5 เรื่องเด่นของ Tesla Model X สุดของไฮไลท์รถไฟฟ้าในงานมอเตอร์โชว์ 2018

คนทั่วโลกได้สัมผัส และรู้จักกับ Model X นี้มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2015 แล้วกับการเปิดตัวที่เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อยกับประตูปีกนก “Falcon Wing” จนปีนี้ทาง Sharenovation ผู้จำหน่ายนำเข้ารถ Tesla จากฮ่องกงก็ได้นำ Model X คันจริง มาจอดตระหง่านโดดเด่นภายในงาน Motor Show 2018 ที่ในบูธนอกจากนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมพลังงานขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจากรถยนต์ของ Tesla แล้ว Sharenovation ซึ่งเป็นกลุ่มทุนเดียวกับ บริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัดนี้ยังนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และนำเข้ายานยนต์ไฟฟ้า 100% อีกหลายๆ แบรนด์มาจำหน่ายทั้งในแบบสี่ล้อ และสองล้อ อย่างการเข้า และจัดจำหน่าย NIU (นิว)​ สกูตเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Electric Scooter) ที่มียอดขายทั่วโลกกว่า 400,000 คันก็ถูกนำมาแสดงอยู่ภายในบูธ Sharenovation ร่วมกับรถ Tesla Model X ด้วยเช่นกันที่ราคาขาย 98,000 บาท

>>> 7 เหตุผลความสำเร็จของค่ายรถไฟฟ้า Tesla

>>> อดีตประธานกรรมการ GM มองว่า นักสะสมควรจะซื้อรถของ Tesla ก่อนที่บริษัทจะไปไม่รอด

5 เรื่องของ Tesla Model X สุดของไฮไลท์รถไฟฟ้าในงานมอเตอร์โชว์ 2018

การมาของ Medel X ที่ราคา 11,380,000 บาทนอกเหนือจากจุดเด่นที่เหนือใครในเรื่องการเป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลกในเรื่องของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าแล้วนั้น ความโดดเด่นที่เหนือกว่าของ Tesla Model X จาก Sharenovation ในฐานะผู้นำเข้าอิสระ ไม่ใช่ตัวแทนจำหน่าย ไม่ใช่ Distributor อย่างเป็นทางการของ Tesla ทางบริษัทจึงจำหน่ายรถในลักษณะพร้อมชุดแต่ง ซึ่งทางบริษัทเป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ RevoZport และ Unplugged Performance (Unplugged Performance ออฟฟิสตั้งอยู่ตรงข้ามสำนักงานของ Tesla เลย) สำนักแต่งชื่อดังที่ผลิตอุปกรณ์ตกแต่งให้รถมากมายหลายรุ่นรวมไปถึง Tesla อีกทั้ง Sharenovation ยังมอบความมั่นใจให้กับผู้ซื้อด้วยทีมช่างผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์ในการดูแลรถ Tesla โดยเฉพาะ และนี่คือข้อเท็จจริงที่น่าสนใจในตัว Model X ค่าตัว 11 ล้านคันนี้ ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้รถไฟฟ้าสัญชาติลุงแซมนี้ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในอเมริกา และกำลังเข้ามาให้คนไทย(ที่เงินถึง)สัมผัสได้ง่ายขึ้น

ช่างผู้ชำนาญที่มีประสบการณ์ในการดูแลรถ Tesla จาก Sharenovation

1.เรื่องดีไซน์คือความอัศจรรย์

รู้หรือไม่ว่า Tesla Model X คันนี้เป็นรถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเต็มรูปแบบในรูปแบบรถ SUV คันแรกของโลก! และแม้ว่า Model X นี้จจะถูกพ่วงมากับคำว่ารถ SUV ก็ตาม แต่ทางทีมงานผู้ออกแบบของ Tesla ก็ภูมิใจเป็นอย่างมากในเรื่องของดีไซน์การออกแบบ จนได้ทิ้งคำนิยามแก่ Model X ไว้บนเว็บไซต์ ว่าถือเป็นการก้าวกระโดดในเรื่องของดีไซน์ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ด้านหลัง หรือด้านข้าง จวบไปจนฝากระโปรงท้าย ทำให้ Model X คันนี้ดูสปอร์ตมากจนลืมอารมณ์ความเป็นรถ SUV แบบเดิมๆ ไปได้เลย โดยพวกเขากล่าวว่า “ถือเป็นความสามารถในด้านวิศวกรรมอย่างน่าอัศจรรย์” แม้จะห้องโดยสารจะมีโจทย์มาว่าต้องเป็นรถ 7 ที่นั่ง แต่ทีมงานก็ยังดีไซน์รถอเนกประสงค์คันนี้ออกมาได้สปอร์ตอย่างไร้ที่ติ

ภายในดีไซน์ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งยานอวกาศ

2.ความแรงไม่ธรรมดา

Model X สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.2 วินาที ส่วนท็อปสปีดความเร็วสูดสุดที่รถไฟฟ้าคันนี้ทำได้อยู่ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วระดับนี้ในรถยนต์ไฟฟ้าถือว่าไม่ธรรมดา ใน Tesla Model X ถูกจัดระเบียบในเรื่องของการกระจายน้ำหนักไว้อย่างดีเลิศด้วยรูปแบบการจัดวางตัวแบตเตอรี่ไว้ ณ บริเวณกลางตัวรถที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อช่วยในเรื่องของสมดุลการขับขี่ แสดงให้เห็นว่า Tesla ออกแบบรถคันนี้มาไม่ได้เพียงแค่ต้องการเป็นรถจ่ายตลาด ขับชิวอย่างแน่นอน

ประตูปีกนกคือจุดเด่นใน Model X คันนี้

3.ประตูปีกนก Falcon Wing ที่ฉลาดมาก

ใครที่เคยชมหนังเรื่อง “Back To The Future” ช่วงยุค 80 น่าจะเคยคุ้นภาพกับรถ DeLorean ที่มากับประตูในปีกนก Falcon Wing ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทุกครั้งในยามที่จอดแล้วเปิดประตู แต่ในการเปิดประตูปีกนกใน DeLorean อาจไม่ค่อยถูกจริตกับผู้ใช้งานจริงในเรื่องของพื้นที่ ที่ต้องใช้ในการเปิดประตูแต่ละครั้งสักเท่าไรนัก จนเป็นเหตุให้ประตูในลักษณะนี้ไม่เป็นที่นิยมจากผู้ใช้รถสักเท่าไร ผ่านมากว่า 30 ปี Tesla นำไอเดียประตูปีกนกกลับมาสร้างเสียฮือฮาให้กับ Model X พร้อมกับรูปแบบการเปิดที่ฉลาดกว่าของตัวรถ ใช้พื้นที่น้อยกว่า เหมาะกับการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

Falcon Wing ในยุคนี้ ฉลาดขึ้น สามารถใช้งานได้โดยไม่เปลืองพื้นที่

4.ความปลอดภัยระดับสูงสุด

Model X ได้รับคะแนนในด้านความปลอดภัยระดับ 5 ดาวจาก NHTSA ซึ่งผลการทดสอบการชนนี้ส่งให้ Model X กลายเป็น SUV คันแรกที่ได้รับคะแนนความปลอดภัยระดับ 5 ดาวในทุกประเภทการทดสอบอุบัติเหตุ อานิสงส์จากรูปแบบโครงสร้าง เสาอลูมิเนียม และรางเหล็กที่ถูกจัดวางไว้รอบตัวผู้โดยสาร และแบตเตอรี่ที่ด้านใต้ทำให้ตัวรถมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำยังช่วยป้องการพลิกคว่ำเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย อีกทั้ง Model X ก็ไม่ได้มีเครื่องยนต์เหมือนรถยนต์ทั่วไป จึงทำให้มี “ช่วงยุบ” ในการช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้มากกว่า

นอกจากนี้ Model X ยังมอบความปลอดภัยจากการทำงานของเซ็นเซอร์โซนาร์รอบคัน 360 องศา รวมถึงกล้องมองเรดาร์ด้านหน้า จากการทำงานทั้งหมดของอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้ Model X สามารถใช้งานระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติ Autopilot บวกความอัฉริยะของตัว Software ทำให้สามารถอัพเดท Version ใหม่ๆ ได้ตลอดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหรือง่ายๆ ก็คือให้รถฉลาดมากขึ้นได้นั่นเอง  

Autopilot ที่สามารถอัพเดทการทำงานให้รถฉลาดขึ้นได้จาก Tesla

5.ราคาจริงๆ แค่ 4 ล้านกว่าบาท

ราคาขายของ Tesla Model X รุ่นย่อย 90D อยู่ที่ 132,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือตีเป็นเงินไทยคร่าวๆ ประมาณ 4 ล้านกว่าบาทเท่านั้น ส่วนในเวอร์ชั่นที่ทาง Sharenovation นำมาจำหน่ายจะมี 3 รุ่นย่อยให้เลือกดังต่อไปนี้

• Tesla Model X X75D 6,780,000 บาท
• Tesla Model X X100D 7,890,000 บาท
• Tesla Model X XP100D 11,380,000 บาท

ตัวเลขทั้งหมดบอกก่อนว่าเป็นเพียงราคาเริ่มต้น ถ้าเลือกสีที่ไม่ใช่สี Standard ล้อปรับเป็นขนาด 22 นิ้วจากเดิมขนาด 20 นิ้วหรืออยากได้เบาะนั่งแบบ 7 ตำแหน่ง ตัวเลขกว่า 6 หลักคือจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มไปกับฟังก์ชั่งพิเศษต่างๆ เพื่อให้รถเทสล่ามีความโดดเด่นเหนือกว่าทั่วไปที่ออกมาจากโรงงาน

และทั้งหมดคือสิ่งที่น่าสนใจใน Tesla Model X รถไฟฟ้าที่น่าสนใจ และถือเป็นไฮไลท์ที่สุดของงาน Bangkok Motor Show 2018 ครั้งนี้ ใครสนใจ อยากเห็นคันจริงๆ ตัวเป็นๆ ก็สามารถไปชมได้เลยภายในบูธ Sharenovation ซึ่งจะมีไปจนถึงวันที่ 8 เมษายน 2018 ที่ Impact เมืองทองธานี

และอย่าลืมบอกกับเราหน่อยว่าคุณชอบอะไร ในรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ใต้ Comment นี้เลย

>>> รถอ้างอิงในประเทศไทย: รถบ้านมือสอง