม แต่เป็นการสร้างแรงบันดารใจใหม่อีกครั้งที่สดใหม่ยิ่งขึ้น ไฟหน้าใหม่ในแบบ Full LED ในโคมทรงเดิม เพิ่มเติมรายละเอียดที่ดูดีขึ้น พร้อมไฟตัดหมอกแนวนอนเปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นทรงกลม แม้ถึงกับต้องสังเกตว่าไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้ของ HR-V มีอะไรใหม่ที่ภายนอก แต่ก็พอทำให้รู้สึกได้ว่าไม่เหมือนรุ่นเดิม ดูแปลกตาจากที่เห็นบ่อยๆ บนท้องถนน
ดูเพิ่มเติม
>> Five Fact : BMW X2 พรีเมี่ยมครอสโอเวอร์น่าขับ กับ 5 เรื่องที่คุณต้องรู้
>> วิเคราะห์-จับกระแสการกลับมาของ รถอเนกประสงค์รุ่นเล็กสุดคลาสสิค Suzuki Jimny 2018
เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยสำหรับภายนอกของ Honda HR-V ไมเนอร์เชนจ์ 2018
2.ต่อยอดจาก Honda Jazz สู่ความนิยมอย่างล้นหลามครั้งแรกที่เปิดตัว
รู้ไหมว่าความจริงของ Honda HR-V นั้น โมเดลปัจจุบันถูกสร้างออกมาเป็นเจ็นที่สองแล้วจาก Honda แต่ไม่ได้ถูกนำมาจำหน่ายในไทย และถูกยกเลิกการผลิตไปเมื่อปี 2006 หลังจากทำตลาดมายาวนานกว่าถึง 8 ปีแต่ไม่ค่อยได้สร้างความประทับใจในเรื่องยอดขายให้กับทางค่ายนัก Honda จึงได้หยุดพัฒนารุ่นนี้ไป
และต่อมาเข้าสู่ยุคที่ผู้ใช้ต้องการทางเลือกในรถอเนกประสงค์มากขึ้น กับขนาดที่เล็กกว่า Honda CR-V ที่มีอยู่ เพื่อเอื้อประโยชน์ในด้านความคล่องตัวที่มากกว่า เน้นขับขี่สะดวกใช้ในเมือง ซึ่งก็น่าจะพอทำให้นึกออกอยู่หนึ่งรุ่นในค่าย Honda นั่นคือ Honda Jazz แต่ใช่ว่าจะเป็นเพียงแค่นำรุ่นนี้มาทำการยกสูงให้เหมือนครอสโอเวอร์แล้วก็จบ ทาง Honda ต้องการอะไรที่มันพิเศษยิ่งกว่า ทั้งเรื่องของดีไซน์หลังคาเตี้ยให้ดูสปอร์คมากยิ่งขึ้น หรือจะเป็นในเรื่องของพื้นที่ห้องโดยสารที่มากกว่า ซึ่งมองว่า Honda Jazz อาจจะเหมาะเพียงสำหรับการโดยสารสำหรับสองคนเท่านั้น แต่ถ้าจะให้นั่งสบายได้มากกว่านั้น อาจต้องปรับขนาดตัวรถก้าวเข้าสู่ไซส์ C-Segment เพื่อเทียบเท่าคู่แข่งในตลาดช่วงนั้นที่มีอยู่อาทิเช่น Nissan Juke Subaru XV
ภายในยังเน้นแบบเดิม ไม่มีข้อมูลการเปลี่ยนแปลง
3.Hybrid ขายดีในญี่ปุ่น ส่วนที่ไทยยังเป็นเครื่องยนต์แบบเดิม
การกลับมาอีกครั้งของ Honda HR-V ภายในงาน Tokyo Motor Show 2013 คือจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จที่ถือเป็นการแก้ตัวได้ดี จากเจ็นเดิมโฉมก่อนหน้าที่อาจจะมาผิดที่ ผิดเวลาไปสักหน่อย ด้วยยอดจองในช่วงเปิดตัวกว่า 33,000 คัน คงไม่ใช่แค่ ฟลุ๊ค! แต่ถือว่าทำยอดจองได้สูงที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในตลาดญี่ปุ่นในช่วงนั้น โดยยอดขายกว่า 82% ของรุ่นนี้ เป็นรุ่น Hybrid และที่เหลือนั้นเป็นรุ่นเบนซิน 1.5L
และในเวอร์ชั่นไมเนอร์เชนจ์ที่ญี่ปุ่น แน่นอนว่ารุ่นที่เป็น Hybrid พลังมอเตอร์ร่วมทำงานกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5L จะยังมีอยู่ พร้อมกับเพิ่มรุ่น Hybrid RS เข้ามาพร้อมกับชุดตกแต่งพิเศษ โดยการแยกเฉพาะเจาะจงเพื่อให้รู้ว่าคันไหนเป็นรุ่น Hybrid คันไหนเป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปธรรมดา จะสังเกตได้ที่บริเวณกระจังหน้า ถ้ากระจังหน้าเป็นโครเมี่ยมจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ 1.5L ธรรมดา แต่ถ้าเป็นกระจังหน้าสีเข้ม จะเป็นรุ่นไฮบริดนั่นเอง และไม่ต้องหวัง จะได้ไม่ผิดหวังสำหรับสยามเวอร์ชั่นของ HR-V ไมเนอร์เชนจ์นั้น จะยังคงเป็นเครื่องยนต์แบบเดียวแบบเดิมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.8L 4 สูบ 16 วาล์ว SOHC i-VTEC รหัส R18Z1 หัวฉีด Multi-point PGM-FI แรงม้าสูงสุดอยู่ที่ 141 ตัวกับแรงบิดสูงสุดที่ 172 Nm ผสานการทำงานร่วมกับเกียร์ CVT ไม่มีรุ่นไฮบริดออกมากให้เลือก ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดข้อด้อย เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Toyota C-HR ที่มีเวอร์ชั่นไฮบริดออกมาให้เลือกด้วย
ในไทยน่าเสียดายที่ไม่มีเวอร์ชั่นไฮบริด ยังคงใช้เครื่องเดิม 1.8L
Honda HR-V ไมเนอร์เชนจ์จะมีมาให้เลือก 3 รุ่นย่อยดังต่อไปนี้
แตกต่างจากเดิมตอนนี้ที่มีรุ่นย่อย 4 เกรด รุ่น S และ E Limited จะถูกตัดออกไป และเข้ามาเพิ่มใหม่ด้วยรุ่นย่อย RS แทน พร้อมกับสีใหม่ “แดง Passion Red Pearl” ที่จะมีให้เฉพาะในรุ่น 1.8 RS CVT เท่านั้น ซึ่งสีแดงนี้ที่ขายในไทยจะต่างกับสีแดงของเวอร์ชั่นขายที่ญี่ปุ่น ที่ใช้เป็นสีแดง Premium Crystal Red Metallic
สีแดงรุ่นพิเศษในไทยจะแตกต่างกับสีดีเวอร์ชั่นขายในญี่ปุ่น
4.มิติตัวถังที่อาจจะดูเป็นรองคู่แข่ง
คู่แข่งโดยตรงของ HR-V ทั้ง Mazda CX-3 และ Toyota C-HR รวมไปถึง MG ZS
ต่อยอดจากจุดเริ่มต้น ปรับขนาดทุกมิติให้ใหญ่กว่า Honda Jazz เล็กน้อย แต่มากับดีไซน์ที่สปอร์ตมากกว่า ด้วยหลังคาเตี้ย แต่มอบพื้นที่ใช้สอยภายในได้มากกว่า แต่เมื่อมามองเทียบมิติกับคู่แข่ง จะเห็นว่า HR-V เป็นรอง MG ZS ทุกกระเบียดนิ้ว และมีเพียงเรื่องความสูงเท่านั้นที่มากกว่าคู่แข่งอันดับหนึ่งอย่าง Toyot C-HR ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งสำหรับผู้ซื้อ ที่เน้นในเรื่องตัวเลขของพื้นที่ภายใน จึงทำให้ในตอนนี้ Honda HR-V มียอดขายเป็นรองทั้งสองรุ่นในคลาส ทั้ง Toyota C-HR และ MG ZS แต่ด้วยเงื่อนไขอื่นทั้งดีไซน์ และความเป็นรถจาก Honda ที่ความน่าเชื่อถือไม่น้อยสำหรับเมืองไทย เมื่อการมาของไมเนอร์เชนจ์ รีเฟรชใหม่ในครั้งนี้เกิดขึ้น เรื่องมิติขนาดก็อาจจะไม่มีผลสำคัญเท่าไรนักต่อการตัดสินใจซื้อ
5.มาสักทีสำหรับ Honda Sensing
เมื่อเทคโนโลยีที่มีการนำเรดาห์ ที่มีความแม่นยำสูงระดับมิลลิเมตรทำงานร่วมกับกล้องจาก Honda Sensing ทำหน้าที่ตรวจจับสิ่งกีดขวาง คนเดินถนน และคนปั่นจักรยานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน ป้องกันการก่อนการเกิดอุบัติเหตุ ที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ในเสี้ยววินาทีที่ผู้ขับขี่เผลอ หรือเสียสมาธิ ซึ่ง Honda Sensing นี้เป็นระบบความปลอดภัยที่เหล่าแฟนๆ หรือผู้สนใจในรุ่นนี้ร้องเรียกให้เข้ามาอยู่ใน HR-V ตั้งนานแล้วและในที่สุด Honda ก็ให้มาได้สักที
ซึ่งใน Honda Sensing จะประกอบด้วยระบบความปลอดภัยดังต่อไปนี้
ความปลอดภัยจาก Honda Sensing จะมาแล้วสำหรับเวอร์ชั่นขายในไทย
นอกจากนี้มาตรฐานความปลอดภัยเดิมก็มีมาให้อย่างครบครัน อาทิเช่น ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ได้แก่ ถุงลมอัจฉริยะด้านคนขับแบบ i-SRS และผู้โดยสารด้านหน้าแบบ SRS ถุงลมด้านข้างที่คู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbags และม่านถุงลมด้านข้าง Side Curtain Airbags, กล้องมองหลังMulti-angle Rearview Camera ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ เป็นต้น
และทั้งหมดนี้คือ Five Fact ประจำสัปดาห์กับ Honda HR-V ไมเนอร์เชนจ์ 2018 ที่ใกล้จะเปิดตัวเต็มทีในไม่อีกกี่วันข้างหน้า อะไรคือสิ่งที่น่าสนใจของรุ่นนี้ที่จะสามารถเบียดเอาชนะใจผู้ซื้อ แข่งกับอีกหลายๆ รุ่นที่กำลังมาแรง และอดีตครอสโอเวอร์ยอดขายอับดับหนึ่งหลายปีอย่าง HR-V รุ่นนี้จะกลับมาทวงบังลังก์แชมป์ของตลาดครอสโอเวอร์ในเมืองไทยที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านได้หรือไม่นั้น ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด
ดูเพิ่มเติม
>> Toyota Rush กับ Honda BR-V เลือกคันไหนใช่ที่สุด?
>> สัมผัสประสบการณ์ขับขี่แบบเหนือระดับกับ All New Honda BR-V 2018
สนใจซื้อหรือเช็คราคารถ Honda มือสอง ทุกรุ่นได้ที่นี่